แพ้ท้อง อาเจียนบ่อย จะเป็นอันตรายกับลูกในครรภ์หรือเปล่านะ แล้วต้องดูแลตัวเองอย่างไรในช่วงแพ้ท้อง วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีเกร็ดความรู้จากนิตยสาร บันทึกคุณแม่ และวิธีรับมืออาการแพ้ท้อง รวมทั้งการดูแลตัวเองในช่วงไตรมาสแรก มาฝากคุณแม่ตั้งครรภ์กันด้วยค่ะ ^^
"แพ้ท้อง" หรืออาการคลื่นไส้อาเจียน เป็นอาการที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรก มักจะเริ่มมีอาการตั้งแต่ช่วง 8 สัปดาห์ ไปจนถึง 16 สัปดาห์ บางคนก็อาจจะนานกว่านั้น แต่เกือบทั้งหมดจะหายไปหลัง 22 สัปดาห์ค่ะ
อาการแพ้ท้อง เกิดจากอะไร ?
ยังไม่เป็นที่แน่ชัด... แต่เชื่อว่าสัมพันธ์กับฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ที่มีค่าสูงในช่วงที่คุณแม่มีอาการ และในคุณแม่ที่เป็นครรภ์แฝด หรือครรภ์ผิดปกติชนิดครรภ์ไข่ปลาอุก ก็จะมีอาการแพ้ท้องที่รุนแรงมากกว่าครรภ์ปกติได้ค่ะ
ควรดูแลตัวเอง ในช่วงที่มีอาการแพ้ท้องอย่างไร ?
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หรืออาหารที่มีกลิ่นกระตุ้นให้มีอาการแพ้ท้อง ซึ่งอาจแตกต่างกันในแต่ละคน การแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ รับประทานบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้คลื่นไส้น้อยกว่าการรับประทานมื้อใหญ่ ๆ ที่สำคัญคือต้องดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ การใช้ยาแก้อาเจียนร่วมกับยาวิตามินบี 6 ก็สามารถช่วยลดอาการแพ้ท้องได้โดยที่ไม่มีอันตรายกับลูกน้อยค่ะ แต่ถ้าอาการเป็นรุนแรงจนคุณแม่รู้สึกว่าเพลียมาก รับประทานอะไรไม่ได้เลย ก็ควรไปพบคุณหมอเพื่อทำการประเมิน ถ้าจำเป็นอาจจะต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อให้น้ำเกลือ รักษาภาวะขาดน้ำ และความผิดปกติของเกลือแร่ในร่างกายค่ะ คุณแม่บางท่านต้องเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือหลายครั้งเลยค่ะ แต่พอถึงเวลาก็หายเองเป็นปลิดทิ้ง
แพ้ท้องรุนแรงมาก จะเป็นอันตรายกับลูกไหม ?
อาการแพ้ท้อง... ไม่ได้มีอันตรายกันทารกโดยตรงค่ะ เพราะทารกในครรภ์ในระยะนี้ยังมีขนาดเล็กมาก ความต้องการพลังงาน และสารอาหารไม่ได้เยอะ ดังนั้นการที่คุณแม่ทานได้น้อย จึงไม่ได้ส่งผลเสียกับลูก นอกเสียจากว่าจะขาดน้ำ หรือเกลือแร่รุนแรงจนหัวใจเต้นผิดจังหวะ เลือดออกในทางเดินอาหาร ความดันต่ำ แต่โอกาสที่จะเกิดแบบนั้นน้อยมาก ๆ ค่ะ
โดยสรุปแล้ว
อาการแพ้ท้อง... เป็นอาการของการตั้งครรภ์ในระยะแรก ๆ ที่พบได้บ่อย (แต่คุณแม่ที่ไม่แพ้เลยก็ไม่ต้องแปลกใจนะคะ ถือว่าเป็นคนโชคดีมากเลยละค่ะ) และไม่ได้มีอันตรายกับลูกในท้องค่ะ คุณแม่ควรดูแลตัวเองให้ได้รับอาหาร และน้ำอย่างพอเพียง ถ้าทานเองไม่ได้จริง ๆ ก็ไปหาคุณหมอเพื่อให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลนะคะ
Tips :
สำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องรุนแรง จนถึงขั้นต้องให้น้ำเกลือ คุณหมออาจจะต้องตรวจอัลตร้าซาวด์เพื่อเช็กด้วยว่า ลูกเป็นแฝด หรือเป็นครรภ์ไข่ปลาอุกหรือเปล่า ถ้าตรวจแล้วปกติดีก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ
ในช่วงที่แพ้ท้องมาก คุณแม่บางท่านอาจน้ำหนักไม่ขึ้นเลย หรืออาจจะลดลงเล็กน้อยด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องปกตินะคะ ไม่อันตราย น้ำหนักจะกลับมาขึ้นหลังจากที่หายแพ้ท้องค่ะ
ผู้ที่มีประสบการณ์หลายท่านบอกว่า ช่วงแพ้ท้องนี่ทรมานมากกว่าตอนเจ็บท้องคลอดเสียอีก เพราะยาวนาน และทรมานเหลือเกิน คุณพ่อและคนรอบ ๆ ตัว อย่าลืมช่วยกันประคับประคองจิตใจคุณแม่ในช่วงนี้หน่อยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.23 Issue 270 มกราคม 2559