นมแม่ เสริมสร้างประสาทสัมผัสลูก (รักลูก)
โดย : แม่ลออ
ประโยชน์สุดยอดอีกอย่างของนมแม่ คือเป็นด่านแรกที่ช่วยกระตุ้นและเตรียมพร้อมประสาทสัมผัสของลูกรักด้านต่าง ๆ ให้ทำงานได้ดีค่ะไม่ว่าจะเป็นประสาทสัมผัสตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัส ล้วนจำเป็นต่อการเรียนรู้และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกในอนาคตค่ะ และวิธีหนึ่งที่จะทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ของลูกดีตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตน้อย ๆ ก็คือการกินนมแม่นี่ล่ะ
1. นมแม่ดีต่อการมองเห็น
ในนมแม่มีสารดีเอชเอ กรดอะมิโน และไขมันอื่น ๆ ที่ช่วยให้ลูกมีสายตาเฉียบคม โดยเฉพาะดีเอชเอที่ช่วยให้เนื้อเยื่อประสาทและจอประสาทตามีการรับภาพอย่างคมชัด
สายตาที่ดีมีความสำคัญมากนะคะ เพราะเมื่อสายตาดีพัฒนาการที่ทำงานประสานกับการมองเห็นอื่นๆ ก็จะตามมา การเรียนรู้ต่าง ๆ ก็จะดีด้วยเช่นกัน แต่ถ้าสายตาไม่ดี จะเดิน จะคลาน พัฒนาการต่าง ๆ หรือการเรียนรู้ก็จะมีปัญหาได้ค่ะ
นอกจากนี้เวลาให้นมแม่ ดวงตาแม่ดวงตาลูกได้มองสบตากัน ลูกจะได้เห็นความเคลื่อนไหวบนใบหน้าของแม่ ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม เสียงพูดคุย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการได้ดีทั้งสิ้นค่ะ
2. นมแม่ดีต่อการได้ยิน
ยามที่ลูกกินนมแม่ อยู่ภายในอ้อมกอดอันอบอุ่นของแม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่แม่มักส่งเสียงพูดคุยกับลูก ลูกจะได้ยินเสียงสูงต่ำ เป็นจังหวะจากแม่ ซึ่งช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการฟังให้ดีขึ้น ยิ่งแม่ร้องเพลง เล่านิทาน หรือพูดคุยมากเท่าไร ลูกก็จะได้ยินเสียงที่หลากหลาย ส่งผลให้สมองได้รับการกระตุ้น เซลล์ประสาทเชื่อมโยงส่งข้อมูลไปมาระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งยิ่งเซลล์ประสาทส่งสัมผัสรับส่งข้อมูลกันมากเท่าไหร่ ระบบประสาทและการทำงานของสมองลูกก็จะยิ่งเปี่ยมประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
3. นมแม่ดีต่อการดมกลิ่น
นมแม่ช่วยให้พัฒนาการเรื่องการรับกลิ่นของลูกดีขึ้น โดยนมแม่จะมีกลิ่นเฉพาะค่ะ และกลิ่นนี้เองจะไปกระตุ้นให้การดูดนมแรงขึ้นด้วย โดยมีการศึกษาชัดเจนในทารกที่คลอดก่อนกำหนดเมื่อนำนมแม่และนมผสมมาให้ พบว่าเด็กที่ได้กลิ่นของนมแม่ก็จะดูดนมได้แรงขึ้น และดีขึ้น ทำให้เด็กน้ำหนักขึ้นดี เด็กที่คลอดก่อนกำหนดก็จะแข็งแรงและกลับบ้านได้เร็วขึ้นกว่าเด็กที่กินนมผสม
4. นมแม่ดีต่อการรับรส
เด็กที่กินนมแม่จะกินอาหารได้หลากหลายกว่าเด็กที่กินนมผสมค่ะ เพราะในน้ำนมแม่นั้นกลิ่นและรสชาติจะแปลไปตามอาหารที่กิน ซึ่งกลิ่นที่ออกมาไม่ได้แรงนะคะ แค่ พอได้กลิ่นบ้าง ที่เป็นเล่นนี้ก็สอดคล้องกับการที่คนชาติเดียวกัน กลุ่มเดียวกัน ชอบอาหารกลิ่นคล้าย ๆ กันค่ะ
นอกจากนี้เด็กที่กินนมแม่มีโอกาสเป็นเด็กที่เลือกกินน้อยกว่าเด็กที่กินนมผสมเนื่องจาก
กลิ่นและรสชาติของน้ำนมแม่ จะแปรเปลี่ยนไปตามอาหารที่กินทุกวัน และต่อมรับรสของเด็กจะมีความไว เวลาที่เราไปแนะนำให้ชิมของใหม่ ๆ เด็กก็จะพอรับได้ แต่ถ้าเด็กกินแต่นมผสม ซึ่งทุกขวดจะเหมือนกันหมด มีรสชาติเดิม ๆ ต่อมรับรสของเด็กไม่ได้รับการกระตุ้น จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่กินยากได้ค่ะ
5.นมแม่ดีต่อสัมผัส
การให้นมแม่นั้น แม่ต้องกอดลูกเอาไว้แนบอกอย่างนุ่มนวล ซึ่งทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ได้รับสัมผัสที่อ่อนโยน มีผลต่อการกระตุ้นพัฒนาการ กระตุ้นอารมณ์ จะสังเกตได้ว่าเด็กที่กินนมแม่จะอารมณ์ดี เพราะรับรู้ถึงความรักของแม่ได้ตลอดจากสัมผัสนั้น
ขบวนการกินนมแม่ จะมีการพัฒนาเรื่องของการกินตามลำดับขั้นเริ่มตั้งแต่ระยะแรกเกิด ลูกน้อยจะอ้าปากพยายามงับเต้านม พอหัวขยับได้ ก็จะผงกเข้าหาเต้า ต่อมามือก็จะเริ่มไขว่คว้าหาเต้าแม่ ธรรมชาติจะสอนให้เด็กรู้จักวิธีกินค่ะ พอโตขึ้นหน่อย พัฒนาการของกล้ามเนื้อมือ การนั่งการนอน การเคลื่อนไหวของลูกก็จะดีขึ้นด้วย รวมถึงพัฒนาการด้านการกิน กลืน ดูด ก็จะก้าวหน้าอย่างเป็นระบบพร้อมรับกับการกินอาหารที่แข็งขึ้นในอนาคตได้
แค่หากลูกกินนมผสม มีโอกาสไม่ต้องทำอะไรมาก เมื่อเทียบกับวิธีการให้นมแม่ เพราะฉะนั้นหากลูกกินนมขวดพัฒนาการต่าง ๆ ก็ไม่เป็นไปตามลำดับขั้นตอน โอกาสการเรียนรู้ตามธรรมชาติของลูกจะน้อยลง ความสุขจากการสัมผัสและความอบอุ่นจากแม่สู่ลูกก็จะน้อยลงตามไปด้วยค่ะ
เพราะฉะนั้น ถ้าอยากให้ทุกประสาทสัมผัสของลูกมีพัฒนาการที่ดี เต็มศักยภาพ เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก