สายใยรักผูกพันคุณแม่แอนนา-น้องไตตั้น (modernmom)
เรื่อง : ศิศพร / ภาพ : เอกรัตน์ ศรีพานิชย์
ไม่บ่อยนักค่ะที่คุณ แอนนา นาตาชา สัจจกุล จะยอมพา น้องไตตั้น-เด็กชายธีชา สัจจกุล (titan = t มาจาก ตุ้ย an มาจากแอนนา, ธีชา = ธี มาจาก ธีรภัทร์ ชา มาจาก นาตาชา) แก้วตาดวงใจของเธอและสามีสุดหล่อ คุณตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล ออกมาโชว์ตัว เพราะตั้งแต่ช่วงท้องจนถึงหลังคลอด เธอเลือกที่จะเป็นคุณแม่เต็มเวลา ที่ทุ่มเททุกวินาทีกับการเลี้ยงลูกชายให้เติบโตสมวัย
ตอนแรกเราก็คิดไม่ถึงว่านางแบบที่เคยเห็นเดินแฟชั่น หลังตรงไหล่ตึง เมื่อถึงวันที่เป็นแม่เธอจะทุ่มเททุกลมหายใจให้ลูกน้อยได้ขนาดนี้ ซึ่งเธอบอกว่าเป็นเพราะสายใยรักและผูกพัน ที่นับวันก็ยิ่งเกาะเกี่ยวแน่นมากขึ้นทุกที และเธอก็ถ่ายทอดความรู้สึก ที่เพิ่งเคยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกในชีวิตให้เราฟังว่า
"ทุกวันนี้แอนนาเข้าใจแล้วค่ะ "ลูกเป็นดวงใจของแม่" คำที่เขาพูดกันเป็นอย่างไร ตอนแอนนาเด็ก ๆ จะได้ยินคำนี้บ่อย ๆ หรือไม่ก็ในรายากรที่เปิดเพลงค่าน้ำนม ดูแล้วเห็นเขาร้องไห้เราก็เฉย ๆ แต่ตอนนี้โอ้โห เข้าใจแล้ว มันเป็นความรัก ความเป็นห่วง เป็นทุกอย่างของเราเลยจริง ๆ ตอนอยู่ในท้องยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากมาย ตอนคลอดก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่พอเลี้ยงเขาไปเรื่อย ๆ มันค่อย ๆ ผูกพันจนรู้ซึ้งถึงคำนี้"
แม้ความผูกพันจะค่อย ๆ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นหลังจากที่คลอดน้องไตตั้นออกมา แต่เรื่องของความรักและปรารถนาดี เธอมีให้ลูกชายอย่างเต็มเปี่ยม มาตั้งแต่รู้ตัวว่ากำลังเป็นแม่คนแล้ว
"ตอนที่ท้อง 4 เดือนแรกแอนนาจะเบื่ออาหารมาก รู้สึกคลื่นไส้ไม่สบายตัว เวียนหัว ไม่อยากกินอะไรเลย แต่ก็ฝืนกินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อส่งไปถึงเขา พอหลังจาก 4 เดือนอาการแพ้เริ่มดีขึ้น จะกินได้ปกติ ทีนี้อะไรที่ชอบและเป็นประโยชน์ก็จะกินได้เต็มที่ แอนนาให้ไตตั้นกินนมแม่อย่างเดียวเลยอยู่ 7 เดือนเต็ม ๆ ค่ะ เป็นช่วงที่เหนื่อยมาก (แต่ก็ยังยิ้มด้วยแววตามีความสุขในขณะเล่า) เพราะด้วยความที่อยากให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วน ในขณะที่เราแยกครอบครัวออกมาก็เท่ากับต้องดูแลลูกไปด้วย แล้วก็ต้องดูเรื่องอาหารการกินของตัวเองไปด้วย ถ้าอยู่บ้านคุณแม่คงเป็นคนทำให้ แต่พออยู่เป็นครอบครัวเดี่ยวทำให้กลายเป็นคนกินง่ายที่สุดในโลก ต้องรีบกิน เพราะกินไปแปบนึงเขาก็จะแอ๊ะแอ๊ะอีกแล้ว ก็จะต้องกินให้เร็วที่สุด แล้วอะไรที่ไม่เคยกินแต่เขาบอกว่ามีประโยชน์ก็จะกินหมด ไม่ต้องชอบ ไม่ต้องอร่อยแล้ว แค่มีประโยชน์ก็กิน แล้วจะเหนื่อยตรงที่พอให้นมไตตั้นเสร็จก็ต้องไปกินอีกแล้ว เพื่อให้มีน้ำนมมาให้ลูกต่อ"
