ก้าวผ่าน 9 เดือน แบบ HAPPY MOM (modernmom)
เรื่อง : ศิริพร
9 เดือนของการตั้งครรภ์ นอกจากการมีลูกน้อยมาอยู่ร่วมเป็นคนเดียวกันกับคุณแล้ว ทั้งร่างกายและจิตใจก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย ว่าที่คุณแม่หลายคนรับมือไม่อยู่ จัดการไม่ได้ 9 เดือนนั้นก็กลายเป็น 9 เดือนที่แสนทรมาน แต่หากรู้เท่าทัน และมีการเตรียมพร้อม นี่ก็จะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและมีคุณค่า ที่คุณจะจดจำด้วยความประทับใจไปนานแสนนาน
เดือนที่ 1 ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่
จากสาวสวยเริ่ด เชิด เก่ง วันดีคืนดีกลับรู้สึกอ่อนเพลีย คลื่นไส้ คัดเต้านม อารมณ์ก็แปลก ๆ อยู่ดี ๆ เดี๋ยวก็หดหู่ อยากร้องไห้ ไป ๆ ก็หงุดหงิดปรี๊ดแตกแบบตัวเองยังตกใจ
Happy Mom : มีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะยังไม่รู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ แต่เมื่อร่างกายมีอาการแปลก ๆ คุณควรตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน แล้วใช้ชีวิตให้ผาดโผนน้อยลง ตรวจหาคำตอบให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งรู้เร็ว ดูแลทั้งตัวเองและลูกในท้องได้เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งส่งผลดีเท่านั้น และด้วยความที่ยังไม่รู้ตัว การบำบัดก็ต้องทำไปตามอาการ อาจต้องนอนพัก หรือมีลูกอมเปรี้ยว ๆ ยาดม ยาหม่องเป็นอาวุธคู่กายติดตัวไว้
เดือนที่ 2 สะลึมสะลือ
อารมณ์ก็ยังคงแปรปรวนได้ง่ายดาย ไปพร้อม ๆ กับร่างกายที่เริ่มมีอาการมากขึ้น นอนหลับมากกว่าเมื่อก่อนแต่ตื่นมาก็ยังงัวเงีย อ่อนเพลีย แถมพะอืดพะอม คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะบ่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ หน้าอกหน้าใจก็ขยายใหญ่และคัดตึง ฟังดูอาจรู้สึกดีแต่สีคล้ำขึ้นนี่สิช่างปวดใจ
Happy Mom : อาการของคุณแม่ท้องเริ่มปรากฏ คุณอาจจะเริ่มมั่นใจกับตัวเองมากขึ้นฉันท้องแน่ ประกอบกับประจำเดือนหายไปด้วย ช่วงนี้ต้องเริ่มดูแลตัวเองแล้วค่ะ ช่วงเดือนนี้ตื่นเช้ามาคุณอาจออกกำลังกายเบา ๆ ขอย้ำว่าเบา ๆ อย่างการยืดเส้นยืดสายเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า พิถีพิถันการทานอาหารกว่า แต่ก่อน เลือกเมนูที่ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อง่าย กินโฟลิคแบบเม็ดตามที่คุณหมอให้ และในช่วงสัปดาห์ที่ 8 ของการตั้งครรภ์คุณต้องกินแคลเซียมให้ได้ 2 เท่าของภาวะปกติ โดยคุณหมอจะเป็นคนจัดยาบำรุงให้คุณแม่เอง
เดือนที่ 3 กินเก่งจัง
