แพ้ท้องเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ โดยอาการแพ้ท้องมักจะเกิดในช่วงเริ่มตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์ และกินเวลาไปอีก 6-12 สัปดาห์ นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนที่ผลิตขึ้นจากการตั้งครรภ์ไปรบกวนระบบทางเดินอาหาร ทำให้คลื่นไส้หรือรู้สึกพะอืดพะอม บางครั้งอาจอาเจียน แล้วต้องเตรียมรับมืออย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมมีเกร็ดน่ารู้จากนิตยสาร บันทึกคุณแม่ มาฝากกันค่ะ ^^
อาการแพ้ท้องเมื่อเริ่มตั้งครรภ์มักจะเป็นของคู่กัน เพราะฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นทำให้ไวต่อกลิ่น และรส ช่วงนี้ตัวคุณแม่เอง และคนใกล้ชิดก็ต้องดูแลกันดี ๆ เราวิธีมาแนะนำดังนี้ค่ะ
ลด
การบริโภคอาหารประเภทไขมันอิ่มตัวทั้งหลาย ช่วงนี้ถ้าเป็นไปได้ให้พยายามเลือก และใส่ใจอาหารที่จะรับประทานเป็นพิเศษนะคะ บางทีอาจถูกมองว่าจุกจิกไปนิด แต่เพื่อสุขภาพแม่ตั้งครรภ์และสุขภาพทารกตัวน้อย ๆ ที่นอนอยู่ในท้องก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ควรทำค่ะ หรืออาหารประเภทไขมันอิ่มตัวที่กล่าวถึง อาทิ อาหารจำพวกเนย น้ำมันหมู นม ครีม ไขมันสัตว์ เบคอน แต่อย่าปล่อยให้ท้องว่างนะคะ เพราะอาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกอยากจะอาเจียน หรือวิงเวียนศีรษะขึ้นไปอีก
ทานจุบจิบ
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่เจริญอาหารทานอะไรไม่ค่อยได้ ลองหันมารับประทาน คุกกี้ แครกเกอร์ ขนมปังกรอบผสมธัญพืชสัก 2-3 ชิ้น ช่วงตื่นนอนสิคะ จะช่วยลดอาการแพ้ได้บ้าง หรือจะหันมาลองจิบนมอุ่น ๆ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอื่น ๆ แต่ไม่ใช่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงกลิ่น
เป็นเรื่องน่าเห็นใจนะคะที่จะเกิดอาการพะอืดพะอมทุกที ที่ได้กลิ่นอาหารผัด หรือทอดขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็น เมื่อพอจะอนุมานได้แล้วว่าสาเหตุการวิงเวียนศีรษะ คล้ายจะอาเจียนของคุณแม่คืออะไร ลองพยายามหลีกเลี่ยงกลิ่น หรือขอความร่วมมือคนในบ้านเห็นใจคุณแม่มือใหม่ ด้วยการงดปรุงอาหารกลิ่นโชยดังกล่าวชั่วคราว จะว่าไปแล้วก็เป็นการร่วมกันดูแลว่าที่แม่คนใหม่ และใส่ใจสุขภาพทารกในท้องด้วยกันเป็นทีมน่ารักกันไปอีกแบบนะคะ
แต่ถ้ามีอาการแพ้ท้องมาก ลองทำทุกอย่างหลายวิธีแล้ว ยังไม่บรรเทา คลื่นไส้มาก อาเจียนมากจนผิดปกติ เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.23 Issue 272 มีนาคม 2559
