เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
นอกเหนือจากการทราบวิธีดูแลในช่วงตั้งครรภ์กันไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นข้อห้ามบางประการ และถือเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับแม่ท้องเป็นอย่างมาก ซึ่งในอนาคตก่อให้เกิดโทษหรืออันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ สำหรับคุณแม่หรือคุณพ่อคนไหนที่กำลังหาคำตอบเพื่ออยากนำไปใช้และเฝ้าระวังดูแลคนท้อง กระปุกดอทคอมมีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับข้อห้ามต่าง ๆ มาฝากกันค่ะ
ออกกำลังกายอย่างหักโหม
เพราะการออกกำลังกายเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงและกล้ามเนื้อของร่างกายได้เป็นอย่างดี จึงทำให้แม่ท้องหลายคนหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น แต่เนื่องจากจะต้องมีการเคลื่อนไหว ขยับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้บางคนเป็นตะคริว ปวดเสียดท้องจนต้องไปหาหมอ เนื่องจากออกกำลังผิดท่าหรือได้รับการกระทบกระเทือนที่รุนแรง เพื่อเป็นการป้องกันอันตราย ให้เลือกเดินเหยาะ ๆ ในสวน แกว่งแขนช้า ๆ โยคะสำหรับคนท้องหรือว่ายน้ำแทน
ยืนและนอนเป็นเวลานาน ๆ
เนื่องจากสภาพร่างกายของคนท้องจะเปลี่ยนและมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุครรภ์ จึงทำให้เกิดอาการหงุดหงิด ปวดท้อง กินอาหารมากขึ้น หากคุณแม่กินแล้วนอน อาจทำให้จุกเสียด แน่นอกและเส้นเลือดกดทับได้ ทางที่ดีจึงควรเปลี่ยนอิริยาบถทุก 1-2 ชั่วโมง เปลี่ยนท่านั่งหรือยืดเส้นยืดสายบ่อย ๆ ไม่ยืนหรือนั่งทั้งวัน เพื่อช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้นและลดอาการปวดหลัง แขน และขา
ระวังอาหารการกิน
โดยเฉพาะอาหารรสจัดจ้าน เผ็ดร้อน อย่าง ส้มตำ แกงเผ็ด น้ำพริก ฯลฯ มักจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ไม่สบายตัวทั้งแม่และลูกและเกิดริดสีดวงตามมา ยิ่งในช่วงตั้งครรภ์จะมีอาการปวดท้องอยู่แล้ว หากเป็นช่วงใกล้คลอดจะทำให้คลอดลำบามากขึ้น ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารรสกลาง ๆ ทั้งยังควรงดผงชูรส อาหารกระป๋องและเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน กาแฟ ชา น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง โดยเฉพาะวิตามิน อาหารเสริมต่าง ๆ อีกด้วย
สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
ถือเป็นสิ่งที่คนท้องต้องงดเว้นโดยเด็ดขาด สำหรับเครื่องดื่มมึนเมาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อย่าง เหล้า เบียร์ การสูบบุหรี่ ไปจนถึงสารเสพย์ติดต่าง ๆ เนื่องจากภัยร้ายจะส่งผลกระทบต่อทารกทุกด้าน ทั้งร่างกาย สมอง พฤติกรรมและการเรียนรู้ของทารก อาจแท้งลูกจนถึงพิการแต่กำเนิด โดยไม่สามารถรักษาให้หายได้
มีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เพราะครรภ์อยู่ในขั้นเริ่มสร้างอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายลูก ซึ่งมีความบอบบางและอาจเป็นอันตรายต่อลูกได้ ทั้งยังต้องระวังอีกช่วงคือ ช่วง 1 เดือนก่อนครบกำหนดคลอด เพราะอาจไปกระตุ้นให้มดลูกเกิดการหดตัว ทำให้คุณแม่อาจมีอาการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนดคลอดจริงได้ ทั้งนี้ในระหว่างตั้งครรภ์เรื่องเพศสมัพันธ์ถือเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่จะต้องระวังเรื่องความสะอาดและท่าที่ปลอดภัยค่ะ
ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว
โดยเฉพาะสารในกลุ่ม บีเอชเอ เอเอชเอ และกรดซาลิไซลิก ที่ทำหน้าที่ขจัดเซลล์ผิวให้เกิดการลอกและซึบซาบตัวยาลงไปยังชั้นผิว ดังนั้นหากคุณแม่คนไหนใช้โฟมล้างหน้า คลีนซิ่งและโทนเนอร์ ที่มีส่วนผสมเหล่านี้อยู่ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ออกไปเสียก่อน
ทำผม ทำเล็บ เข้าซาลอนเสริมสวย
ไม่ว่าจะเป็นเคมีจากน้ำยาที่ใช้โกรกเปลี่ยนสีผม ดัดผม ยืดผม ซึ่งมีกลิ่นแรงและเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผิวหนังของคนท้อง ดังนั้นหลีกให้ไกลก่อนดีกว่า แล้วหันมาบำรุงผมให้นุ่มสลวย ด้วยการหมักด้วยสูตรธรรมชาติ อย่าง ไข่แดง น้ำมันมะพร้าว หรือรับประทานปลาทะเลน้ำลึก ผักใบเขียว ธัญพืช น้ำมันงา เท่านี้ผม+เล็บก็สวยได้แบบไม่ต้องเข้าซาลอนเลยล่ะ
ศัลยกรรม อัพความสวย ความงาม
ไม่ว่าจะเป็นการเข้าคอร์สขัดผิว นวดหน้า พอกวิตามิน ไปจนถึงจิ้มโบท็อกซ์ ทำทรีทเม้นท์ เลเซอร์ด้วยเครื่องมือแพทย์ก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่ภารกิจความสวยที่เหมาะกับคนท้องเลยสักนิด เพราะอย่างที่ทราบกันว่าวิตามินและตัวยาที่ใช้นั้นเป็นอันตราย เมื่อได้รับสารเหล่านี้ในปริมาณมาก ๆ เด็กในครรภ์อาจถึงขั้นเป็นอัมพาตและพิการเลยทีเดียว
ซ้อนมอเตอร์ไซค์หรือขับขี่รถ
เพราะจะส่งผลกระทบกระเทือนกับลูกในท้องได้ แถมยังต้องระวังอุบัติเหตุ อันตรายต่าง ๆ ได้รอบทิศ นั่นจึงอาจทำให้มดลูกต้องมีการเกร็งตัวบ่อย ๆ โดยเฉพาะแม่ท้องเกิน 4 เดือนขึ้นไปควรให้คนอื่นขับแทนจะดีที่สุด
ทั้งนี้ การที่คุณแม่ท้องจะมีความสุข สดชื่นและมีสุขภาพแข็งแรงตลอดระยะตั้งครรภ์ อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อห้ามต่าง ๆ ก็เป็นได้ แท้จริงแล้วอาจมาจากสภาพจิตใจ การเลือกรับประทานที่มีประโยชน์ ทำใจสบาย ๆ ไม่เครียด ด้วยเรื่องง่าย ๆ เพียงเท่านี้รับรองว่าส่งผลดีกับสภาพจิตใจของตัวเราและลูกน้อยได้เหนือสิ่งอื่นแน่นอนค่ะ