นับวันไข่ตก ไข่ตกคืออะไร มีเพศสัมพันธ์ตอนตกไข่แล้วท้องแน่หรือ ? แล้วการนับวันไข่ตกจะมีวิธีคํานวณวันไข่ตกยังไงให้แม่นเป๊ะ... ทุกคำตอบอยู่ที่นี่แล้ว !!
สำหรับบางคนแล้ว การมีลูกไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ พยายามทำทุกหนทางก็ยังไม่มีทายาทสมใจสักที คู่รักหลาย ๆ คู่ก็เลยหันมาลองใช้วิธี นับวันไข่ตก ของฝ่ายหญิงนี่แหละ เพราะเคยได้ยินมาว่า หากมีเพศสัมพันธ์กันในวันที่ฝ่ายหญิงตกไข่จะทำให้ตั้งครรภ์ได้ดังใจ เอ... แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าที่เขาพูดกันมาเนี่ยเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่า วันตกไข่ คือวันไหน การนับวันไข่ตก ดูยังไง กระปุกเบบี้เลยมีคำแนะนำพร้อมวิธีคํานวณวันไข่ตกมาบอกให้รู้กันแล้ว
ตกไข่ คืออะไรนะ ?
พูดถึง "ตกไข่" (หรือบางคนเรียก "ไข่ตก") ฟัง แล้วก็สงสัยอยู่เหมือนกันเนอะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องของร่างกายเราที่คุณสาว ๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดควรรู้เอาไว้บ้างค่ะ อย่างที่รู้ว่าในระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงจะมีรังไข่อยู่ 2 อัน คือข้างซ้ายและขวา รังไข่แต่ละข้างจะมีหน้าที่สลับกันผลิตไข่เดือนละครั้ง เมื่อถึงเวลาไข่สุก ไข่จะเคลื่อนออกจากรังไข่เข้าไปสู่ท่อนำไข่ เท่ากับว่าผู้หญิงจะตกไข่เดือนละ 1 ใบเท่านั้นเอง
ทั้งนี้ ผู้หญิงทุกคนจะมีไข่ถูกผลิตขึ้นมาตั้งแต่เราเกิดประมาณ 1-2 ล้านฟอง แต่จะมีไข่เพียง 300-400 ใบเท่านั้นที่จะมีการเจริญเติบโตเต็มที่เป็นไข่ที่สมบูรณ์พร้อมที่จะรับการ ปฏิสนธิ
ตกไข่แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ?
เมื่อมีการตกไข่เกิดขึ้น มดลูกจะสร้างผนังมดลูกให้หนาตัวขึ้น และส่วนนี้ก็จะมีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้นด้วย เพื่อรองรับการปฏิสนธินั่นเอง ดังนั้น หากคุณผู้หญิงอยู่ในช่วงตกไข่ ก็อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงกับร่างกายเกิดขึ้นได้ใน 2 แบบก็คือ
- มีโอกาสตั้งครรภ์ ถ้าคุณผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์ในช่วงตกไข่พอดี อสุจิที่เคลื่อนเข้ามาในท่อนำไข่จะเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ที่บริเวณท่อนำไข่ ด้านที่ใกล้กับรังไข่ และเมื่อไข่ได้รับการผสมแล้วจะเคลื่อนตัวเข้าไปฝังตัวในผนังมดลูก เพื่อเติบโตเป็นเด็กทารกต่อไป
- มีประจำเดือน ในกรณีที่ไม่มีอสุจิเข้ามาผสมกับไข่ในช่วงตกไข่ ไข่ที่ตกมาจะสลายตัวก่อนผ่านไปถึงมดลูก เมื่อมดลูกเห็นว่าไม่มีตัวอ่อนมาฝังที่ผนังมดลูกแล้ว ผนังหนา ๆ หรือที่เรียกว่าเยื่อบุโพรงมดลูกที่เคยสร้างไว้และมีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยง ก็จะสลายตัวเช่นกัน แล้วไหลไปทางช่องคลอดออกสู่ร่างกาย อย่างที่เรียกว่า "ประจำเดือน" ซึ่งโดยปกติจะมาทุก ๆ 28 วันค่ะ แต่ให้บวกลบ 7 คือในบางคนอาจมีรอบเดือนสั้นทุก ๆ 21 วัน ขณะที่บางคนอาจมีรอบเดือนยาวถึง 35 วันเลย
ปกติแล้วเด็กผู้หญิงจะเริ่มมีประจำ เดือนตั้งแต่อายุประมาณ 12 ปีขึ้นไป และจะมีประจำเดือนไปทุกเดือนจนกว่าจะอายุ 50 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม บางคนอาจจะมีประจำเดือนตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 12 ปี หรือบางคนอาจเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 50 ปีก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของร่างกายในแต่ละคน
มีเพศสัมพันธ์ตอนตกไข่ท้องแน่เหรอ ?
อย่างที่บอกไปแล้วนะจ๊ะว่า หากมีอสุจิเข้ามาผสมกับไข่ในช่วงตกไข่พอดี คุณผู้หญิงก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ เพราะฉะนั้น ช่วงนั้นก็ต้องชวนคุณสามีทำการบ้านกันให้บ่อยขึ้นหน่อยเนอะ >< เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์
แต่หากไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ไข่ก็จะสลายไป เลยมีทริคแนะนำว่า ถ้าลองคำนวณดูแล้วไม่แน่ใจว่าวันที่คำนวณได้จะใช่วันตกไข่จริงหรือเปล่า ก็แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์กันในช่วงสองวันก่อนหน้า และสองวันหลังของวันที่คำนวณได้ไว้ด้วย เป็นการเผื่อเหลือเผื่อขาดในช่วง 5 วันนี้แหละ เพราะแม้ว่าไข่ที่ตกจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ 12-24 ชั่วโมงเท่านั้น แต่อสุจิสามารถอยู่ได้นานถึง 3-5 วันเลย ดังนั้น หากมีอสุจิค้างอยู่มาเจอกับช่วงที่ไข่ตกลงมาจ๊ะเอ๋กันพอดี ก็ได้เฮล่ะ
อีกอย่างที่ควรรู้ก็คือ การมีเพศสัมพันธ์ทุกวันไม่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นนะคะ เพราะยิ่งมีเพศสัมพันธ์ทุกวัน อสุจิก็ยิ่งมีน้อยลงไปด้วย จึงแนะนำให้มีเพศสัมพันธ์แบบวันเว้นวันจะดีกว่า
ส่วนที่ว่าจะรับประกันได้ไหมว่าหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้จะทำให้ตั้งครรภ์ร้อย เปอร์เซ็นต์ ต้องอธิบายว่า คงไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ เพราะการจะตั้งครรภ์ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งสุขภาพของคุณพ่อที่เกี่ยวข้องกับความแข็งแรงของอสุจิเองด้วย
วันตกไข่ดูยังไง ?
มาถึงคำถามที่คนอยากมีลูกอยากรู้ว่าจะคำนวณวันตกไข่ให้เป๊ะ ๆ อย่างไรล่ะ ถึงจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงสุด ขอบอกว่าโดยปกติแล้ว ไข่จะตกในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา ซึ่งการจะคำนวณวันตกไข่ให้แม่น ๆ นั้น มักจะใช้ได้กับคุณผู้หญิงที่รอบประจำเดือนมาตรงเท่านั้น คือ หากรอบเดือนมาทุก 28 วัน ไข่จะตกในราววันที่ 14 ของรอบเดือนค่ะ (นับวันที่ประจำเดือนมาเป็นวันที่ 1) หรือหากใครมีรอบเดือนสั้นกว่านี้ ไข่ก็จะหล่นเร็วขึ้นหลังจากประจำเดือนมาวันแรก
ถ้าอยากรู้ว่าประจำเดือนเรามาสม่ำเสมอหรือไม่ ก็ให้หาปฏิทินมา เมื่อประจำเดือนมาวันไหนก็ให้กาลงในปฏิทินเลย ทำไปเรื่อย ๆ สัก 3-4 เดือน แล้วลองนับช่วงระยะห่างที่ประจำเดือนมาวันแรกดู เราก็จะรู้แล้วว่าประจำเดือนของเรามาสม่ำเสมอดีไหม
แต่ถ้าคุณผู้หญิงคนไหนที่รอบประจำเดือนไม่ค่อยตรง การคำนวณวันตกไข่ก็อาจมีความคลาดเคลื่อนได้ แต่จริง ๆ เราก็พอมีวิธีสังเกต หรือสัญญาณบอกว่าอาจเรากำลังอยู่ในช่วงตกไข่อยู่เหมือนกัน นั่นคือ...
