9 ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนเป็นพ่อและแม่

แม่และเด็ก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         คู่แต่งงานหลายคู่มีความฝันอยากจะมีลูกน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจสักคน แต่ทุกคนรู้ดีว่าการทำหน้าที่คุณพ่อคุณแม่เป็นหน้าที่ที่ใหญ่หลวงพอสมควร ถ้าคิดจะมีเขาเพิ่มเข้ามาในชีวิตก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้เติบโตมาอย่างดีที่สุด และแน่นอนว่าการมีเด็กตัวเล็ก ๆ เป็นสมาชิกคนใหม่ของครอบครัว จะทำให้ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ได้รับความสุขที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งนั่นก็ต้องแลกกับชีวิตที่เปลี่ยนไปบางอย่างเช่นกัน และถ้าคุณกำลังสับสนว่าตัวเองจะทำหน้าที่พ่อและแม่ได้ดีแค่ไหน ก็มาเช็กตัวเองก่อนดีกว่า ว่ารับกับ 9 ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังคุณมีลูกรักเพิ่มเข้ามาในครอบครัวได้หรือเปล่า คุณพร้อมจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ดีหรือไม่ ก็มาดูกันเลยค่ะ
 
1. ประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้คุณยิ้มไม่หุบ

         ถ้าจินตนาการถึงความสุขของการมีชีวิตน้อย ๆ เกิดขึ้นมาในท้องของเราไม่ถูก ก็รับรองเลยว่าคุณจะจินตนาการความสุขของการเลี้ยงดูเขาไม่ได้เลย เพราะพ่อแม่หลายคนที่ผ่านประสบการณ์การเลี้ยงลูกมาแล้ว ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลูกคือทุกสิ่งในชีวิต คือความสุขที่เพิ่มพูนขึ้นในทุก ๆ วัน และการเฝ้าดูเขาเติบโตขึ้นก็เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ นับตั้งแต่วันที่คุณตั้งท้องเขาไว้และเริ่มสัมผัสได้ถึงการตอบสนองของลูกในท้อง แค่นั้นก็จะทำให้คุณยิ้มได้กว้างมากขึ้น และตื้นตันจนน้ำตาไหลเลยล่ะค่ะ
 
2. การเสียสละเวลาส่วนตัว

         ทันทีที่ให้กำเนิดลูกน้อยออกมาลืมตาดูโลก นับตั้งแต่วินาทีนั้นชีวิตของคุณครึ่งหนึ่งจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกโดยทันที โดยเฉพาะในระยะแรก ๆ ที่ลูกยังเล็ก ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องทุ่มเทเวลาของตัวเองดูแลเขาอย่างดีที่สุด เพื่อให้เขาเติบโตได้อย่างเต็มที่ ได้รับทั้งความอบอุ่น และการดูแลเอาใจใส่ที่สมบูรณ์พร้อม ดังนั้นเวลาที่เป็นส่วนตัวของคนเป็นพ่อและแม่ก็อาจจะลดทอนลงไปบ้าง ความอิสระที่เคยมีก็จะลดลงไปนิด แต่ก็จะมีความสุขอยู่กับลูกนี่ล่ะค่ะ
 
3. ได้รู้จักรักแท้แบบไม่มีเงื่อนไข

         ว่ากันว่ามนุษย์เราจะยังไม่รู้จักรักแท้แบบไม่มีเงื่อนไข จนกว่าจะได้เป็นพ่อ เป็นแม่ใครสักคน เพราะลูกก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเรา เปรียบได้กับคนที่เรามีหน้าที่ต้องดูแลและรับผิดชอบเขาด้วยชีวิต และคุณก็จะสัมผัสได้ถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ของคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็คราวนี้ และจะได้รู้จักกับรักที่ไม่มีเงื่อนไขด้วยอีกอย่างนะจ๊ะ
 
4. เผยนิสัยความเห็นแก่ตัวมากขึ้น

         จริง ๆ แล้วเราทุกคนล้วนมีนิสัยเห็นแก่ตัวซ่อนอยู่ ซึ่งก่อนจะมีลูก คุณอาจจะคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวได้มากขนาดนี้ จนบางทีก็ถึงขั้นตกใจในความเป็นตัวเองเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าจะพูดกันตามตรง เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องผิดบาปร้ายแรงอะไร เพราะความเห็นแก่ตัวหลังจากมีลูก จะเกิดขึ้นบนพื้นฐานของธรรมชาติมากกว่า อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ในเมื่อคุณเสียสละเหน็ดเหนื่อยจากการเลี้ยงดูลูกมาอย่างหนัก เนื่องจากลูกน้อยแสนรักที่ต้องพึ่งพาคุณแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว คุณก็ย่อมจะอยากปล่อยวางภาระหน้าที่งานบ้าน หรือหน้าที่ที่คนอื่นสามารถทำแทนคุณได้บ้างเป็นธรรมดานั่นเอง

5. เปลี่ยนนิสัยและพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น

         การมีลูกเป็นปรากฎการณ์น่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของคนเป็นพ่อ และคนเป็นแม่ และความเปลี่ยนแปลงทางด้านนิสัยและพฤติกรรมของคุณทั้งคู่ก็จะค่อย ๆ สังเกตเห็นได้ชัดเจนขึ้นด้วย เนื่องจากสัญชาตญาณของความเป็นพ่อและแม่คน จะบังคับให้คุณคัดกรองนิสัย กริยา ท่าทาง และพฤติกรรมของตัวเองทั้งหมดได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อป้องกันลูกน้อยที่ยังเป็นเด็กไร้เดียงสาลอกเลียนพฤติกรรมที่ไม่ดีจากผู้ใหญ่เอาได้ แต่ทั้งนี้ก็คงไม่มีกฎเกณฑ์อะไรจะสามารถตีกรอบความเป็นพ่อและแม่ที่สมบูรณ์แบบได้หรอก แค่เลี้ยงดูเขาให้เติบโตมาอย่างดี เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพก็เพียงพอแล้วล่ะ
 
