ผ่าคลอดกี่เดือนทำงานหนักได้ มาร่วมไขข้อสงสัยของคุณแม่ผ่าคลอด ต้องใช้เวลาพักฟื้นกี่เดือน ถึงจะกลับมาทำงานหนักได้อีกครั้ง การ
ผ่าคลอดเป็นการผ่าตัดคลอดทารกออกมาทางหน้าท้องบริเวณด้านล่างของมดลูก ซึ่งปัจจุบันมีคุณแม่หลายท่านนิยมผ่าคลอดกันมาก เนื่องจากแพทย์จะให้ยาชาซึ่งเจ็บน้อยกว่าการเบ่งคลอด และยังสามารถเลือกฤกษ์วันเกิดที่ดีให้กับลูกอีกด้วย รวมไปถึงยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณแม่ที่มีปัญหาหรือมีเหตุจำเป็นต้องคลอดโดยการผ่าคลอด
โดยหลังจากการผ่าคลอด คุณแม่หลาย ๆ คนอาจเกิดความสงสัยว่า ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเท่าไร แผลผ่าคลอดจึงจะหายดี และสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ รวมถึงกลับไปทำงานหนักได้เหมือนเดิมนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาฝากคุณแม่ทุกคนแล้วค่ะ ในการผ่าคลอดนั้น คุณแม่จะรู้สึกเจ็บแผลและต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการคลอดธรรมชาติ เพราะการผ่าคลอดจะทำให้เกิดแผลที่หน้าท้อง และแผลในชั้นกล้ามเนื้อท้องที่ถูกผ่าออก ทำให้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องลดลง และหากหมอเย็บไม่ดีก็จะทำให้ผนังหน้าท้องหย่อนยาน และมีแผลเป็นที่มดลูกได้
ช่วงเวลาหลังจากที่คุณแม่ผ่าคลอด ส่วนใหญ่คุณแม่จะฟื้นตัวได้ภายใน 2 ชั่วโมง และสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 5 วัน และส่วนมากแผลผ่าคลอดจะใช้เวลารักษาบาดแผลภายนอกให้ติดกัน ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งในช่วงระหว่างนี้คุณแม่สามารถทำกิจกรรมเบา ๆ ทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ แต่ยังไม่ควรยกของหนักในช่วงนี้นะคะ เนื่องจากแผลผ่าตัดหน้าท้องต้องใช้ระยะเวลาในการสมานแผล และซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง หากคุณแม่ฝืนออกแรงยกของหนัก จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องเกิดอาการเกร็ง จนทำให้แผลผ่าคลอดหรือมดลูกกระทบกระเทือน แผลอาจปริและฉีกขาดได้ค่ะ
หลังจากผ่าคลอด 1 เดือน ทั้งแผลผ่าคลอดและมดลูกจะเริ่มกลับมาเข้าที่และแข็งแรงมากขึ้น โดยคุณแม่สามารถออกกำลังกาย หรือทำกายบริหารเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพให้กลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด โดยบริหารร่างกายครั้งละอย่างน้อย วันละ 15 นาที จากนั้นใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ รอยแผลจากการผ่าตัดคลอดก็จะหายดีเป็นปกติ และใช้เวลาประมาณ 12 สัปดาห์ หรือ 3 เดือน คุณแม่จึงสามารถเริ่มยกของหนักได้ สามารถทำงานหนักได้ และกลับไปทำงานที่ทำงานได้ปกติ รวมถึงสามารถออกแรงในกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่อีกด้วยค่ะ
แม้ว่าแผลผ่าคลอดของคุณแม่จะหายดีจนสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ได้เป็นปกติแล้ว แต่อย่างไรก็อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเจ้าตัวน้อยต่อไปนะคะ ^^
ข้อมูลจาก : parents.com, babycenter.com