- วัดอุณหภูมิของร่างกาย ปกติแล้วก่อนตกไข่ อุณหภูมิของร่างกายจะลดลง กระทั่งเมื่อไข่ตกไปแล้ว อุณหภูมิจึงจะเพิ่มขึ้น เพราะรังไข่หลั่งฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนออกมา ดังนั้น คุณผู้หญิงต้องลองวัดอุณหภูมิของตัวเองดูแล้วจดบันทึกไว้ให้ครบรอบวงจรจาก วันที่ 1 ของการมีประจำเดือนไปจนถึงวันที่ 1 ของการมีประจำเดือนมาอีกรอบ โดยควรจะวัดเวลาเดียวกันทุกเช้าก่อนลุกจากที่นอน ก่อนดื่มน้ำ รับประทานอาหาร เพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์จะทำให้อุณหภูมิ ของร่างกายเราสูงขึ้นในช่วงเช้า
- สังเกตอาการปวดท้องของตัวเอง ข้อนี้หลายคนคงรู้สึกได้ว่าก่อนประจำเดือนมา เราจะมีอาการปวดหน่วง ๆ ที่ท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเดือนนั้นไข่จากรังไข่ฝั่งไหนจะตก และอาจมีอาการอ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีเลือดออกมาจากช่องคลอดเล็กน้อย 1-2 วัน
- มีตกขาวออกจากช่องคลอด ตกขาวจะมีลักษณะเป็นของเหลวมูก ๆ คล้ายไข่ขาวดิบ หรือวุ้นเหนียว ๆ ถ้าช่วงไหนมีมูกมาก ๆ เยิ้ม ๆ แสดงว่าเป็นช่วงตกไข่ และช่วงนี้ปากมดลูกจะนุ่มขึ้น ใหญ่ขึ้น และชื้นมากขึ้นด้วย
อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ากำลังอยู่ในช่วงตกไข่ แต่อาจจะระบุวันที่แบบเป๊ะ ๆ คงไม่ได้เหมือนกันค่ะ เพราะวงจรการตกไข่ของแต่ละคนแต่ละเดือนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกิจวัตรประจำวัน สภาวะจิตใจ อารมณ์ของคุณในช่วงนั้นด้วย
ชุดทดสอบระยะตกไข่ ใช้อย่างไร ?
คนที่มีรอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออาจลองหาซื้อชุดทดสอบระยะตกไข่จากร้านขายยา มาตรวจสอบดูก็ได้ค่ะ ซึ่งทดสอบได้เองไม่ยากเลย แค่ตรวจวัดระดับฮอร์โมน LH (Luteinizing hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเหนี่ยวนำให้ไข่ตกที่พบได้จากปัสสาวะ ถ้าอยู่ในช่วงใกล้ไข่ตก ค่า LH จะเพิ่มมากขึ้น และจะไปสูงสุดในวันที่ไข่ตกนั่นเอง ถ้าลองทดสอบดูแล้วเห็นแถบสีจาง ๆ แล้วเข้มขึ้นเรื่อย ๆ แสดงว่าใกล้จะตกไข่แล้ว ช่วงนี้ก็คงต้องเร่งให้คุณสามีมาปั๊มลูกบ่อยครั้งขึ้นหน่อยล่ะ แต่ถ้าทดสอบไปแล้วสีเข้ม ๆ ค่อย ๆ จางลง แสดงว่าผ่านพ้นช่วงตกไข่ไปแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกด้วยว่าการตรวจปัสสาวะนี้อาจให้ผลแม่นยำได้ไม่มากเท่ากับตรวจเลือด ถ้าสามีภรรยาคู่ไหนอยากมีลูกจริง ๆ ก็อาจใช้วิธีตรวจเลือดแทน ซึ่งจะให้ผลแม่นยำและละเอียดกว่าการตรวจปัสสาวะ
ทีนี้ก็คงพอเข้าใจเรื่องการตกไข่แล้วล่ะเนอะ ฝ่ายหญิงที่อยากมีลูกก็ลองเก็บข้อมูลตรงนี้แล้วไปนับวันดูเลย แต่ถ้าพยายามแล้วก็ยังไม่มีเบบี้ตัวน้อย ๆ มาจุติในท้องเสียที คงต้องเข้าไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อขอคำแนะนำกันแล้วล่ะค่ะ ซึ่งคุณหมอก็อาจจะใช้วิธีให้ยากระตุ้นการตกไข่ หรืออาจแนะนำวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นก็ได้
ข้อมูลจาก : vibhavadi.com, welovebabyclothes.com, thaigoodview.com
