ก้าวหน้าก้าวไกลแบบคุณแม่ออฟฟิศเลดี้ (Lisa)
เมื่อคุณแม่ยังสาวยังสวยเช่นคุณต้องรับหน้าที่เลี้ยงดูเจ้าตัวน้อย (หรือไม่น้อยไปด้วย) เราจะทำอย่างไร ให้การงานของเรารุ่งโรจน์โดยที่ชีวิตครอบครัวไม่รุ่งริ่ง!
เคล็ดไม่ลับ 7 ประการของคุณแม่สาวทำงาน
1.ใช้วันพักร้อนให้คุ้ม ไม่ว่าจะมีกี่วันก็ควรใช้หมด โดยการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ชี้ว่าคนทำงานมักจะเหลือวันพักร้อนที่ไม่ได้ใช้อย่างน้อยสองวันต่อปีโดยเฉลี่ย นี่เป็นเวลา 48 ชั่วโมง ที่คุณสามารถใช้กับลูก ๆ ได้ (อย่าเช็กอีเมล์เวลาพักร้อนด้วยนะ) แล้วคุณจะกลับมาออฟฟิศด้วยความสดใสและสร้างสรรค์กว่าเดิม
2.มีแผนสำรองอยู่เสมอ ถ้าเกิดประชุมนาน มีงานด่วนที่บริษัท พี่เลี้ยงมาไม่ได้ สามีรถติด หรือลูกป่วย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่คุณแม่สามารถเตรียมตัวได้ด้วยการวางแผนเวลาที่ไม่มีใครอยู่กับลูก ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือสามี โดยอาจจะโทรไปถามญาติหรือคนใกล้บ้านที่คุณไว้ใจได้
3.ขอความช่วยเหลือจากคุณสามี มีงานวิจัยมากมายชี้ว่าคุณสามีทำงานบ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าภรรยาจะยังคงครองแชมป์เรื่องงานบ้านก็ตาม บางทีคุณไม่อยากจะบ่นเรื่องชั่วโมงทำงานบ้าน ชั่วโมงทำอาหาร เวลาที่ต้องดูแลลูก ซึ่งบางครั้งก็มาชนกับเวลาทำงานประจำ แต่พอรวม ๆ กัน ปีหนึ่งแล้วก็รับว่าเยอะมาก ลองขอความช่วยเหลือจากสามีให้แบ่งเบาภาระบางเรื่องที่เป็นไปได้ แต่อย่าวิจารณ์วิธีที่เขาจัดการกับหน้าที่นั้นเด็ดขาด ไม่ว่าเขาจะทำได้แย่แค่ไหนก็ตาม (แต่จงชมเขาแทน)
4.ฉวยเวลาอยู่กับลูก ๆ ต้องขอบคุณวัฒนธรรมมัลติทาสก์ที่กำลังแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน (ซึ่งอาจทำให้คุณทำงานช้าลงด้วยซ้ำ) คุณแม่ที่ต้องทำงานไปด้วยจะมีปัญหาใช้เวลากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่ลูก ๆ ของคุณจะไม่กลับมาเป็นเด็กอีกต่อไปแล้ว ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ทำได้ ทั้งตอนเย็นหรือช่วงวันหยุด ควรจะเป็นเวลาอยู่กับลูก ๆ อย่างแท้จริง ลองปิดสมาร์ทโฟนสักครั้งและหันมาอยู่กับเด็ก ๆ จริง ๆ
5.ดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าลืมสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขก่อนหน้านี้ บางทีคุณอาจจะผ่อนคลายเมื่อได้ทำสวนสักชั่วโมง ดูหนังไซ-ไฟแปลก ๆ สักเรื่อง ทำกับข้าวให้เพื่อน ๆ กิน หรือออกไปเที่ยวกับเพื่อนสาว (แต่เราแนะนำให้นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงทุกคืน) อย่ารู้สึกผิดเลย เพราะคุณเองก็ต้องการการดูแลเหมือนกัน
6.ทำความเข้าใจกับตัวเอง อย่าทำทุกอย่างพร้อม ๆ กัน รีบไปในทุก ๆ ที่เหมือนกับไต้ฝุ่น ลองถอยมาสักก้าว และทำความเข้าใจว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ (เหมือนกับที่การทำธุรกิจก็มีแต่ละไตรมาสให้คุณได้พัก) คุณใช้ชีวิตแบบที่คุณชอบหรือยัง ได้ทำสิ่งที่คุณต้องการหรือเปล่า ชีวิตคุณหมายความว่าอย่างไร และทำไมคุณถึงได้อยู่บนเส้นทางที่คุณเลือกตอนนี้
7.ขอตารางงานที่ยืดหยุ่น ในหลายบริษัทอาจจะอนุญาตให้เวลาทำงานของพนักงานยืดหยุ่นขึ้นได้เพื่อให้เหมาะกับลูกจ้าง ขอเพียงแค่คุณถาม คุณอาจจะมาเร็วกว่าปกติ แต่ก็กลับไวกว่าเพื่อนด้วยเช่นกันถ้าคุณต้องไปรับลูกที่โรงเรียน ถ้าที่ทำงานของคุณไม่เคยมีใครทำอย่างนี้มาก่อน คุณก็อาจจะขอเป็นคนแรกที่ทดลอง แต่ในขณะเดียวกันคุณภาพงานก็ต้องไม่ตกด้วย
