เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
การจ้างตั้งครรภ์ หรือ การอุ้มบุญ (surrogacy) กลายเป็นหนึ่งในความฝันของผู้หญิงหลาย ๆ คน ที่อยากมีทายาทตัวน้อย ๆ มาเติมเต็มให้คำว่าครอบครัวสมบูรณ์ แต่ตัวเองกลับประสบภาวะมีบุตรยากจึงจำเป็นต้องหาคนอุ้มท้องแทน แต่ในปัจจุบันว่าที่คุณแม่จำนวนไม่น้อยเลือกหาคนอุ้มบุญแทนการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง เพราะไม่อยากให้การมีลูกมากระทบเรื่องการงาน หรือทำให้รูปร่างของตนเสียไป
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2557 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยบทความจากนิตยสาร EllE ของอเมริกา เรื่องความนิยมในการมีลูกด้วยการจ้างอุ้มบุญที่กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยนายแพทย์ลอร์นิ อาร์โนลด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะการมีบุตรยาก จากซานดิเอโก สหรัฐฯ เผยว่าคนไข้ของเขามีหลากหลาย ทั้งหญิงที่ประสบภาวะมีบุตรยากจริง ๆ ไปจนถึงเหล่าคนดังที่ไม่อยากหุ่นเสียเพราะมีบุตร และยังมีนักวิ่งมาราธอนที่ต้องวิ่งอย่างสม่ำเสมอจนไม่สามารถหาเวลาที่ลงตัวมาตั้งท้องได้
การตั้งครรภ์กลายเป็นอุปสรรคด้านการทำงานและหารายได้ของคุณแม่หลาย ๆ คน เพราะเธอต้องหยุดงานเพื่อดูแลเจ้าตัวเล็กในครรภ์ได้เต็มที่ แม้บางคนจะทำงานได้จนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนคลอด แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องนอนติดเตียงอยู่นานหลายเดือน นายแพทน์ลอร์นีแสดงความเห็นผ่านนิตยสาร
ช่างภาพงานแต่งงานชาวอเมริกัน วัย 36 ปี ผู้ใช้นามแฝงว่า แมรี สมิธ ก็เป็นหนึ่งในผู้ตัดสินใจจ้างคนอุ้มบุญแทนการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลว่าเธอไม่อาจละทิ้งงานที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้ได้ มาริกล่าวว่าสายงานของเธอกำลังบูม และธุรกิจในตอนนี้ก็กำลังไปได้สวยมาก เธอทำงานหนักอาทิตย์ละ 60 ชั่วโมง เพื่อปั้นกิจการของเธอให้ติดตลาด และไม่อยากเสี่ยงที่จะทำมันล่มจริง ๆ เพราะการตั้งครรภ์นั้นหมายถึงเธอต้องหยุดทำงานไปนานหลายเดือน รวมถึงระยะเวลาที่เอื้อต่อการมีบุตรตามธรรมชาติกำลังลดลงทุกขณะด้วยอายุที่เริ่มมากขึ้น มาริกับสามีจึงปรึกษากัน และตัดสินใจที่จะจ้างหญิงอื่นมาตั้งครรภ์แทน แม้ว่าแม่สามีจะไม่เห็นด้วยสุด ๆ ที่จะให้ผู้หญิงที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันมาอุ้มท้องหลานย่าก็ตาม
นอกจากเหตุผลเรื่องการงานแล้ว มาริเผยว่าความกลัวว่าการตั้งท้องจะทำลายรูปร่างของเธอก็มีส่วนด้วยเช่นกัน หลังจากที่เธอได้ไปเยี่ยมเพื่อนซึ่งเป็นคุณแม่ลูกอ่อน และได้เห็นว่ารูปร่างคุณแม่มือใหม่ไม่เฟิร์มเหมือนเมื่อก่อน และยังเต็มไปด้วยรอยแตกลาย มาริไม่อยากให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ด้วยเหตุผลดังเหล่านี้ ทำให้การจ้างอุ้มบุญกลายเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างยินดีเต็มร้อยเสียที เพราะไม่มีใครชื่นชมนักหากคุณแม่อยากจะมีลูก แต่จ้างคนอื่นตั้งท้องแทนทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ได้มีปัญหาด้านสุขภาพใด ๆ ซึ่งทาง American Society for Reproductive Medicine ยังได้กล่าวถึงการอุ้มบุญไว้ว่า มันเป็นสิ่งพึงกระทำก็ต่อเมื่อแพทย์ลงความเห็นว่าการตั้งครรภ์จะเป็นอันตรายต่อตัวแม่และทารกเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี แพทย์แต่ละรายก็มีนิยามของคำว่า "อันตราย" แตกต่างกันไป โดยแพทย์บางรายระบุว่าแค่ความรู้สึกเสื่อมถอยทางจิตใจที่ไม่พร้อมตั้งครรภ์ของว่าที่คุณแม่ ก็นับว่าเป็นภาวะที่ไม่ควรตั้งครรภ์เองแล้ว
สำหรับการตั้งครรภ์ของคนดังที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อย ว่าเป็นคุณแม่ดาราที่ไม่กล้าท้องเพราะกลัวหุ่นเสีย และกลัวเสียงาน อาทิ นิโคล คิดแมน ที่จ้างอุ้มบุญหนูน้อยเฟธ ลูกสาวคนที่ 2 เมื่อปี 2553 และซาราห์ เจสสิกา ปาร์คเกอร์ ที่จ้างอุ้มบุญลูกสาวฝาแฝด แมเรียนและทาบิธา เมื่อปี 2552 เป็นต้น แม้ว่าดาราสาวทั้งคู่จะมีเหตุผลที่น่าฟังว่าอยู่ในวัยเลข 4 ซึ่งการตั้งครรภ์อาจเป็นอันตรายต่อตัวแม่และเด็กก็ตาม