
แม่มือโปร...คุณก็เป็นได้ (รักลูก)
โดย: ธิดาโดม
เพราะการเป็น "แม่" คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ของชีวิตผู้หญิงเราค่ะ รักลูกขอเชิดชู "แม่" ทุกท่านด้วยทุกตัวอักษรต่อไปนี้ ที่จะช่วยให้ "แม่" เปี่ยมความหมายด้วยความสามารถในการปฏิบัติค่ะ
1. โปร...ตั้งแต่เตรียมเป็นแม่
เมื่อตัดสินใจแต่งงานเริ่มต้นชีวิตคู่แล้ว ก่อนจะเป็นแม่ ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ กันก่อนค่ะ ซึ่งการเตรียมตัวก่อนมีลูกจะช่วยให้คุณแม่จัดการเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ง่ายขึ้น เรื่องที่คุณแม่ไม่ควรพลาดในการเตรียม เช่น

การวางแผนครอบครัวเป็นการตกลงกันระหว่างสามีภรรยา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตคู่ เพราะถ้าไม่มีการตั้งเป้าหมายในชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัวก็อาจจะไม่มั่นคง หรือในบางกรณีหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น การวางแผนครอบครัวล่วงหน้า จะช่วยให้คุณสามารถตั้งรับและปรับตัวได้ทันค่ะ

เพราะสุขภาพร่างกายของแม่มีผลโดยตรงต่อสุขภาพของลูก ดังนั้นก่อนที่จะตั้งครรภ์ คุณแม่จึงต้องตรวจร่างกายให้พร้อมเสียก่อน และหากคุณแม่มีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรค SLE ฯลฯ คุณหมอจะได้รีบทำการรักษาหรือให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะยาบางชนิดไม่สามารถทานได้ในระหว่างตั้งครรภ์

คุณแม่มือใหม่หลาย ๆ คนมักจะเป็นกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการเลี้ยงลูก จนบางครั้งอาจหลงลืมไปว่า ความเครียดส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจได้ไม่น้อย
ดังนั้นก่อนที่คุณแม่จะตั้งครรภ์ ต้องเตรียมใจยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด และต้องมั่นใจว่าสามารถทำหน้าที่ของแม่ที่ดีได้ ต้องเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ค่ะ

คุณแม่มือโปรต้องมีข้อมูลค่ะ อย่าเสี่ยงเลี้ยงลูกตามมีตามเกิด เราต้องหาข้อมูลเตรียมเอาไว้เสมอ โดยเฉพาะสมัยนี้ข้อมูลความรู้หาได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต เรียกได้ว่าเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ข้อมูลอะไรต่าง ๆ ที่ต้องการทราบ ก็จะปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือโดยทันที
2. ดูแลครรภ์อย่างมือโปร
หลังจากเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว ตอนนี้ก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญอีกช่วงหนึ่ง นั่นคือช่วงตั้งครรภ์นั่นเอง เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและดีใจไม่น้อย เมื่อพบว่าในร่างกายของเรามีอีกหนึ่งชีวิตน้อย ๆ อยู่ ซึ่งคุณแม่ต้องดูแลสุขภาพครรภ์อย่างดีด้วย เช่น



3. โปร...เรื่องเลี้ยงลูก
หลังจากที่เจ้าตัวเล็กออกมาลืมตาดูโลกภายนอกแล้ว คุณแม่คือผู้สร้างเกราะป้องกันให้กับเขาค่ะ โดยเฉพาะเมื่อแรกเกิด ยิ่งรู้จักลูกได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกได้เร็วเท่านั้น

เป็นเรื่องที่น่ายินดีและมีความสุขมากเลยนะคะ กับการได้เห็นหน้าลูกครั้งแรก ได้อุ้ม ได้โอบกอด แล้วก็ให้เขาได้ดูดนมจนหลับไป และนับจากนี้ต่อไป มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ลูกน้อยจะต้องเรียนรู้ ขณะเดียวกันคุณแม่เองก็ต้องเรียนรู้ไปกับเขาด้วยเช่นกันค่ะ โดยสิ่งที่คุณแม่ต้องทำความรู้จัก เช่น
สายสัมพันธ์แรกคลอด เป็นสิ่งแรกที่คุณแม่จะต้องรู้และให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกก็คือสัมผัสต่างๆ จากตัวของแม่ โดยสัมผัสแรกที่ลูกจะได้รับคือความอบอุ่นจากการโอบกอด สัมผัสต่อมาคือความอบอุ่นจากรสของอาหารมื้อแรก ซึ่งก็คือน้ำนมจากอกของคุณแม่นั่นเอง
ปฏิกิริยาสะท้อนกลับ แรกคลอด ลูกจะมีปฏิกิริยาสะท้อนกลับได้ดีหรือไม่นั้น คุณแม่สามารถสังเกตได้โดย



หากลูกไม่มีการตอบสนองใด ๆ เขาก็อาจจะมีปัญหาในเรื่องระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาท หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นอัมพฤต หรืออัมพาตได้ค่ะ
การนอนและการหายใจ เด็กทารกมักจะนอนหลับมากกว่าช่วงวัยอื่นๆ โดยเฉพาะในวันแรกๆ หลังคลอด แต่ถึงจะนอนมากอย่างไร ลูกก็จะนอนได้ไม่ยาวนานนัก
คุณแม่เองก็ต้องระวังเรื่องของท่านอนของลูกด้วย เพราะท่านอนของลูกสัมพันธ์กับจังหวะการหายใจ หากให้ลูกนอนคว่ำหรือนอนในลักษณะที่ไม่สบาย ลูกมีโอกาสเสียชีวิตได้

พ่อแม่คือผู้ที่จะกระตุ้นพัฒนาการของลูกได้ดีที่สุด ผ่านวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้ คือ







เป็นแบบอย่างที่ดี หากอยากให้ลูกเป็นแบบไหน คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเป็นเช่นนั้นก่อนค่ะ เช่น อยากให้ลูกเป็นคนซื่อสัตย์เราก็ต้องซื่อสัตย์ให้ลูกเห็น อยากให้ลูกเป็นคนอ่อนโยน มีน้ำใจ เมตตาปราณี ก็ต้องทำเป็นตัวอย่าง เป็นต้น
4. มือโปรต้องจัดการเป็น
นอกจากจะรู้และเชี่ยวชาญเรื่องการเลี้ยงลูกแล้ว แม่มือโปรต้องสามารถรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาให้ได้ด้วยนะคะ เพราะถ้าหากเลี้ยงลูกเป็น แต่จัดการปัญหาไม่ได้ก็จะส่งผลกระทบต่อทั้งลูกและครอบครัวเราด้วย โดยคุณแม่จะต้อง...

แม่มือโปรต้องรับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวันได้ ทั้งที่คาดเดาได้และที่อยู่เหนือการคาดเดา เช่น ปัญหาการจราจรในตอนเช้า คุณแม่ working mom บางคนใช้วิธีตื่นเช้า ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติด แต่คุณแม่อีกกลุ่มเลือกใช้ช่วงเวลารถติดในการพูดคุย อบรมสั่งสอน เล่านิทาน และเล่นกับลูกในช่วงเวลานั้น

คุณแม่มือโปรต้องจัดการภาวะอารมณ์ของตนเองให้ได้ค่ะ เช่น ถ้าคุณแม่หงุดหงิดที่ลูกร้องงอแง ก็อาจจับหรืออุ้มลูกไม่นุ่มนวลเท่าในขณะที่อารมณ์ดี ซึ่งลูกสามารถรับรู้ได้แม้จะเป็นทารก หรือทุกเช้าที่ต้องไปส่งลูกที่โรงเรียน ถ้าต้องเจอสภาพปัญหาจราจรที่ติดขัดทุกวัน ถ้าคุณแม่หงุดหงิด ขี้บ่น หรือโมโห ลูกก็จะซึมซับพฤติกรรมของคุณแม่ไปค่ะ

ครอบครัวมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดค่ะ คุณแม่จะเป็นแม่มือโปรได้ก็ต้องอาศัยครอบครัวเป็นแรงสนับสนุน ขณะเดียวกันคุณแม่เองก็ต้องสามารถจัดการเรื่องต่างๆ ในครอบครัวตนเองได้
เชื่อว่าด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ + ความใส่ใจ + พลังรักอันยิ่งใหญ่ที่คุณแม่มีให้ลูกน้อย จะเป็นแรงส่งให้คุณเป็น "แม่มือโปร" ได้อย่างสบาย ๆ นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
