อาการแพ้ท้อง เกิดจากอะไร ทำไมผู้หญิงตั้งครรภ์ถึงต้องแพ้ท้อง แล้วจะมีวิธีรับมืออย่างไรได้บ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมมีข้อมูลมาให้คุณแม่มือใหม่ได้ศึกษากันแล้วค่ะ
อาการแพ้ท้อง เกิดจาก
อาการแพ้ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์เกิดจากฮอร์โมน HCG หรือ Human Chorionic Gonadotropin นั่นเองค่ะ ซึ่งฮอร์โมนนี้จะถูกสร้างมาจากรก เพื่อกระตุ้นให้รังไข่สร้างฮอร์โมนอื่น ๆ ในช่วงระยะแรกของการตั้งครรภ์ และด้วยระดับฮอร์โมน HCG ที่สูงขึ้นนี้ จึงทำให้ประสาทการรับกลิ่นของคุณแม่สูงขึ้น มีประสาทรับรสที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศรีษะ อ่อนเพลีย หรือที่เรียกว่า "อาการแพ้ท้อง" นั่นเองค่ะ ซึ่งอาการแพ้ท้องนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ใหม่ ๆ ประมาณ 1-3 เดือนแรก และจะค่อย ๆ บรรเทาลง แต่ทั้งนี้บางรายก็อาจจะแพ้ท้องมากกว่า 3 เดือน หรือแพ้ไปจนตลอดอายุครรภ์เลยก็มี
อาการแพ้ท้องเป็นอย่างไร
- คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ พะอืดพะอม อยากอาเจียนตลอดเวลา บางครั้งหากอาเจียนบ่อย อาจเกิดอาการหน้ามืดตามมาได้ โดยอาการนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงเช้า แต่บางคนก็อาจจะเป็นตลอดทั้งวันก็ได้
- ไวต่อกลิ่น จะรู้สึกเหม็นกับบางสิ่งบางอย่างได้ง่าย บางคนทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเคยชอบกลิ่น หรือไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนแพ้ท้องกลับรู้สึกเหม็น ไม่ชอบ อยากจะอาเจียน หรือบางทีกลิ่นที่ไม่ชอบอาจจะกลายเป็นชอบ หรือบางคนอาจจะเกิดอาการเหม็นกลิ่นสามีตัวเองก็มี
- ประสาทการรับรสเปลี่ยนไป บางครั้งรู้สึกกินอาหารไม่อร่อย จากที่เคยชอบก็อาจจะกลายเป็นไม่ชอบ หรือบางคนก็อยากจะกินอาหารแปลก ๆ หรืออาหารที่มีรสเปรี้ยว อย่าง มะม่วง มะยม มะดัน มะนาว เป็นต้น หรือบางรายอาจจะไม่อยากกินอะไรเลยก็มี เพราะรู้สึกขมเฝื่อนในปาก ทำให้กินอาหารไม่อร่อย
- เหนื่อย อ่อนเพลียง่าย รู้สึกง่วงนอน อยากจะนอนตลอดทั้งวัน หรือนอนเท่าไรก็ไม่เต็มอิ่ม เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยน และร่างกายต้องใช้พลังงานมากเนื่องจากทารกในครรภ์กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาเจริญเติบโต
- อารมณ์แปรปรวน จะรู้สึกอ่อนไหว และหงุดหงิดง่าย เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง
แพ้ท้อง รับมืออย่างไร
อาการแพ้ท้องสามารถช่วยให้บรรเทาลงได้ โดยมีหลากหลายวิธีด้วยกัน เช่น
- ปรับเปลี่ยนวิธีรับประทานอาหาร โดยให้รับประทานน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง และควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย มีประโยชน์ อย่าง ผลไม้ ผักสด และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงน้ำอัดลม หรือพวกของหมักของดอง เพราะจะทำให้เกิดแก๊สทำให้รู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนมากขึ้น
- ก่อนนอนควรหาอะไรทานเบา ๆ อย่างเช่น นม หรือโยเกิร์ต ตื่นเช้ามาจะช่วยลดอาการแพ้ท้องในตอนเช้าได้
- เมื่อตื่นนอนตอนเช้าให้คุณแม่นอนพักอีกประมาณ 15-20 นาทีก่อนลุกจากเตียง เพราะถ้าหากลืมตาตื่นแล้วรีบลุกพรวดพราด จะยิ่งทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ง่าย
- ทุกครั้งที่ตื่นนอนตอนเช้า ให้คุณแม่รับประทานคุกกี้ แครกเกอร์ บิสกิต หรือขนมปังกรอบสัก 2-3 ชิ้น จะช่วยลดอาการแพ้ท้องได้
- หลังรับประทานอาหารเสร็จไม่ควรนอนทันที เพราะจะทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ง่าย
- ในแต่ละวันให้คุณแม่จิบน้ำขิงอุ่น ๆ บ่อย ๆ เพราะน้ำขิงจะช่วยลดอาการแพ้ท้องได้
- หากมีอาการแพ้ท้องมากให้ปรึกษาคุณหมอ เพื่อขอยามารับประทาน ซึ่งมียาหลายชนิดที่ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้
เมื่อหายสงสัยกันแล้วว่าอาการแพ้ท้องเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะมีอาการอย่างไรได้บ้าง คราวนี้คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปแล้วค่ะ เพียงแค่รับมือตามที่กระปุกดอทคอมได้แนะนำไปอาการแพ้ท้องก็จะค่อย ๆ บรรเทาลงได้ และรออีกไม่นานเมื่ออายุครรภ์มากขึ้นอาการแพ้ท้องก็จะหายไปเอง ไม่ต้องเครียดนะคะ ^^
เชื่อว่าคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายที่กำลังเริ่มตั้งท้องคงจะสงสัยกันอยู่ใช่ไหมล่ะคะ
กับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของตัวเอง รวมไปถึงอาการเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ
อยากคลื่นไส้อาเจียน ปวดหัว หรือวิงเวียนศีรษะอยู่ตลอดเวลา
นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณแม่เกิดอาการ "แพ้ท้อง" นั่นเองค่ะ
ซึ่งอาการแพ้ท้องนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 80% เลยทีเดียว
บางคนก็แพ้ท้องหนักมาก บางคนแพ้ท้องนิดเดียว หรือบางคนก็ไม่แพ้ท้องเลย
ซึ่งอาการแพ้ท้องเหล่านี้เกิดจากอะไร จะมีอาการอย่างไร
หรือจะสามารถรับมืออย่างไรได้บ้าง เพื่อไขข้อข้องใจ
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณแม่ได้ศึกษากันแล้วค่ะ
อาการแพ้ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์เกิดจากฮอร์โมน HCG หรือ Human Chorionic Gonadotropin นั่นเองค่ะ ซึ่งฮอร์โมนนี้จะถูกสร้างมาจากรก เพื่อกระตุ้นให้รังไข่สร้างฮอร์โมนอื่น ๆ ในช่วงระยะแรกของการตั้งครรภ์ และด้วยระดับฮอร์โมน HCG ที่สูงขึ้นนี้ จึงทำให้ประสาทการรับกลิ่นของคุณแม่สูงขึ้น มีประสาทรับรสที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศรีษะ อ่อนเพลีย หรือที่เรียกว่า "อาการแพ้ท้อง" นั่นเองค่ะ ซึ่งอาการแพ้ท้องนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ใหม่ ๆ ประมาณ 1-3 เดือนแรก และจะค่อย ๆ บรรเทาลง แต่ทั้งนี้บางรายก็อาจจะแพ้ท้องมากกว่า 3 เดือน หรือแพ้ไปจนตลอดอายุครรภ์เลยก็มี
- คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ พะอืดพะอม อยากอาเจียนตลอดเวลา บางครั้งหากอาเจียนบ่อย อาจเกิดอาการหน้ามืดตามมาได้ โดยอาการนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงเช้า แต่บางคนก็อาจจะเป็นตลอดทั้งวันก็ได้