สำหรับบางคนแล้ว การมีลูกไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ พยายามทำทุกหนทางก็ยังไม่มีทายาทสมใจสักที คู่รักหลาย ๆ คู่ก็เลยหันมาลองใช้วิธี นับวันไข่ตก ของฝ่ายหญิงนี่แหละ เพราะเคยได้ยินมาว่า หากมีเพศสัมพันธ์กันในวันที่ฝ่ายหญิงตกไข่จะทำให้ตั้งครรภ์ได้ดังใจ เอ... แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าที่เขาพูดกันมาเนี่ยเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่า วันตกไข่ คือวันไหน การนับวันไข่ตก ดูยังไง กระปุกเบบี้เลยมีคำแนะนำพร้อมวิธีคํานวณวันไข่ตกมาบอกให้รู้กันแล้ว
พูดถึง "ตกไข่" (หรือบางคนเรียก "ไข่ตก") ฟัง แล้วก็สงสัยอยู่เหมือนกันเนอะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องของร่างกายเราที่คุณสาว ๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดควรรู้เอาไว้บ้างค่ะ อย่างที่รู้ว่าในระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงจะมีรังไข่อยู่ 2 อัน คือข้างซ้ายและขวา รังไข่แต่ละข้างจะมีหน้าที่สลับกันผลิตไข่เดือนละครั้ง เมื่อถึงเวลาไข่สุก ไข่จะเคลื่อนออกจากรังไข่เข้าไปสู่ท่อนำไข่ เท่ากับว่าผู้หญิงจะตกไข่เดือนละ 1 ใบเท่านั้นเอง
ทั้งนี้ ผู้หญิงทุกคนจะมีไข่ถูกผลิตขึ้นมาตั้งแต่เราเกิดประมาณ 1-2 ล้านฟอง แต่จะมีไข่เพียง 300-400 ใบเท่านั้นที่จะมีการเจริญเติบโตเต็มที่เป็นไข่ที่สมบูรณ์พร้อมที่จะรับการ ปฏิสนธิ
ตกไข่แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ?
เมื่อมีการตกไข่เกิดขึ้น มดลูกจะสร้างผนังมดลูกให้หนาตัวขึ้น และส่วนนี้ก็จะมีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้นด้วย เพื่อรองรับการปฏิสนธินั่นเอง ดังนั้น หากคุณผู้หญิงอยู่ในช่วงตกไข่ ก็อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงกับร่างกายเกิดขึ้นได้ใน 2 แบบก็คือ
- มีโอกาสตั้งครรภ์ ถ้าคุณผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์ในช่วงตกไข่พอดี อสุจิที่เคลื่อนเข้ามาในท่อนำไข่จะเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ที่บริเวณท่อนำไข่ ด้านที่ใกล้กับรังไข่ และเมื่อไข่ได้รับการผสมแล้วจะเคลื่อนตัวเข้าไปฝังตัวในผนังมดลูก เพื่อเติบโตเป็นเด็กทารกต่อไป
- มีประจำเดือน ในกรณีที่ไม่มีอสุจิเข้ามาผสมกับไข่ในช่วงตกไข่ ไข่ที่ตกมาจะสลายตัวก่อนผ่านไปถึงมดลูก เมื่อมดลูกเห็นว่าไม่มีตัวอ่อนมาฝังที่ผนังมดลูกแล้ว ผนังหนา ๆ หรือที่เรียกว่าเยื่อบุโพรงมดลูกที่เคยสร้างไว้และมีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยง ก็จะสลายตัวเช่นกัน แล้วไหลไปทางช่องคลอดออกสู่ร่างกาย อย่างที่เรียกว่า "ประจำเดือน" ซึ่งโดยปกติจะมาทุก ๆ 28 วันค่ะ แต่ให้บวกลบ 7 คือในบางคนอาจมีรอบเดือนสั้นทุก ๆ 21 วัน ขณะที่บางคนอาจมีรอบเดือนยาวถึง 35 วันเลย
ปกติแล้วเด็กผู้หญิงจะเริ่มมีประจำ เดือนตั้งแต่อายุประมาณ 12 ปีขึ้นไป และจะมีประจำเดือนไปทุกเดือนจนกว่าจะอายุ 50 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม บางคนอาจจะมีประจำเดือนตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 12 ปี หรือบางคนอาจเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 50 ปีก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของร่างกายในแต่ละคน
มีเพศสัมพันธ์ตอนตกไข่ท้องแน่เหรอ ?
