5 ปัญหาปวดหนักปวดเบาหลังคลอด

ดูแลตัวเองหลังคลอด

5 ปัญหาปวดหนักปวดเบาหลังคลอด
(รักลูก)
เรื่อง : พรพิศุทธิ์

          คุณแม่ที่มีปัญหาการขับถ่ายหลังคลอด อาการท้องผูก ปัสสาวะบ่อย ริดสีดวงทวาร และปัสสาวะเล็ด เหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ และคงทำให้คุณแม่กังวลใจไม่น้อย ซึ่งวิธีดูแลและแก้ไขมีดังนี้ค่ะ

หลังคลอดลูกมักมีอาการท้องผูกอยู่บ่อย ๆ ทั้งที่พยายามกินผักผลไม้แล้วแต่ก็ยังไม่หาย

          อาการท้องผูก สามารถแก้ด้วยการฝึกลักษณะนิสัยในการเข้าห้องน้ำเป็นประจำ กินผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์ และดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าหรือตอนกลางคืน เพื่อให้ผักและผลไม้เกิดการรวมตัว เมื่อถึงตอนเช้าให้คุณแม่เข้าห้องน้ำเพื่อทำการขับถ่าย

          หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือการออกกำลังกาย ซึ่งประโยชน์ของการออกกำลังกายจะช่วยทำให้ลำไส้มีการบีบตัวที่ดีขึ้น เกิดการเคลื่อนไหวที่ดี ช่วยให้ผนังลำไส้และผนังบนกล้ามเนื้อบริเวณรอบ ๆ ทวารหนักมีการยืดหยุ่นสูงขึ้น เมื่อทำเป็นประจำจะสามารถลดอาการท้องผูกได้

หลังคลอดมักปวดปัสสาวะบ่อยมาก ต้องเดินเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ การดื่มน้ำให้น้อยลง ถูกต้องหรือไม่

          โดยขณะที่กำลังปัสสาวะคุณแม่มีอาการแสบคันด้วยหรือไม่ ถ้ามีอาการแสบคัน รู้สึกปวดเสียวช่วงก่อนหรือหลังจากปัสสาวะให้ดื่มน้ำในปริมาณ 6-8 แก้ว หรือ 2-3 ลิตรต่อวันก็จะช่วยได้

          เพราะหากคุณแม่ดื่มน้ำน้อยเกินไปจะทำให้แบคทีเรียที่อยู่ในทางเดินปัสสาวะมีการแบ่งตัวได้มากขึ้น ดังนั้นการดื่มน้ำจะเป็นการล้างปัสสาวะชุดเก่าออก ช่วยลดการแบ่งตัวของแบคทีเรียต่าง ๆ ให้น้อยลงได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรดื่มน้ำให้มากและไม่กลั้นปัสสาวะด้วยค่ะ

          แต่ถ้าหากอาการคุณแม่ยังไม่ดีขึ้น หรือมีไข้ร่วมด้วย ควรกินยาปฏิชีวนะแล้วไปพบแพทย์ และหากอยู่ในช่วงที่กำลังให้นมลูก ในยาบางตัวก็ไม่สามารถกินได้ ดังนั้น ควรไปพบแพทย์ก่อนจะดีกว่าค่ะ แต่หากลูกอยู่ในช่วงที่หย่านมไปแล้วคุณแม่ก็สามารถซื้อยากินเองได้โดยไม่มีผลอะไร

เป็นริดสีดวงทวารหลังคลอด ทำอย่างไรจึงจะหาย

          เพราะอาการริดสีดวงทวารนั้น เกิดจากเส้นเลือดดำที่อยู่รอบ ๆ ทวารหนักเกิดการโป่งพอง บวกกับพฤติกรรมการขับถ่ายของคุณแม่ที่ไม่ค่อยปกตินัก เช่น การเบ่งในช่องท้องบ่อย ๆ อุจจาระแข็ง ท้องผูก ซึ่งการเบ่งอุจจาระนาน ๆ จะยิ่งทำให้ริดสีดวงทวารเกิดได้ง่ายขึ้น และมีขนาดใหญ่ขึ้น

          ในการรักษาส่วนใหญ่ก็จะดูแลอย่างประคับประคอง โดยเน้นให้คุณแม่กินผัก และดื่มน้ำมาก ๆ นอกจากนี้ ควรหมั่นเข้าห้องน้ำทุกวัน เพื่อฝึกสุขลักษณะนิสัยที่ดีด้วย

