กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เรื่องกวนใจแม่ท้อง (Mother&Care)
อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบคงเป็นอีกหนึ่งอาการที่คุณแม่ต้องระมัดระวัง เพราะพบในผู้หญิงบ่อยกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะเวิร์กกิ้งมัมที่จดจ่อกับการทำงานเป็นเวลานานจนละเลยการเข้าห้องน้ำเมื่อปวดปัสสาวะ ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่ายขึ้น
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ...สาเหตุใกล้ตัว
คุณแม่หลายท่านอาจมีอาการของกระเพาะปัสสาวะอักเสบมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ สาเหตุหลักมักเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ดื่มน้ำน้อย ความเครียดจากการทำงาน ความอับชื้นและหมักหมมบริเวณอวัยวะเพศ จนเกิดการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ หากไม่ดูแลรักษาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์อาจทำให้อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบกำเริบและรุนแรงมากขึ้น เพราะ ช่วงตั้งครรภ์เส้นเลือดต่าง ๆ บริเวณทางเดินปัสสาวะจะขยายและคลายตัว ทำให้เชื้อโรคจากบริเวณปากช่องคลอดและทวารหนักสามารถเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายขึ้น เส้นเลือดที่รังไข่ด้านขวาจะมีขนาดใหญ่ขึ้นจนกดทับท่อไตและอุดไม่ให้น้ำปัสสาวะถ่ายเทจากไตไปสู่กระเพาะปัสสาวะได้ เชื้อโรคจึงถูกสะสมในน้ำปัสสาวะ จนเป็นสาเหตุให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบและรุนแรงถึงขั้นไตเป็นหนองได้
สัญญาณเตือน
อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบขณะตั้งครรภ์สามารถตรวจได้โดยการตรวจปัสสาวะเมื่อไปฝากครรภ์ รวมถึงหมั่นสังเกตว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ดังนี้
ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย กดแล้วรู้สึกเจ็บ
ปวดท้อง รู้สึกแสบหรือระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ เวลาปัสสาวะ
รู้สึกท้องแข็งหรือเจ็บท้องบ่อยๆ เหมือนจะคลอด (ในช่วงที่ยังไม่ถึงกำหนดคลอด)
ปัสสาวะบ่อยแต่กะปริบกะปรอย รู้สึกปัสสาวะไม่สุด
ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น สีขุ่น หรือมีเลือดปน
มีอาการหนาวสั่น ไข้สูง ปวดบริเวณบั้นเอวหรือหลัง
คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียบ่อย
หากมีอาการเหล่านี้ 3 ข้อขึ้นไป คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อป้องกันการลุกลามและจะได้รักษาได้อย่างถูกวิธี โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 3 เพราะการติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะที่ไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้กรวยไตอักเสบและคลอดก่อนกำหนดได้
ป้องกันอย่างไร?
วิธีง่าย ๆ ที่คุณแม่สามารถดูแลป้องกันไม่ให้เกิดอาการของกระเพาะปัสสาวะอักเสบคือ การดูแลความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศและใส่ใจกับกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ดังนี้
ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ วันละ 8 - 10 แก้ว เพื่อให้ถ่ายปัสสาวะบ่อย งดการดื่มชา กาแฟ
อย่ากลั้นปัสสาวะโดยไม่จำเป็น ถ่ายปัสสาวะก่อนไปธุระหรือการเดินทางทุกครั้ง
พยายามถ่ายปัสสาวะบ่อย ๆ และถ่ายให้หมดจนรู้สึกกระเพาะปัสสาวะว่าง
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำเป็นเวลานาน ๆ และเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมตรงบริเวณอวัยวะเพศ
หลังมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งให้ปัสสาวะและทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศด้วยน้ำสะอาด เพื่อล้างเชื้อโรคที่อาจเข้าไปในท่อปัสสาวะ
หากใช้กระดาษชำระทำความสะอาดหลังการขับถ่าย ให้เช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
สวมกางเกงชั้นในผ้าฝ้าย ระบายอากาศดี ไม่คับ หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงแนบเนื้อ เพื่อไม่ให้เกิดการอับชื้นและหมักหมมบริเวณอวัยวะเพศ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ...ต้องรักษา
อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบจะไม่รุนแรงหากคุณแม่ดูแลร่างกายอยู่เสมอและไปพบสูติแพทย์เป็นประจำ เพื่อตรวจปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์เป็นระยะ หาจำนวนเชื้อแบคทีเรียในน้ำปัสสาวะ จะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาอาการให้คุณแม่ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แม้จะยังไม่มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นก็ตาม
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบสามารถรักษาให้หายได้ โดยคุณแม่ต้องรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที ไม่ควรซื้อยามากินเอง ซึ่งแพทย์จะให้กินยาปฏิชีวนะที่ไม่เป็นอันตรายต่อทารก ควรกินติดต่อกันประมาณ 7-14 วัน หรือจนกว่ายาจะหมด (แม้ว่าจะไม่มีอาการแล้วก็ตาม) และการดื่มน้ำตามมากๆ จะช่วยบรรเทาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ทางหนึ่งเช่นกัน