อาการแพ้ท้องเริ่มทุเลา แต่จะมีอาการอื่น ๆ เข้ามาแทนที่ อย่างเส้นเลือดที่เต้านม ท้อง และขาเริ่มขยาย ท้องเริ่มโต ปวดศีรษะเป็นครั้งคราว เหงื่อออกมากกว่าปกติ เพราะระบบเผาผลาญทำงานมากขึ้น แน่นอนว่าคุณแม่จะหิวบ่อยขึ้นเช่นกัน
Happy Mom : ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มาก ๆ กินอาหารที่มีกากใยสูง เริ่มฝึกออกกำลังกายสำหรับคนท้องโดยเฉพาะ อาบน้ำให้บ่อย ๆ โดยควรอาบด้วยฝักบัวแทนการนอนแช่ในอ่างอาบน้ำ เพื่อป้องกันการลื่นล้มและเป็นการป้องกันการติดเชื้อหากอ่างอาบน้ำไม่สะอาดพอ
เดือนที่ 4 วัดใจแม่คนใหม่
ต้องบอกว่าเดือนที่ 4 เป็นช่วงที่คุณจะต้องรับศึกหนักที่สุด พยายามอดทนผ่านช่วงเดือนนี้ไปให้ได้แล้วที่เหลือก็จะชิว ๆ เอง เดือนนี้คุณจะหิวบ่อยขึ้น แต่ยิ่งทานเยอะก็ยิ่งเข้าห้องน้ำบ่อย แน่นท้อง ท้องผูก ยังคงปวดศีรษะเป็นครั้งคราว คัดจมูก อาจมีเลือดกำเดาไหล หูอื้อ คัดเต้านมน้อยลง หลังเท้าบวม มีเส้นเลือดขอดที่ขา อาจมีริดสีดวงทวารเกิดขึ้น อารมณ์ยังคงแปรปรวน และจะหน้ามืดได้ง่าย
Happy Mom : สาว Wonder Women ที่จัดการทุกอย่างได้ ทำอะไรเร็ว ช่วงนี้คุณควรใช้ชีวิตให้ช้า โดยเฉพาะการลุกนั่ง หากปุ๊บปั๊บอาจเกิดอาการหน้ามืดล้มตึงเอาง่าย ๆ แล้วใครที่ยังอยากสวย คุณต้องขยันหน่อย ด้วยการหมั่นนวดเบา ๆ บริเวณหน้าท้อง รอบเอว สะโพก และหน้าขา ทุกครั้งหลังอาบน้ำเพื่อป้องกันผิวแตกลาย
เดือนที่ 5 คุณแม่เต็มตัว
สัญชาตญาณความเป็นแม่อย่างการมีน้ำนมเริ่มเผยออกมา มีตกขาวมากขึ้น ท้องผูก อาหารไม่ย่อย มีลมในท้อง เป็นตะคริว เท้าบวม บางครั้งมือและหน้าก็บวมด้วย ปวดหลัง เส้นเลือดขอดที่ขาเห็นชัดเจนขึ้น ชีพจรเต้นเร็ว
Happy Mom : ส้นสูงที่เคยรักคุณต้องเก็บและงดใส่อย่างเด็ดขาดนับจากนี้ไป แล้วสวมเป็นรองเท้าส้นเตี้ยเพื่อลดการเกร็งยามต้องเขย่งยืนบนรองเท้าสูง ๆ เลี่ยงการยืนนาน ๆ สวมเสื้อผ้าที่เคลื่อนไหวได้สะดวก ลดของหวานเพื่อควบคุมการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักและเบาหวาน เน้นทานเป็นแคลเซียมให้มาก ๆ
เดือนที่ 6 คล้าย ๆ ลูกโป่งพองลม
น้ำหนักคุณจะเพิ่มอย่างรวดเร็วมากในเดือนนี้และเดือนถัดไป ทำให้มีอาการปวดหลังเนื่องจากต้องแบกรับน้ำหนักที่หน้าท้องที่มากขึ้น ท้องผูก มีอาการหน่วงท้องน้อย จุกเสียดอาหารไม่ย่อย หูอื้อ อาจมีเลือดกำเดาไหลและเลือดออกตามไรฟัน ใบหน้า ท้อง มือบวม มีเส้นเลือดขอดที่ขาและอาจเป็นริดสีดวงทวาร
Happy Mom : ท้องเริ่มใหญ่ ใครที่ถนัดนอนหงายอาจต้องเริ่มฝึกนอนตะแคง ไม่นั่งหรือยืนในท่าเดิมนาน ๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ พยายามยกขาสูงเท่าที่มีโอกาส กินอาหารที่ย่อยง่าย ๆ หรือการมีขิงผงแบบซองไว้ชงดื่มก็จะช่วยได้มาก
เดือนที่ 7 ปวด ๆ เมื่อย ๆ
ใครที่ควบคุมน้ำหนักก่อนหน้านี้ได้ไม่ดี เดือนนี้ก็จะเป็นเดือนที่คุณต้องแบกภาระหนัก ทำให้ปวดเมื่อยได้ง่ายโดยเฉพาะที่หลัง มีอาการบวมที่ข้อเท้าและหลังเท้า เป็นตะคริวได้ง่าย ปวดหน่วงท้องน้อย มีลมในกระเพาะอาหาร ปวดศีรษะเป็นบางครั้ง นอนไม่ค่อยหลับ มีน้ำนมเหลืองไหลซึมออกมา
Happy Mom : คุณต้องพักผ่อนให้มาก ๆ ช่วงพักกลางวันอาจงีบหลับเพื่อชาร์จพลังหลังมื้ออาหารสักครู่ กลางคืนก็เข้านอนแต่หัวค่ำ พยายามอย่าเดินมาก และบีบนวดเบา ๆ เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อย
เดือนที่ 8 อุ้ยอ้าย
ท้องใหญ่เต็มที่ทำให้เสียการทรงตัวได้ง่าย สะดือถูกดันจนราบหรือจุ่นในบางราย กระดูกเชิงกรานเริ่มขยายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด
Happy Mom : หน้าท้องที่โตสุด ๆ จะทำให้เดินเหินลุกนั่งลำบาก การนั่งท่ากึ่งนอนจะช่วยบรรเทาความอึดอัดยามนั่งได้ เวลาลุกก็ต้องหาที่เกาะแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นมา ยามเดินการกางขาให้มากขึ้นก็จะช่วยให้คุณบาลานซ์ตัวได้ง่ายขึ้น
เดือนที่ 9 สุดยอดแห่งความตื่นเต้นและกังวล
ทั้งความตื่นเต้นและกังวลจะเกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กัน สิ่งนี้จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนด้วยการนอนไม่หลับ ควบคู่ไปกับอาการทางร่างกายที่เริ่มส่งสัญญาณการเตรียมคลอด ไม่ว่าจะเป็นการมีตกขาวมากขึ้นและเป็นมูกข้น บางครั้งมีเลือดจาง ๆ ร่วมด้วย แล้วลูกก็จะเริ่มกลับหัวซึ่งจะทำให้คุณหายใจได้สบายขึ้นแต่หัวลูกจะไปดันกระเพาะปัสสาวะทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย มีอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูกรุนแรงขึ้น บางครั้งมีอาการเจ็บเตือน มีน้ำนมสีเหลือง ๆ ไหลออกมา
Happy Mom :การนอนหลับยากส่วนหนึ่งเป็นเพราะร่างกายที่เปลี่ยนไป ซึ่งก็ยากที่จะควบคุม แต่อีกส่วนหนึ่งเกิดจากความเครียดและกังวลในการคลอด ซึ่งคุณสามารถปรับมุมคิดได้ หากคุณมีการศึกษาข้อมูลเรื่องการคลอดและมีการเตรียมพร้อมที่ดีก็ไม่มีอะไรที่น่ากังวล
แม้จะมีอาการเปลี่ยนแปลงมากมายในช่วงท้อง แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ทันทีที่มีลูกสัญชาตญาณความเป็นแม่จะเกิดขึ้นมาเองและสามารถรับมือกับอาการต่าง ๆ ได้แน่นอน ขอเพียงแค่คุณต้องไม่กังวลมากจนทำให้สิ่งนั้นมาบดบังสัญชาตญาณไปซะ มีความสุขกับการตั้งครรภ์ และรอต้อนรับของขวัญชิ้นงดงามชิ้นนี้ดีกว่าค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.17 No.200 มิถุนายน 2555