7 พฤติกรรม ที่พ่อแม่มักทำพลาดกับลูก ๆ

แม่และเด็ก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           เด็กก็เปรียบเสมือนผ้าขาว เขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นแบบไหนก็ขึ้นอยู่ที่พ่อและแม่ ที่จะแต่งแต้มสีอะไรให้กับเขาบ้าง พ่อแม่หลายคนจึงพยายามวาดลวดลายอย่างสวยงามที่สุด เพื่อให้ลูก ๆ เติบโตมาอย่างมีคุณภาพ แต่การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งส่วนหนึ่งของปัญหาก็อาจจะเป็นที่ตัวของพ่อและแม่เอง ที่เผลอเลี้ยงดูลูกอย่างผิด ๆ จนกลายเป็นการรังแกเขา 7 ข้อต่อไปนี้จึงเป็นตัวอย่างของพฤติกรรมที่พ่อกับแม่มักจะทำพลาดกับลูก ๆ จนส่งผลกระทบกับเด็ก ที่เราอยากให้พ่อแม่ทุกคนได้รู้กันค่ะ

1. ดูแลเกินความจำเป็น

           เข้าใจว่าพ่อแม่ก็ย่อมรักลูก และไม่อยากให้ลูกตกอยู่ในความลำบาก จึงทำทุกอย่างให้เขาจนเขาแทบไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเอง หรือต้องช่วยตัวเองเลยสักครั้ง แต่อย่าลืมว่าเราไม่ได้อยู่กับเขาไปตลอด เพราะฉะนั้นฝึกให้เขาออกไปเผชิญโลกภายนอก เรียนรู้การดูแลตัวเองและช่วยเหลือตัวเองให้ได้ดีกว่าค่ะ

2. ไม่เข้าใจและไม่ยอมรับธรรมชาติของวัยเขา

           โลกสมัยนี้หมุนเร็วกว่าความคิดของเรา เพราะฉะนั้นอาจจะมีบางพฤติกรรมและความคิดของลูก ๆ ที่คุณไม่เข้าใจหรือไม่เห็นด้วยเอาซะเลย ลองกลับมานั่งทบทวนกับตัวเองใหม่ก่อนค่ะ ตอนคุณอายุเท่าเขาคุณรู้สึกอย่างไรที่พ่อแม่ไม่เข้าใจ เขาก็คงรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน จะดีกว่าหรือเปล่าถ้าปล่อยตัวเองให้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แล้วลองคิดในมุมของเขาดู คุณอาจจะเข้าใจเขามากขึ้น ปรับทัศนคติเสียใหม่ ก่อนที่ลูกจะคิดต่อต้านและหันหลังให้พ่อแม่ไปเลย

3. ใส่ใจไม่ถูกทาง

           ยุคนี้เป็นยุคแห่งการแข่งขัน พ่อแม่ก็เลยต้องหยิบยื่นสิ่งที่คิดว่าดีให้กับลูก แค่เรียนในห้องอย่างเดียวคงไม่พอ เลยต้องส่งให้เขาไปเรียนพิเศษอีกสารพัด จนทำให้เวลาของครอบครัวลดลงไปทุกที ๆ เจอหน้ากันวันละไม่กี่นาที กินข้าวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันสัปดาห์ละไม่กี่หน ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องนั่งทบทวนแล้วล่ะค่ะ ว่าสิ่งที่ครอบครัวต้องการจริง ๆ คืออะไร บางทีอาจจะค้นพบว่า ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการได้มีเวลาร่วมกันก็ได้

4. ลงโทษเกินกว่าเหตุ

           เวลาที่ลูกทำผิด การลงโทษก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่เขาควรได้รับ แต่ก็ควรจะเลือกวิธีลงโทษให้เหมาะสมกับวัยและความผิดที่เด็กทำด้วย อย่าจัดหนักใส่เขาด้วยวิธีการตาต่อตา ฟันต่อฟัน อย่างถ้าเขาเล่นซนจนทำของหล่นแตก ก็ควรจะแค่ตักเตือนเขาก่อนในตอนแรก แต่ถ้ายังมีครั้งต่อไป ก็ลองยื่นเงื่อนไขให้เขา เช่น ต้องรดน้ำต้นไม้เป็นเวลา 1 อาทิตย์ เพื่อชดใช้กับของที่เขาทำเสียหาย เพื่อให้เขาได้เรียนรู้กฎเกณฑ์ของสังคมในวันที่เขาโตขึ้นนั่นเอง

5. ระบายอารมณ์ใส่ลูก

           ไม่ว่าจะหงุดหงิดอะไรมาจากข้างนอกบ้าน ก็ไม่สมควรจะมาระบายอารมณ์ไม่ดีเหล่านั้นใส่ลูกและคนในครอบครัว แม้เขาจะทำในสิ่งที่ทำให้คุณหงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีกก็ตาม สิ่งที่ควรทำในเวลาแบบนี้ก็คือ การสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองหน้าลูกให้ชัด ๆ อีกครั้ง ดึงสติตัวเองกลับมาให้ได้ว่าที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นคือลูก คือคนในครอบครัว และไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องมารองรับอารมณ์โกรธของคุณเลยสักนิด

6. ปล่อยให้เขาตัดสินใจโดยลำพัง

           การต้องตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองโดยไม่มีคนช่วยคิด สำหรับเด็กอาจจะเป็นเรื่องที่กดดันและเครียดจนเกินไป แม้การตัดสินใจนั้นอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ก็ตาม อย่าลืมว่าการเรียนรู้ที่ดีต้องมาพร้อมกับเวลาที่เหมาะสมด้วยนะคะ

7. คาดหวังมากเกินไป

           ไม่จำเป็นว่าต้องเรียนเก่งหรือต้องเป็นเลิศในทุกเรื่อง ถึงจะประสบความสำเร็จได้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตจนมีชื่อเสียงได้ โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้มีการศึกษาสูงเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเลิกโยนความหวังของคุณให้เขาแบกรับไว้ แล้วปล่อยให้เขาได้แสดงศักยภาพที่เขามีอย่างเต็มที่ การมีอิสระจะทำให้เขาทำทุกอย่างได้ดีโดยอัตโนมัติค่ะ

           อย่างไรก็ตามความรักความเอาใจใส่ที่พอเพียง จะเป็นปุ๋ยชั้นดีที่ส่งเสริมให้เขาเติบโตได้อย่างมีคุณภาพและมีความสุขนะคะ      






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
7 พฤติกรรม ที่พ่อแม่มักทำพลาดกับลูก ๆ อัปเดตล่าสุด 29 มีนาคม 2556 เวลา 16:08:33 2,766 อ่าน
TOP
x close