9 เดือนแห่งการเปลี่ยนแปลง (รักลูก)
โดย: วรนิติ์
เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะส่งสัญญาณบอกเป็นอาการต่างๆที่ผิดแผกไปจากภาวะปกติให้รับรู้ เชื่อว่าโดยสัญชาตญาณนั้นคุณเองก็สามารถแปรความหมายจากที่ร่างกายพยายามจะบอกได้อยู่แล้ว แต่คงไม่ทั้งหมดและไม่เหมือนกันทีเดียวนัก มาดูสิคะว่าในแต่ละเดือนทั้ง 9 เดือน ที่เจ้าตัวน้อยมาอยู่ด้วยนั้น ร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
ระยะการตั้งครรภ์ อาการทางร่างกาย
เดือนที่ 1
ประจำเดือนขาด แต่ก็ไม่แน่เสมอไปสำหรับคุณผู้หญิงประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ คุณสามารถตรวจสอบการตั้งครรภ์โดยการตรวจปัสสาวะจากชุดทดสอบสำเร็จรูป หรือจากแพทย์ได้ หลังจากประจำเดือนขาด 2 สัปดาห์ค่ะ ถ้ารู้แน่แล้วว่าเจ้าตัวน้อยมา อย่าลืมฝากครรภ์ทันทีนะคะ นอกจากนี้คุณอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนเจ็บเต้านมร่วมด้วย
เดือนที่ 2
รู้สึกคลื่นไส้ วิงเวียน และอยากอาเจียนมากขึ้นกว่าเดือนแรกเหนื่อยง่าย ปัสสาวะบ่อย เต้านมคัด เจ็บ เหม็นบางสิ่งบางอย่างจนทนไม่ได้ อารมณ์อ่อนไหว แปรปรวนง่าย
เดือนที่ 3
อาการยังเป็นเช่นเดียวกับเดือนที่ 1,2 ค่ะ อาจจะเริ่มแพ้ท้องน้อยลง แต่จะยังคงหงุดหงิด ฉุนเฉียวง่ายอยู่ และเริ่มมีปัญหาท้องผูกบ้างแล้ว เพราะการเคลื่อนตัวของอุจจาระในลำไส้ช้าลง ควรรับประทานผักและผลไม้เยอะ ๆ นะคะ
เดือนที่ 4
ท้องเริ่ม "ยุ้ย" มากขึ้น จะรู้สึกหิวบ่อย อารมณ์ปรวนแปรจะลดลง
เดือนที่ 5
หน้าอกใหญ่ขึ้น อาจมีน้ำนมใสไหลออกมา เริ่มประสบปัญหาต่าง ๆ เช่น มีตกขาวมาก ปวดหลัง หรือมีเลือดออกตามไรฟัน
เดือนที่ 6
ช่วงนี้ท้องจะโตขึ้นและน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ลานหัวนมอาจนูนมากขึ้น มีเหงื่อมาก และรู้สึกร้อน ควรดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ ค่ะ
เดือนที่ 7
เริ่มรู้สึกแสบร้อนบริเวณหลัง อก หลังกินอาหารอิ่ม รู้สึกอาหารไม่ย่อย เป็นตะคริวตามขา หน้าท้องของคุณแม่บางคนเริ่มแตกลาย
เดือนที่ 8
"อุ้ยอ้าย" เต็มที บางครั้งจะหายใจไม่ค่อยเต็มอิ่ม เพราะลูกตัวโตขึ้นจนเบียดอวัยวะในช่องท้องของคุณแม่ จะปวดปัสสาวะถี่ขึ้น
เดือนที่ 9
รู้สึกถ่วง ๆ ที่ท้องน้อย อาจมีอาการเจ็บท้องเตือน คันและตึงบริเวณผิวหนัง บริเวณหน้าท้อง มือ เท้าบวม เหนื่อยล้าอยากนอนพัก และสัปดาห์ท้าย ๆ ของเดือน คุณแม่ก็ต้องเตรียมตัวพบกับลูกน้อยแล้วนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก