กินอะไรให้ลูกฉลาด ? คำถามยอดฮิตที่คุณแม่หลายคนสงสัย ลองมาดูกันสิว่าจะมีอาหารประเภทใดบ้างที่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ช่วยบำรุงสมองและพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ให้ฉลาดได้บ้าง
เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนนอกจากจะคาดหวังให้ลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัย ครบ 32 ประการ เติบโตเป็นเด็กน่ารัก มีร่างกายแข็งแรง และเลี้ยงง่ายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการให้ลูกเป็นเด็กฉลาด เรียนรู้ได้เร็ว ใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งความฉลาดของลูกไม่ได้มาจากด้านพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกิดมาจากสภาพแวดล้อมและพัฒนาการในช่วงเจริญเติบโต หากเด็กได้รับการดูแลที่เหมาะสมแล้ว ก็จะเกิดการพัฒนาทางด้านสมอง สติปัญญา ความคิดและกระบวนการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี
ซึ่งวิธีทำให้ลูกฉลาดนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างได้ โดยการกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงคลอด ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงพฤติกรรมของคุณแม่ ทั้งการดูแลตัวเอง การออกกำลังกาย การพักผ่อนคลายเครียด รวมไปถึงเรื่องของอาหารการกินที่ถือว่าสำคัญมาก ๆ เพราะอาหารที่คุณแม่รับประทานเข้าไป ย่อมส่งผลโดยตรงต่อการสร้างอวัยวะต่าง ๆ ของลูกน้อย โดยเฉพาะการเสริมสร้างระบบประสาทและสมอง วันนี้กระปุกดอทคอมเลยได้นำ 10 สุดยอดอาหารสำหรับคนท้องมาฝากค่ะ มาดูกันสิว่าจะมีอาหารประเภทใดที่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่จะช่วยบำรุงสมองและพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ให้ฉลาดได้บ้าง
1. เนื้อปลา
ในเนื้อปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นส่วนประกอบของการสร้างเครือข่ายระบบประสาทสมองของทารก ช่วยให้ทารกมีพัฒนาการที่ดีในเรื่องของความจำ และการเรียนรู้ โดยคุณแม่ควรรับประทานปลาอย่างน้อย 12 ออนซ์ต่อสัปดาห์ ซึ่งปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า รวมไปถึงปลาพันธุ์ไทยอย่าง ปลาดุก ปลาช่อน ปลานิล ปลากะพง ปลาทู เป็นต้น
2. เนื้อสัตว์
นอกจากเนื้อปลาแล้ว คุณแม่ก็ควรรับประทานเนื้อสัตว์อื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือเนื้อวัว รวมไปถึงตับสัตว์ ซึ่งมีคุณค่าและสารอาหารหลากหลาย เช่น โปรตีน ไขมัน ธาตุเหล็ก วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 รวมถึงกรดอะมิโน ซึ่งทั้งหมดมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานให้เป็นปกติของเซลล์สมองและเซลล์ประสาท ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงให้สมบูรณ์ พร้อมที่จะนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองตลอดเวลา ทำให้ทารกมีการพัฒนาสติปัญญาและการเรียนรู้ที่ดี
3. ผักใบเขียว
ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักคะน้า บรอกโคลี และกะหล่ำปลี อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินเค รวมถึงกรดโฟลิก แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเนื้อเยื่อสมองของลูก ไม่ให้เสียหายหรือถูกทำลาย ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดความผิดปกติแต่กำเนิดของทารกในครรภ์อีกด้วยค่ะ
4. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เช่น บลูเบอร์รี มัลเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี หรือแม้แต่มะเขือเทศ ล้วนเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณและมีประโยชน์สูง ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก มีวิตามินซีสูง และมีกรดโฟลิกที่ช่วยป้องกันทารกมีอาการผิดปกติของสมอง รวมไปถึงวิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ และเส้นใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย ทั้งยังฟื้นฟูคอลลาเจนในผิวพรรณของคุณแม่ให้ดูเปล่งปลั่งสดใสอีกด้วยนะคะ แต่ก่อนรับประทาน คุณแม่ควรล้างทำความสะอาดด้วยผงฟู ซึ่งจะช่วยชะล้างสารพิษภายนอกที่อาจปนเปื้อนมากับผลไม้ได้ค่ะ
5. ไข่
ไข่ นับเป็นอาหารสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ขาดไม่ได้ เพราะเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์ของทารกในครรภ์ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน อีกทั้งในไข่ยังอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญอย่างโคลีน รวมถึงโอเมก้า 3 ที่เป็นตัวช่วยบำรุงสมองและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ดังนั้นคุณแม่ควรรับประทานไข่วันละ 1 ฟอง แนะนำว่าควรเป็นไข่ที่ปรุงสุกเท่านั้นนะคะ จะเป็นเมนูไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ตุ๋น หรือไข่ต้ม ก็แล้วแต่คุณแม่จะเลือกเลยค่ะ
6. นม และอาหารที่ทำจากนม
ในน้ำนมวัว ประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 12 วิตามินดี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็กและกรดอะมิโน ซึ่งมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อในร่างกาย และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันเเข็งเเรงมากขึ้น ทั้งนี้คุณแม่อาจเลือกดื่มนมถั่วเหลืองแทนก็ได้ ซึ่งมีโปรตีนเท่านมวัว ทั้งยังมีเส้นใยอาหารและแคลเซียมที่ร่างกายต้องการ
7. โยเกิร์ต
โยเกิร์ต โดยเฉพาะกรีกโยเกิร์ต อุดมไปด้วยโปรตีนสำคัญที่ช่วยสร้างเสริมเนื้อเยื่อให้แก่เจ้าตัวน้อยในครรภ์ให้สมบูรณ์ ทั้งยังมีแคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรียที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ที่จะไปทำลายเชื้อโรค ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย และลดโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ให้กับคุณแม่อีกด้วย
8. ถั่ว
ธัญพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว มีสารอาหารจำพวกโปรตีนสูง มีไฟเบอร์ คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 รวมถึงธาตุเหล็ก ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทั้งนี้คุณแม่สามารถเลือกรับประทานถั่วประเภทอัลมอนด์ วอลนัท หรือแม้แต่เนยถั่วก็ได้เช่นกัน ซึ่งอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และโปรตีนสำคัญที่ช่วยในการพัฒนาเซลล์ประสาทและสมองของลูกในท้อง
9. อาหารจำพวกแป้งที่ไม่ขัดสี
ในอาหารประเภทแป้งที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ข้าวโอ๊ต เผือก มัน ข้าวโพด ฟักทอง นั้น ล้วนมีสารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นของร่างกาย เมื่อย่อยสลายจะกลายเป็นกลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของสมอง ช่วยสร้างความจำและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของแม่ท้องให้คงที่
10. วิตามินเสริมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
แน่นอนว่าการรับประทานอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ย่อมดีกับสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้คุณแม่ก็สามารถรับประทานวิตามินเสริม หรือยาบำรุงครรภ์ที่จะทำให้ลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน เช่น กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินรวม และซิงค์หรือสังกะสี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างการพัฒนาสมองของทารก แต่อย่างไรแล้วคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานจะปลอดภัยที่สุดค่ะ
การดูแลสุขภาพของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ นะคะ เพราะนอกจากจะเป็นการเตรียมพร้อมร่างกายก่อนคลอดแล้ว ยังเป็นการบำรุงลูกน้อยในครรภ์ให้เติบโตแข็งแรง มีพัฒนาการที่เหมาะสม และช่วยเสริมสร้างความฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง ดังนั้นในช่วง 9 เดือนนี้คุณแม่จึงต้องใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ มีความสะอาด สด ใหม่อยู่เสมอ รวมถึงงดพวกอาหารรสจัด ของแสลง และเครื่องดื่มคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ทุกชนิดค่ะ
ข้อมูลจาก : earlychildhoodeducationzone.com, parenting.firstcry.com, medthai.com
ซึ่งวิธีทำให้ลูกฉลาดนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างได้ โดยการกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงคลอด ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงพฤติกรรมของคุณแม่ ทั้งการดูแลตัวเอง การออกกำลังกาย การพักผ่อนคลายเครียด รวมไปถึงเรื่องของอาหารการกินที่ถือว่าสำคัญมาก ๆ เพราะอาหารที่คุณแม่รับประทานเข้าไป ย่อมส่งผลโดยตรงต่อการสร้างอวัยวะต่าง ๆ ของลูกน้อย โดยเฉพาะการเสริมสร้างระบบประสาทและสมอง วันนี้กระปุกดอทคอมเลยได้นำ 10 สุดยอดอาหารสำหรับคนท้องมาฝากค่ะ มาดูกันสิว่าจะมีอาหารประเภทใดที่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่จะช่วยบำรุงสมองและพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ให้ฉลาดได้บ้าง
1. เนื้อปลา
ในเนื้อปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นส่วนประกอบของการสร้างเครือข่ายระบบประสาทสมองของทารก ช่วยให้ทารกมีพัฒนาการที่ดีในเรื่องของความจำ และการเรียนรู้ โดยคุณแม่ควรรับประทานปลาอย่างน้อย 12 ออนซ์ต่อสัปดาห์ ซึ่งปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า รวมไปถึงปลาพันธุ์ไทยอย่าง ปลาดุก ปลาช่อน ปลานิล ปลากะพง ปลาทู เป็นต้น
นอกจากเนื้อปลาแล้ว คุณแม่ก็ควรรับประทานเนื้อสัตว์อื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือเนื้อวัว รวมไปถึงตับสัตว์ ซึ่งมีคุณค่าและสารอาหารหลากหลาย เช่น โปรตีน ไขมัน ธาตุเหล็ก วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 รวมถึงกรดอะมิโน ซึ่งทั้งหมดมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานให้เป็นปกติของเซลล์สมองและเซลล์ประสาท ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงให้สมบูรณ์ พร้อมที่จะนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองตลอดเวลา ทำให้ทารกมีการพัฒนาสติปัญญาและการเรียนรู้ที่ดี
ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักคะน้า บรอกโคลี และกะหล่ำปลี อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินเค รวมถึงกรดโฟลิก แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเนื้อเยื่อสมองของลูก ไม่ให้เสียหายหรือถูกทำลาย ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดความผิดปกติแต่กำเนิดของทารกในครรภ์อีกด้วยค่ะ
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เช่น บลูเบอร์รี มัลเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี หรือแม้แต่มะเขือเทศ ล้วนเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณและมีประโยชน์สูง ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก มีวิตามินซีสูง และมีกรดโฟลิกที่ช่วยป้องกันทารกมีอาการผิดปกติของสมอง รวมไปถึงวิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ และเส้นใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย ทั้งยังฟื้นฟูคอลลาเจนในผิวพรรณของคุณแม่ให้ดูเปล่งปลั่งสดใสอีกด้วยนะคะ แต่ก่อนรับประทาน คุณแม่ควรล้างทำความสะอาดด้วยผงฟู ซึ่งจะช่วยชะล้างสารพิษภายนอกที่อาจปนเปื้อนมากับผลไม้ได้ค่ะ
ไข่ นับเป็นอาหารสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ขาดไม่ได้ เพราะเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์ของทารกในครรภ์ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน อีกทั้งในไข่ยังอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญอย่างโคลีน รวมถึงโอเมก้า 3 ที่เป็นตัวช่วยบำรุงสมองและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ดังนั้นคุณแม่ควรรับประทานไข่วันละ 1 ฟอง แนะนำว่าควรเป็นไข่ที่ปรุงสุกเท่านั้นนะคะ จะเป็นเมนูไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ตุ๋น หรือไข่ต้ม ก็แล้วแต่คุณแม่จะเลือกเลยค่ะ
ในน้ำนมวัว ประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 12 วิตามินดี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็กและกรดอะมิโน ซึ่งมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อในร่างกาย และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันเเข็งเเรงมากขึ้น ทั้งนี้คุณแม่อาจเลือกดื่มนมถั่วเหลืองแทนก็ได้ ซึ่งมีโปรตีนเท่านมวัว ทั้งยังมีเส้นใยอาหารและแคลเซียมที่ร่างกายต้องการ
โยเกิร์ต โดยเฉพาะกรีกโยเกิร์ต อุดมไปด้วยโปรตีนสำคัญที่ช่วยสร้างเสริมเนื้อเยื่อให้แก่เจ้าตัวน้อยในครรภ์ให้สมบูรณ์ ทั้งยังมีแคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรียที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ที่จะไปทำลายเชื้อโรค ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย และลดโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ให้กับคุณแม่อีกด้วย
ธัญพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว มีสารอาหารจำพวกโปรตีนสูง มีไฟเบอร์ คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 รวมถึงธาตุเหล็ก ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทั้งนี้คุณแม่สามารถเลือกรับประทานถั่วประเภทอัลมอนด์ วอลนัท หรือแม้แต่เนยถั่วก็ได้เช่นกัน ซึ่งอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และโปรตีนสำคัญที่ช่วยในการพัฒนาเซลล์ประสาทและสมองของลูกในท้อง
ในอาหารประเภทแป้งที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ข้าวโอ๊ต เผือก มัน ข้าวโพด ฟักทอง นั้น ล้วนมีสารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นของร่างกาย เมื่อย่อยสลายจะกลายเป็นกลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของสมอง ช่วยสร้างความจำและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของแม่ท้องให้คงที่
แน่นอนว่าการรับประทานอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ย่อมดีกับสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้คุณแม่ก็สามารถรับประทานวิตามินเสริม หรือยาบำรุงครรภ์ที่จะทำให้ลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน เช่น กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินรวม และซิงค์หรือสังกะสี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างการพัฒนาสมองของทารก แต่อย่างไรแล้วคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานจะปลอดภัยที่สุดค่ะ
ข้อมูลจาก : earlychildhoodeducationzone.com, parenting.firstcry.com, medthai.com