          ถ้าอาการรุนแรงมาก เบื้องต้นจะมียากินและยาเหน็บเพื่อช่วยให้ก้อนเนื้อนุ่มลง ถ้ามีก้อนขนาดใหญ่ มีอาการเจ็บ เลือดออก หรือใช้ยาแล้วไม่ได้ผลที่ดีขึ้น การรักษาที่ดีที่สุดก็คือการผ่าตัดค่ะ

เพิ่งคลอดลูกได้ 2 เดือน ให้ลูกกินนมแม่ตลอด สามารถกินยารักษาริดสีดวงทวารได้หรือไม่

          ยาริดสีดวงทวารโดยส่วนใหญ่จะเป็นยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเส้นเลือดบริเวณทวารหนัก เพื่อทำให้เส้นเลือดมีการหดตัวลง หากคุณแม่ต้องการจะรักษา ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อจะได้เลือกยาที่ไม่อันตรายต่อน้ำนมที่ให้ลูกกิน เพราะยามีหลากหลายชนิด หรือคุณแม่อาจจะเลือกใช้ยาเหน็บทวารซึ่งจะออกฤทธิ์เฉพาะที่ก็ได้

          ปัจจุบันมียาชนิดครีมสำหรับทา ซึ่งสามารถรักษาได้แต่อาจใช้เวลาประมาณ 3-6 สัปดาห์ ในระหว่างนี้คุณแม่ควรดูแลตัวเองไม่ให้ท้องผูก กินผักผลไม้ ดื่มน้ำในปริมาณมาก และต้องเข้าห้องน้ำทุกวันให้เป็นเวลา และการออกกำลังกายก็ช่วยลดากรเกิดริดสีดวงทวารได้

ปัสสาวะเล็ดอยู่บ่อย ๆ ควรทำอย่างไรดี

          กรณีนี้ต้องดูว่าคุณแม่ผ่านการคลอดบุตรมาแล้วกี่คน ซึ่งผู้ที่มักมีปัญหาปัสสาวะเล็ดส่วนใหญ่จะอายุมาก เพราะบริเวณกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานจะหย่อยสภาพตามอายุ และหากคลอดบุตรมาหลายคนก็อาจเกิดการฉีกขาด การซ่อมแซมกลับเข้าที่อาจทำได้ไม่ดีพอ

          การยืดขยายของกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานจะส่งผลต่อผนังเยื่อบุช่องคลอด ทำให้ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ บางครั้งเวลาไอหรือจามก็มักจะมีปัสสาวะเล็ดออกมา เนื่องจากอุ้งเชิงกรานไม่มีความแข็งแรงที่จะเกร็งตัวเพื่อกลั้นปัสสาวะเอาไว้

          การรักษาทางเดินปัสสาวะอักเสบทำได้โดยการกินยาปฏิชีวนะ ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่ควรกลั้นปัสสาวะนาน ๆ หากยังไม่หายสามารถแก้ไข โดยการขมิบช่องคลอดบ่อย ๆ ทำติดต่อกันประมาณ 5 ครั้ง ทำซ้ำไปมาสัก 10 รอบ วันละสองถึงสามเวลาก็จะช่วยได้ค่ะ

          หากมีการหย่อนมาก ๆ ซึ่งเกิดจากการคลอดลูกหลายคน คุณหมอจะรักษาโดยการผ่าตัดส่วนที่หย่อนคล้อยออก แล้วเย็บ เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมีความแข็งแรงมากขึ้น หรือเรียกว่าการทำรีแพร์นั่นเอง และอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดปัสสาวะเล็ดก็คือ การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งทำให้เยื่อบุผนังช่องคลอด เสียความยืดหยุ่น แต่สาเหตุนี้มักจะเกิดกับคนที่อยู่ในช่วงวัยทองค่ะ

          ถ้าเราดูแลรักษาอาการอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้คุณแม่หลังคลอดมีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมดูแลลูกรักอย่างเต็มที่ค่ะ







ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 31 ฉบับที่ 36 มิถุนายน 2556


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
5 ปัญหาปวดหนักปวดเบาหลังคลอด อัปเดตล่าสุด 17 กรกฎาคม 2556 เวลา 11:32:15 30,806 อ่าน
TOP
x close