- ไวต่อกลิ่น จะรู้สึกเหม็นกับบางสิ่งบางอย่างได้ง่าย บางคนทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเคยชอบกลิ่น หรือไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนแพ้ท้องกลับรู้สึกเหม็น ไม่ชอบ อยากจะอาเจียน หรือบางทีกลิ่นที่ไม่ชอบอาจจะกลายเป็นชอบ หรือบางคนอาจจะเกิดอาการเหม็นกลิ่นสามีตัวเองก็มี
- ประสาทการรับรสเปลี่ยนไป บางครั้งรู้สึกกินอาหารไม่อร่อย จากที่เคยชอบก็อาจจะกลายเป็นไม่ชอบ หรือบางคนก็อยากจะกินอาหารแปลก ๆ หรืออาหารที่มีรสเปรี้ยว อย่าง มะม่วง มะยม มะดัน มะนาว เป็นต้น หรือบางรายอาจจะไม่อยากกินอะไรเลยก็มี เพราะรู้สึกขมเฝื่อนในปาก ทำให้กินอาหารไม่อร่อย
- เหนื่อย อ่อนเพลียง่าย รู้สึกง่วงนอน อยากจะนอนตลอดทั้งวัน หรือนอนเท่าไรก็ไม่เต็มอิ่ม เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยน และร่างกายต้องใช้พลังงานมากเนื่องจากทารกในครรภ์กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาเจริญเติบโต
- อารมณ์แปรปรวน จะรู้สึกอ่อนไหว และหงุดหงิดง่าย เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง
อาการแพ้ท้องสามารถช่วยให้บรรเทาลงได้ โดยมีหลากหลายวิธีด้วยกัน เช่น
- ปรับเปลี่ยนวิธีรับประทานอาหาร โดยให้รับประทานน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง และควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย มีประโยชน์ อย่าง ผลไม้ ผักสด และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงน้ำอัดลม หรือพวกของหมักของดอง เพราะจะทำให้เกิดแก๊สทำให้รู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนมากขึ้น
- ก่อนนอนควรหาอะไรทานเบา ๆ อย่างเช่น นม หรือโยเกิร์ต ตื่นเช้ามาจะช่วยลดอาการแพ้ท้องในตอนเช้าได้
- เมื่อตื่นนอนตอนเช้าให้คุณแม่นอนพักอีกประมาณ 15-20 นาทีก่อนลุกจากเตียง เพราะถ้าหากลืมตาตื่นแล้วรีบลุกพรวดพราด จะยิ่งทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ง่าย
- ทุกครั้งที่ตื่นนอนตอนเช้า ให้คุณแม่รับประทานคุกกี้ แครกเกอร์ บิสกิต หรือขนมปังกรอบสัก 2-3 ชิ้น จะช่วยลดอาการแพ้ท้องได้
- หลังรับประทานอาหารเสร็จไม่ควรนอนทันที เพราะจะทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ง่าย
- ในแต่ละวันให้คุณแม่จิบน้ำขิงอุ่น ๆ บ่อย ๆ เพราะน้ำขิงจะช่วยลดอาการแพ้ท้องได้
- หากมีอาการแพ้ท้องมากให้ปรึกษาคุณหมอ เพื่อขอยามารับประทาน ซึ่งมียาหลายชนิดที่ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้
เมื่อหายสงสัยกันแล้วว่าอาการแพ้ท้องเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะมีอาการอย่างไรได้บ้าง คราวนี้คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปแล้วค่ะ เพียงแค่รับมือตามที่กระปุกดอทคอมได้แนะนำไปอาการแพ้ท้องก็จะค่อย ๆ บรรเทาลงได้ และรออีกไม่นานเมื่ออายุครรภ์มากขึ้นอาการแพ้ท้องก็จะหายไปเอง ไม่ต้องเครียดนะคะ ^^