5 รสนี้ดีอย่างไร

ตั้งครรภ์

5 รสนี้ดีอย่างไร
(modernmom)
เรื่อง : มะขามเปียก

          รสชาตินั้นนอกจากจะทำให้อาหารอร่อยแล้ว ยังเป็นตัวบ่งบอกถึงสารอาหารที่เราจะได้รับด้วย แล้วรสหวาน เค็ม เปรี้ยว ขม และเผ็ดนั้น มีผลต่อร่างกายของคุณแม่ท้องอย่างไร แล้วควรเลือกกินแบบไหน เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

รสชาติสำคัญอย่างไร

          ลิ้นเราสามารถรับรู้ได้ 4 รสชาติด้วยกัน คือ รสหวาน รสเค็ม รสเปรี้ยว รสขม ส่วนรสเผ็ดนั้น ถึงแม้ว่าลิ้นจะรับรสไม่ได้ แต่ความเผ็ดร้อนก็ทำให้อาหารมีความอร่อยมากยิ่งขึ้น หลายคนจึงชอบกินรสเผ็ดร้อนจัดจ้าน

          คุณทราบไหมคะว่า ความแตกต่างของรสต่าง ๆ นั้น ให้สารอาหารที่มีประโยชน์แตกต่างกันไป สำหรับคุณแม่ท้องไม่ควรกินอาหารเน้นไปที่รสใดรสหนึ่ง แต่ควรกินให้หลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน

1.Sweet รสหวาน

          อาหารรสหวาน มักจะอยู่ในอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น ผลไม้ น้ำผลไม้ น้ำผึ้ง น้ำตาล ขนมต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับคุณแม่ท้อง ทำให้รู้สึกสดชื่น แจ่มใส ร่าเริง ลดอาการอ่อนเพลีย ช่วยดับกระหาย

ลองลิ้มรสหวาน

          ถั่วเขียวต้มน้ำตาล น้ำอ้อย กล้วยอบ น้ำผึ้ง อินทผาลัม ลูกเกด ขนมหวาน

แม่ท้องควรรู้

          คุณแม่ท้องสามารกินอาหารที่มีรสหวานได้ทุกวัน แต่ต้องจำกัดจำนวน และไม่ควรกินรสหวานจัด เพราะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไป ส่งให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ

2.Salty รสเค็ม

          อาหารรสเค็มจัดจะมีโซเดียมเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำหน้าที่ในการควบคุมความสมดุลของเหลวในร่างกาย รักษาความดันโลหิตให้อยู่ระดับปกติ ช่วยควบคุมระดับความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย อาหารที่มีรสเค็มจะช่วยกระตุ้นต่อมรับรส ทำให้อาหารมีรสอร่อยมากขึ้น

ลองลิ้มรสเค็ม

          ปลาหมึกแห้ง สาหร่ายทะเล กุ้งแห้ง หมูแดดเดียว บ๊วยเค็ม ผลไม้ดอง ผักกาดดอง

แม่ท้องควรรู้

          คุณแม่ท้องไม่ควรกินอาหารที่มีรสเค็มจัด เช่น อาหารหมักดอง อาหารตากแห้ง เพราะจะทำให้ร่างกายมีปริมาณโซเดียม จากเกลือสูงกว่าปกติ ทำให้กระหายน้ำ ร้อนใน เพิ่มความเสี่ยงต่อการมีภาวะความดันโลหิตสูง ทำให้ไต และหัวใจทำงานหนักมากขึ้น แม่ท้องควรกินอาหารที่มีความเค็มปานกลาง ไม่ควรปรุงรสเพิ่ม ทั้งนี้เพื่อลดปริมาณโซเดียม

3.Sour รสเปรี้ยว

          รสเปรี้ยวช่วยลดอาการคลื่นไส้ และอาการแพ้ของแม่ท้องในไตรมาสแรกได้เป็นอย่างดี ช่วยให้การย่อยและดูดซึมสารอาหารทำงานได้ มีประสิทธิภาพดีขึ้น ช่วยขับเสมหะ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ ป้องกันอาการท้องผูกได้

ลองลิ้มรสเปรี้ยว

          น้ำมะนาว น้ำกระเจี๊ยบ มะขาม มะม่วงดิบ ยำวุ้นเส้น โป๊ะแตก สับปะรด กระท้อน

แม่ท้องควรรู้

          อาหารที่มีรสเปรี้ยวมักมีพลังงานน้อยกว่าอาหารที่มีรสหวาน ไม่ทำให้อ้วนง่าย แต่ถ้าคุณแม่กินรสเปรี้ยวมากเกินไป อาจทำให้ท้องเสีย กระเพาะอาหาร และลำไส้เกิดอาการระคายเคืองได้

4.Bitter รสขม

          อาหารรสขมส่วนใหญ่มักมาจากพืชผักต่าง ๆ เช่น มะระ ผักโขม มะเขือพวง สะเดา ใบบัวบก ใบยอ ใบย่านาง อุดมไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่ เช่น เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก โปแตสเซียม แคลเซียม ซึ่งมีประโยชน์สำหรับแม่ท้อง เพราะช่วยบำรุงหัวใจ ลดการดูดซึมของไขมันและน้ำตาล มีใยอาหารสูง เป็นยาระบายธรรมชาติ ช่วยในการทำงานของระบบย่อยและดูดซึม

ลองลิ้มรสขม

          ผัดมะระ สะเดาลวก แกงเห็ดใบย่านาง ห่อหมกใบยอ น้ำใบบัวบก ผัดผักโขม

  แม่ท้องควรรู้

คุณแม่ท้องที่มีอาการแพ้ในไตรมาสแรก อาจต้องระมัดระวังในการทานรสขม เพราะอาจไปกระตุ้นให้อาเจียนได้ง่าย และแม่ท้องที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็ควรกินอาหารในกลุ่มนี้บ่อย ๆ เพราะจะช่วยลดการดูดซึมของน้ำตาล

5.Spicy รสเผ็ด

          วัตถุดิบที่มีรสเผ็ด เช่น ขิง พริก กระเทียม พริกไทย กะเพรา ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยขับเหงื่อ ขับลม การเผาผลาญอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้แม่ท้องลดอาหารอึดอัดแน่นท้อง กระตุ้นให้เจริญอาหาร กินอาหารได้มากขึ้น

ลองลิ้มรสเผ็ด

          น้ำขิง ปลานึ่งขิง ไก่ผัดกะเพรา หมูทอดกระเทียมพริกไทย

แม่ท้องควรรู้

          คุณแม่ท้องไม่ควรกินอาหารรสเผ็ดจัด โดยเฉพาะขณะท้องว่างเพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้

          อาหารทุกรสชาติล้วนมีประโยชน์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ดังนั้นเวลาทานอาหาร คุณแม่ท้องก็ควรจะต้องบาลานซ์รสชาติให้ดี ๆ นะคะไม่ควรเน้นไปที่รสชาติใดมากเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่และลูกในท้องค่ะ

     


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.16 No.192 ตุลาคม 2554

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
5 รสนี้ดีอย่างไร อัปเดตล่าสุด 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา 16:16:51 21,425 อ่าน
TOP
x close