เมื่อตั้งครรภ์อาการแพ้ท้อง และท้องผูกจะเกิดขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ ในช่วงตั้งครรภ์ค่ะ นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงระหว่างตั้งครรภ์ และเป็นเรื่องปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะเพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีรับมือและป้องกันจากนิตยสาร MODERNMOM มาฝากคุณแม่กันค่ะ ^^
ประเด็นปัญหาการแพ้ท้องและท้องผูกในช่วงตั้งครรภ์ที่ตามมานั้น เป็นเรื่องที่เกิดได้เป็นปกติในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งเกิดได้กับหลาย ๆ คน แต่จะเป็นมากน้อยต่างกันไปครับ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เกิดเป็นปกติ แต่ก็สามารถก่อให้เกิดความไม่สุขสบาย รวมทั้งความกังวลให้กับคุณแม่ได้ไม่มากก็น้อยทีเดียว
เรื่องของการแพ้ท้องนั้น เกิดจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงตอบสนองต่อระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงประมาณ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ทำให้เกิดอาการได้หลากหลาย ส่วนมากก็มักมีอาการเวียนศีรษะ เบื่อ เหม็นอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน มักจะเป็นผลเนื่องจากการทำงานของระบบย่อยอาหารไม่ดี ทำให้อาหารไม่ย่อย ท้องอืด และอาเจียนได้ง่าย คุณแม่หลายท่าน อาจเป็นมากจนกินอาหารไม่ได้หรือได้น้อยมากจนน้ำหนักลดก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เพราะอาการดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อการตั้งครรภ์และการเจริญเติบโตของลูกแต่อย่างไรครับ
คงต้องเข้าใจกันก่อนว่า ลูกน้อยในท้องนั้นได้รับสารอาหารผ่านทางการไหลเวียนของเลือดแม่ผ่านทางถุงไข่แดงและสายสะดือ ไม่ได้เป็นการกินโดยตรง และไม่เกี่ยวกับการกินของแม่โดยตรงด้วย รวมทั้งลูกในท้องนั้นจะสามารถดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นถึงจะแพ้ท้องมาก ลูกน้อยก็ไม่ขาดสารอาหารหรอกครับ ยกเว้นคุณแม่มีภาวะขาดอาหารมากอย่างในประเทศยากจนทั้งหลายครับ
เรื่องอาหารการกินในช่วงแพ้ท้องนั้น แนะนำคุณแม่ให้กินอาหารเท่าที่กินได้ ยังไม่ต้องเพิ่มปริมาณอาหารใด ๆ โดยเฉพาะนม เนื่องจากหลายคนอาจไม่สามารถย่อยนมได้ดี ซึ่งกลับจะส่งผลให้คุณแม่ท้องอืด และเกิดอาการคลื่นไส้ได้อีกด้วย นอกจากนั้นแนะนำคุณแม่อย่ากินอาหารปริมาณมากในมื้อเดียว แต่แนะนำให้แบ่งมื้อแทน กินทีละน้อย แต่บ่อยครั้งดีกว่าครับ จะช่วยลดอาการต่าง ๆ ได้ด้วย และถ้ามีอาการมากก็อาจใช้ยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ตามความจำเป็นครับ และเมื่ออาการต่าง ๆ ดีขึ้นแล้ว คุณแม่ก็ค่อย ๆ เริ่มกลับมากินอาหารตามปกติได้ โดยแนะนำกินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทุกหมู่ แต่แนะนำจำกัดอาหารพวกแป้งและอาหารหวาน เพื่อควบคุมน้ำหนักระหว่างการตั้งครรภ์ครับ
ส่วนเรื่องท้องผูกกับการตั้งครรภ์นั้นก็เป็นเรื่องปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์เช่นเดียวกัน เมื่อระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดี กากอาหารก็จะค้างอยู่ในลำไส้นาน ร่างกายก็จะดูดซึมน้ำจากกากอาหารไปได้ไม่มาก ทำให้อุจจาระแข็งมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกตามมาครับ และถ้าเป็นมากก็อาจเบ่งถ่ายลำบากทำให้มีเลือดออกเวลาถ่ายอุจจาระเนื่องจากริดสีดวงทวาร หรือเกิดแผลบริเวณทวารหนักได้อีกด้วย
ในประเด็นนี้แนะนำคุณแม่ให้กินอาหารที่มีกากจำพวกเส้นใย เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชต่าง ๆ ให้มากขึ้น รวมทั้งให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยไม่ให้อุจจาระแข็งมากด้วย การกินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตก็อาจช่วยได้เช่นกัน และในกรณีที่เป็นมากก็สามารถใช้ยาระบายเพื่อช่วยในการขับถ่ายได้ ซึ่งยาก็ไม่มีผลใด ๆ ต่อการตั้งครรภ์และสามารถใช้ได้บ่อยตามความจำเป็น ส่วนเรื่องการใช้ยาสวนนั้นก็สามารถใช้ได้ถ้าจำเป็นครับ แต่เพื่อให้แน่ใจแนะนำปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลในรายละเอียดอีกครั้งครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.21 No.241 พฤศจิกายน 2558
