
3 วิธี สร้างบรรยากาศสบาย สไตล์แม่ท้อง (Mother&Care)
นอกเหนือจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อสุขภาพกายที่แข็งแรงของแม่ท้องแล้ว อีกปัจจัยที่สําคัญไม่แพ้กันต่อสุขภาพและลูกน้อยก็คือ ที่อยู่อาศัยและบรรยากาศรอบตัว ลองมาดูกันว่าห้องที่แม่ท้องอยู่ควรจะเป็นอย่างไรจึงจะดีต่อสุขภาพทั้งของคุณแม่และลูกน้อยในท้อง
1. ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเท




ทั้งนี้ ห้องที่อยู่ประจำควรทําความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
2. เครื่องใช้คงทน แข็งแรง
ภายในห้องควรมีเฉพาะของใช้ที่จําเป็นเท่านั้น เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งควรเป็นเครื่องใช้ที่มีความคงทนและแข็งแรง หากเป็นเก้าอี้หรือโซฟาก็ไม่ควรจะเป็นแบบที่มีล้อเลื่อน เนื่องจากอาจทําให้คุณแม่ลื่นล้มเวลาลุกขึ้นยืนหรือนั่งได้ นอกจากนี้ตู้เก็บของหรือชั้นวางของก็ไม่ควรเป็นตู้หรือชั้นที่สูงนักและไม่ควรมีมุมที่แหลม เพื่อให้คุณแม่สามารถหยิบจับของใช้ได้สะดวก
3. ผ่อนคลายด้วยธรรมชาติและเสียงเพลง
หากภายในบริเวณบ้านมีสวนหน้าบ้านก็เป็นเรื่องไม่ยากที่แม่ท้องจะเดินออกกําลังกายภายในสวนเพื่อช่วยผ่อนคลายความกังวลและรับอากาศบริสุทธิ์ แต่ถ้าไม่มีสวนหน้าบ้าน ภายในห้องอาจวางต้นไม้ประดับต้นเล็ก ๆ ไว้ที่ข้างหน้าต่าง ไว้ให้มองหรือรดน้ำในยามว่าง ส่วนบริเวณริมหน้าต่างอาจติดโมบายเล็ก ๆ ให้พอมีเสียงเบา ๆ เวลาลมพัดมากระทบ สําหรับคุณแม่ที่อยู่ในห้องปรับอากาศอาจหาโอกาสไปสูดอากาศบริสุทธิ์ภายนอกห้องบ้าง
นอกจากนี้อาจเพิ่มบรรยากาศภายในห้องด้วยการจุดเทียนหอมหรือน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากธรรมชาติและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ก็จะช่วยให้รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายลงได้ หรือการเปิดเพลงเบาๆ อย่างเพลงคลาสสิคหรือเสียงดนตรีจากธรรมชาติ อาทิ เสียงใบไม้ไหว เสียงน้ำไหลเบาๆ คลอไปด้วย ก็จะทําให้ลูกน้อยที่ได้ฟังเสียงดนตรีตั้งแต่อยู่ในท้องแม่มีพัฒนาการทางสมองและเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่อารมณ์ดี รวมถึงเมื่อลูกในท้องมีอายุได้ 24 สัปดาห์ ในช่วงนี้ลูกจะสามารถจดจําเสียงได้แล้ว และหากได้ยินเสียงดนตรีซ้ำกันบ่อย ๆ เขาก็จะรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนั้นเมื่อเขาโตขึ้น
การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในห้อง ก็จะทําให้คุณแม่มีร่างกายที่แข็งแรงควบคู่กับจิตใจที่ผ่อนคลาย เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีของลูกน้อยในท้องด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