คุณแม่มือใหม่ ขอกลับไปทำงาน
ตีวงงานที่ต้องการให้ดี คุณเป็นคนมีความสามารถ (ใครก็ตามที่เลี้ยงเด็กได้ย่อมครองโลกได้ จริงไหม) แต่บางครั้งความสามารถอันหลากหลายของคุณก็เป็นสิ่งกีดขวางที่ทำให้คุณหางานไม่ได้ ถ้าคุณอยากกลับไปทำงานเดิม ก็ได้เวลาติดต่อกับคอนเน็กชั่นเดิม ๆ แล้วล่ะ
เขียนเรซูเม่ใหม่ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าครั้งสุดท้ายที่คุณมองเรซูเม่อาจจะเป็นเมื่อหลายปีที่แล้ว ได้เวลาที่คุณจะต้องอัพเดตเรซูเม่แล้วล่ะ เขียนถึงจุดเด่นที่สุดของคุณให้ชัดเจน อย่าลืมเปลี่ยนเรซูเม่สำหรับทุก ๆ ตำแหน่งงานที่คุณสมัครเขียนจดหมายสมัครงานที่เฉพาะเจาะจงสำหรับบริษัทให้ชัดเจน การส่งเรซูเม่เป็นเรื่องของคุณภาพมากกว่าปริมาณนะ
มองหาสถานเลี้ยงเด็ก ถ้าคุณต้องทำงานจนถึงหนึ่งทุ่มแล้วไม่มีใครดูแลลูกของคุณในขณะนั้นล่ะ นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณแม่มือใหม่มักจะลืม แต่การทำงานนั้น อาจจะทำให้คุณเหนื่อยทั้งกายและอารมณ์
หวนกลับไปหาคอนเน็กชั่น ถ้าคุณผ่านสามขั้นแรกมาได้แล้ว ก็เหลือขั้นสุดท้ายคือทำงานกับคนในเครือข่ายเดียวกันสร้างคอนเน็กชั่น หรือใช้ของเดิมให้มีประโยชน์ บอกเพื่อน ๆ ว่าคุณมองหาอะไรอยู่ คุณอาจจะได้งานจากเพื่อนในสมาคมผู้ปกครองก็ได้นะ ใครจะรู้
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
เมื่อคุณไม่มีผู้ช่วยเลี้ยงลูก การเงิน การงาน และครอบครัว เป็นสิ่งที่คุณต้องจัดการด้วยตัวคนเดียว
การเงินเป็นสิ่งสำคัญ อันดับแรกที่คุณต้องประเมินคือคุณมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ รวมทั้งค่าเล่าเรียน ค่าเสื้อผ้า และเงินค่าขนมของลูก
มองหาความช่วยเหลือทางการเงิน อย่างเช่น ทุนการศึกษา หรือสิทธิจากประกันสังคมที่คุณควรได้
กวาดตามองตลาดแรงงาน เลือกงานและผู้ว่าจ้างที่จะอนุญาตให้คุณทำหน้าที่ในฐานะแม่ไปพร้อม ๆ กับทำงานที่คุณชอบ (บางที่อาจจะอนุญาตให้คุณทำงานจากบ้านได้เลยด้วยซ้ำเพื่อลดเวลาเดินทาง)
อยู่กับความเป็นจริง อาจจะมีสิ่งที่คุณต้องทำก่อนจะได้งานในฝัน
เหตุผลที่ทำให้คุณแม่ต้องกลับไปทำงาน
อันดับ 1 : ปัญหาทางการเงิน
อันดับ 2 : เพราะชอบทำงาน
55% หาสมดุลระหว่างชีวิตการงานและครอบครัวได้ลำบากมาก
16% เอาชีวิตครอบครัวมาเป็นอันดับแรก แต่หน้าที่การงานก็ไปไม่ถึงไหนเช่นกัน
13% ทีแรกก็ต้องดิ้นรน แต่ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในเงื้อมมือแล้ว
13% ไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น
3% เอาหน้าที่การงานมาเป็นอันดับแรก แต่ครอบครัวก็ทุกข์ระทมเช่นกัน
Did You Know ?
What’s it Like to be a Working Mom ?
คุณแม่สาวทำงานมีชีวิตอย่างไร เว็บไซต์ The Ladder ทำการสำรวจและเปิดเผยว่า...อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับตำแหน่งงานในฐานะคุณแม่ที่ต้องทำงานไปด้วย
44% ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น
29% ทำงานจากที่บ้านได้
20% สามารถเลือกชั่วโมงการทำงานที่สะดวกได้
5% มีช่วงเวลาลาคลอดเหลือเฟือ
2% มีบริการดูแลบุตรหลานในบริษัท
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.13 No.30 8 สิงหาคม 2555