6. เตรียมใจนอนหลับไม่เพียงพอ

         ถ้าคิดจะมีลูก การนอนหลับที่น้อยแสนน้อยเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องเตรียมใจยอมรับเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เอาไว้เลย โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีแรก ลูกน้อยแสนรักของเราจะตื่นเกือบทุกชั่วโมง ยิ่งดึกลงเท่าไร ก็จะยิ่งงอแงมากขึ้นเท่านั้นอีกต่างหาก ส่วนกลางวันก็เรียกร้องความสนใจจากพ่อและแม่ไม่น้อยไปกว่ากันเลยด้วย แต่ถึงลูกน้อยจะนอนหลับสนิท ในใจของคนเป็นแม่เองก็จะวิตกกังวลเกี่ยวกับเขาไปสารพัดเช่นกันนะจ๊ะ
 
7. ความภาคภูมิใจตลอดการเติบโตของลูกน้อย

         คิดดูสิว่าถ้าเราสามารถเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ได้รับการยอมรับในสังคม และเป็นอนาคตที่ดีของชาติคนหนึ่งได้ เราจะมีความภาคภูมิใจในสิ่งที่เราสร้างมากับมือมากแค่ไหน ถึงแม้ว่าระหว่างทางของการเติบโตของเขาทุกย่างก้าว คุณพ่อและคุณแม่จะต้องเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาดก็ตาม แต่ในวันหนึ่งที่ลูกรักโตเป็นผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ตำแหน่งหน้าที่การงานก็ดี และที่สำคัญเป็นคนดีของสังคมจนน่ายกย่อง แค่นี้ก็ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยตลอดชีวิตที่ผ่านมา หายไปเป็นปลิดทิ้งแล้วล่ะเนอะ

8. คุณอาจจะเผลอปรี๊ดแตกอย่างไร้เหตุผล

         ต้องยอมรับว่าบางทีเราก็เจอเรื่องที่เหน็ดเหนื่อยและหนักมาจากข้างนอกบ้าน และถ้าในบ้านก็ต้องมาเจอความซุกซนไม่ได้ดั่งใจจากลูกอีก ก็อาจจะเผลอตวาด หรือปรี๊ดแตกใส่เข้าอย่างไม่สมเหตุสมผลได้ ซึ่งก็แน่นอนว่าพฤติกรรมแบบนี้ของพ่อแม่จะเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจเขาไม่น้อย แต่เด็กก็ยังเป็นเด็กวันยังค่ำ แค่คุณสงบสติอารมณ์และเข้าไปขอโทษเขา พร้อมทั้งบอกเล่าเหตุผลของการกระทำร้าย ๆ ของคุณให้เขาได้รับรู้ ลูกรักก็จะให้อภัยคุณได้โดยง่าย ไม่เจ็บฝังใจเหมือนคนเป็นผู้ใหญ่ แต่คุณเองก็ต้องพยายามระงับสติอารมณ์ของตัวเองให้ดีด้วย เพราะอย่าลืมว่า พฤติกรรมก้าวร้าวของคุณ อาจจะเป็นอีกพฤติกรรมหนึ่งที่ลูก ๆ เลียนแบบก็ได้นะ
 
9. กระตุ้นสัญชาตญาณความเป็นแม่และการปกป้อง

         ตราบใดที่คุณรู้สึกอยากมีลูกขึ้นมา นั่นก็แสดงว่า สัญชาตญาณความเป็นแม่ของคุณกระตุ้นให้คุณต้องใช้งานมันแล้วล่ะ และถึงแม้ว่าคุณจะมีลูกเองตามธรรมชาติไม่ได้ ก็ยังมีตัวเลือกอื่น ๆ เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว หรือการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมให้มีโอกาสได้เป็นพ่อแม่คนกันแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกไหน การรับผิดชอบชีวิตเล็ก ๆ ตลอดทุกย่างก้าวของการเติบโตของเขา ก็เป็นทุกวินาทีที่มีความสำคัญ และทำให้คุณรู้จักรักแท้และการเสียสละที่ยิ่งใหญ่แน่นอนค่ะ
 
         หลายข้อก่อนการเตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่ดูจะเป็นความยากลำบากในชีวิต ที่ต้องเสียสละบางอย่างในชีวิตอยู่พอสมควร แต่ทุกส่วนที่เราต้องสละไป ย่อมได้รับกลับมาเป็นความสุขและความภาคภูมิใจอย่างยิ่งยวดเลยนะคะ ฉะนั้นหากใครรู้ตัวว่าพร้อมจะรับมือไหว ก็เตรียมตัวต้อนรับสมาชิกตัวน้อยในบ้านกันได้เลย อย่างน้อย ๆ คุณก็จะได้รับประสบการณ์ที่แสนวิเศษในชีวิต ที่คนโสดไม่สามารถสัมผัสได้แน่ ๆ นะจ๊ะ




       




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
9 ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนเป็นพ่อและแม่ อัปเดตล่าสุด 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา 15:09:04 4,664 อ่าน
TOP
x close