อย่างที่บอกไปแล้วนะจ๊ะว่า หากมีอสุจิเข้ามาผสมกับไข่ในช่วงตกไข่พอดี คุณผู้หญิงก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ เพราะฉะนั้น ช่วงนั้นก็ต้องชวนคุณสามีทำการบ้านกันให้บ่อยขึ้นหน่อยเนอะ >< เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์
แต่หากไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ไข่ก็จะสลายไป เลยมีทริคแนะนำว่า ถ้าลองคำนวณดูแล้วไม่แน่ใจว่าวันที่คำนวณได้จะใช่วันตกไข่จริงหรือเปล่า ก็แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์กันในช่วงสองวันก่อนหน้า และสองวันหลังของวันที่คำนวณได้ไว้ด้วย เป็นการเผื่อเหลือเผื่อขาดในช่วง 5 วันนี้แหละ เพราะแม้ว่าไข่ที่ตกจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ 12-24 ชั่วโมงเท่านั้น แต่อสุจิสามารถอยู่ได้นานถึง 3-5 วันเลย ดังนั้น หากมีอสุจิค้างอยู่มาเจอกับช่วงที่ไข่ตกลงมาจ๊ะเอ๋กันพอดี ก็ได้เฮล่ะ
อีกอย่างที่ควรรู้ก็คือ การมีเพศสัมพันธ์ทุกวันไม่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นนะคะ เพราะยิ่งมีเพศสัมพันธ์ทุกวัน อสุจิก็ยิ่งมีน้อยลงไปด้วย จึงแนะนำให้มีเพศสัมพันธ์แบบวันเว้นวันจะดีกว่า
ส่วนที่ว่าจะรับประกันได้ไหมว่าหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้จะทำให้ตั้งครรภ์ร้อย เปอร์เซ็นต์ ต้องอธิบายว่า คงไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ เพราะการจะตั้งครรภ์ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งสุขภาพของคุณพ่อที่เกี่ยวข้องกับความแข็งแรงของอสุจิเองด้วย
มาถึงคำถามที่คนอยากมีลูกอยากรู้ว่าจะคำนวณวันตกไข่ให้เป๊ะ ๆ อย่างไรล่ะ ถึงจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงสุด ขอบอกว่าโดยปกติแล้ว ไข่จะตกในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา ซึ่งการจะคำนวณวันตกไข่ให้แม่น ๆ นั้น มักจะใช้ได้กับคุณผู้หญิงที่รอบประจำเดือนมาตรงเท่านั้น คือ หากรอบเดือนมาทุก 28 วัน ไข่จะตกในราววันที่ 14 ของรอบเดือนค่ะ (นับวันที่ประจำเดือนมาเป็นวันที่ 1) หรือหากใครมีรอบเดือนสั้นกว่านี้ ไข่ก็จะหล่นเร็วขึ้นหลังจากประจำเดือนมาวันแรก
ถ้าอยากรู้ว่าประจำเดือนเรามาสม่ำเสมอหรือไม่ ก็ให้หาปฏิทินมา เมื่อประจำเดือนมาวันไหนก็ให้กาลงในปฏิทินเลย ทำไปเรื่อย ๆ สัก 3-4 เดือน แล้วลองนับช่วงระยะห่างที่ประจำเดือนมาวันแรกดู เราก็จะรู้แล้วว่าประจำเดือนของเรามาสม่ำเสมอดีไหม
แต่ถ้าคุณผู้หญิงคนไหนที่รอบประจำเดือนไม่ค่อยตรง การคำนวณวันตกไข่ก็อาจมีความคลาดเคลื่อนได้ แต่จริง ๆ เราก็พอมีวิธีสังเกต หรือสัญญาณบอกว่าอาจเรากำลังอยู่ในช่วงตกไข่อยู่เหมือนกัน นั่นคือ...
- วัดอุณหภูมิของร่างกาย ปกติแล้วก่อนตกไข่ อุณหภูมิของร่างกายจะลดลง กระทั่งเมื่อไข่ตกไปแล้ว อุณหภูมิจึงจะเพิ่มขึ้น เพราะรังไข่หลั่งฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนออกมา ดังนั้น คุณผู้หญิงต้องลองวัดอุณหภูมิของตัวเองดูแล้วจดบันทึกไว้ให้ครบรอบวงจรจาก วันที่ 1 ของการมีประจำเดือนไปจนถึงวันที่ 1 ของการมีประจำเดือนมาอีกรอบ โดยควรจะวัดเวลาเดียวกันทุกเช้าก่อนลุกจากที่นอน ก่อนดื่มน้ำ รับประทานอาหาร เพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์จะทำให้อุณหภูมิ ของร่างกายเราสูงขึ้นในช่วงเช้า
- สังเกตอาการปวดท้องของตัวเอง ข้อนี้หลายคนคงรู้สึกได้ว่าก่อนประจำเดือนมา เราจะมีอาการปวดหน่วง ๆ ที่ท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเดือนนั้นไข่จากรังไข่ฝั่งไหนจะตก และอาจมีอาการอ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีเลือดออกมาจากช่องคลอดเล็กน้อย 1-2 วัน
- มีตกขาวออกจากช่องคลอด ตกขาวจะมีลักษณะเป็นของเหลวมูก ๆ คล้ายไข่ขาวดิบ หรือวุ้นเหนียว ๆ ถ้าช่วงไหนมีมูกมาก ๆ เยิ้ม ๆ แสดงว่าเป็นช่วงตกไข่ และช่วงนี้ปากมดลูกจะนุ่มขึ้น ใหญ่ขึ้น และชื้นมากขึ้นด้วย
อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ากำลังอยู่ในช่วงตกไข่ แต่อาจจะระบุวันที่แบบเป๊ะ ๆ คงไม่ได้เหมือนกันค่ะ เพราะวงจรการตกไข่ของแต่ละคนแต่ละเดือนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกิจวัตรประจำวัน สภาวะจิตใจ อารมณ์ของคุณในช่วงนั้นด้วย
ชุดทดสอบระยะตกไข่ ใช้อย่างไร ?
คนที่มีรอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออาจลองหาซื้อชุดทดสอบระยะตกไข่จากร้านขายยา มาตรวจสอบดูก็ได้ค่ะ ซึ่งทดสอบได้เองไม่ยากเลย แค่ตรวจวัดระดับฮอร์โมน LH (Luteinizing hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเหนี่ยวนำให้ไข่ตกที่พบได้จากปัสสาวะ ถ้าอยู่ในช่วงใกล้ไข่ตก ค่า LH จะเพิ่มมากขึ้น และจะไปสูงสุดในวันที่ไข่ตกนั่นเอง ถ้าลองทดสอบดูแล้วเห็นแถบสีจาง ๆ แล้วเข้มขึ้นเรื่อย ๆ แสดงว่าใกล้จะตกไข่แล้ว ช่วงนี้ก็คงต้องเร่งให้คุณสามีมาปั๊มลูกบ่อยครั้งขึ้นหน่อยล่ะ แต่ถ้าทดสอบไปแล้วสีเข้ม ๆ ค่อย ๆ จางลง แสดงว่าผ่านพ้นช่วงตกไข่ไปแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกด้วยว่าการตรวจปัสสาวะนี้อาจให้ผลแม่นยำได้ไม่มากเท่ากับตรวจเลือด ถ้าสามีภรรยาคู่ไหนอยากมีลูกจริง ๆ ก็อาจใช้วิธีตรวจเลือดแทน ซึ่งจะให้ผลแม่นยำและละเอียดกว่าการตรวจปัสสาวะ
ทีนี้ก็คงพอเข้าใจเรื่องการตกไข่แล้วล่ะเนอะ ฝ่ายหญิงที่อยากมีลูกก็ลองเก็บข้อมูลตรงนี้แล้วไปนับวันดูเลย แต่ถ้าพยายามแล้วก็ยังไม่มีเบบี้ตัวน้อย ๆ มาจุติในท้องเสียที คงต้องเข้าไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อขอคำแนะนำกันแล้วล่ะค่ะ ซึ่งคุณหมอก็อาจจะใช้วิธีให้ยากระตุ้นการตกไข่ หรืออาจแนะนำวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นก็ได้
ข้อมูลจาก : vibhavadi.com, welovebabyclothes.com, thaigoodview.com