ต้องขอบอกว่าคุณแอนนาเธอเป็นคุณแม่ยุคใหม่ ที่ประยุกต์ใช้ความทันสมัยกับเซ็นท์ความเป็นแม่ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งการเลี้ยงลูกดี ๆ ที่เธอยินดีแชร์ให้กับแม่ ๆ ท่านอื่น ๆ ฟังกัน
"ช่วงท้องจะอ่านหนังสือเยอะมากค่ะ จะหาข้อมูลว่าควรกินอะไร และไม่ควรกินอะไร พอคลอดออกมาก็จะศึกษาเรื่องนมแม่ว่าทำอย่างไรให้มีประโยชน์สูงสุด ทั้งอ่านจากในหนังสือ ดูอินเทอร์เน็ต ถามพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่มีลูกแล้วก็มีประสบการณ์ในการเลี้ยงนมแม่ แล้วเอามาปรับใช้กับตัวเอง คือถ้าจะให้ชัวร์ที่สุดก็คือ ควรถามกับคุณหมอ แต่การเลี้ยงลูกจะมีสิ่งแปลกใหม่ให้เราสงสัยอยู่ตลอด บางทีเขาเคยกินสิ่งนี้อย่างเอร็ดอร่อย แต่พอวันรุ่งขึ้นเขาอาจไม่ยอมกินเลย เราคนเป็นแม่ก็อดไม่ได้ที่จะห่วง ลูกไม่สบายหรือเปล่า หรือบางทีอยู่ดี ๆ ลูกท้องอืด เราก็กังวลแล้ว ทำยังไงดี จะรอเจอคุณหมอบางทีก็ไม่ทัน ก็ได้อินเทอร์เน็ตมาช่วย อากู๋ google นี่แหละค่ะที่มีคำตอบให้แม่ ๆ ได้ทุกคำถามเลย (หัวเราะชอบใจ) สงสัยอะไรแอนนาก็จะพิมพ์คำนั้นลงไป อินเทอร์เน็ตก็จะพาเราไปเจอกับคำตอบมากมาย แอนนาจะเลือกอ่านจากหลาย ๆ ที่ ก่อนจะเชื่อ จะอ่านที่เป็นคำตอบจากคุณหมอหรือมีผลการวิจัยยืนยัน แล้วก็จะชอบอ่านที่คุณแม่คนอื่น ๆ มาโพสต์ถาม ซึ่งก็คือคำถามที่เรากำลังเจออยู่พอดี แล้วก็จะอ่านที่คุณแม่คนอื่น ๆ มาโพสต์ว่าเวลาเจอปัญหานี้เขาใช้วิธีไหนแก้มาได้
มีคนแนะนำว่าใน social network อย่าง facebook ก็จะมีคุณแม่ ๆ มาโพสต์ข้อมูลดี ๆ น่าอ่านไว้เยอะเลย แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเข้าไปดูเท่าไหร่ค่ะ แอนนาเคยเข้าไปดูแว๊บ ๆ ของเพื่อนที่เขาลงรูปลูกคิดว่าน่ารักดี แต่ยังไม่ได้ทำของตัวเองเลย ถ้าเทคโนโลยีแบบนี้แอนนาจะเล่นเป็น skype จะคุยกับพี่ชายที่อยู่ออสเตรเลีย ซึ่งที่นั่นเขาจะรักสุขภาพ และคนในเมืองเขาจะรู้เรื่องสุขภาพเยอะมาก พี่ชายก็จะมาบอกวิธีดูแลสุขภาพทั้งของแอนนาและไตตั้น แล้วบางทีก็จะอุ้มหลานมาให้ดูว่าโตไปถึงไหนแล้ว ซนขนาดไหนแล้ว (หัวเราะปนขำเสียงใสเชียวคุณแม่แอนนาของเรา) แล้วบางทีที่ตุ้ยไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็จะ skype คุยกัน พออุ้มลูกมาให้พ่อลูกเจอกันเขาก็จะดีใจทั้งคู่ ตุ้ยบอกเขาก็ชื่นใจ ไตตั้นเวลาเห็นพ่อก็จะดีใจ อารมณ์ดี คุยกะพ่อคว้าหาพ่อใหญ่เลย"
แม้บอกว่าเธอกับคุณตุ้ยแยกครอบครัวออกมาจากครอบครัวใหญ่ แต่สายใยก็ยังเชื่อมต่อกันดังเดิม ยิ่งมีเจ้าตัวเล็กเกิดมาในบ้านหลังนี้ทำให้คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย ญาติพี่น้อง และเพื่อน ๆ ว่างแวะเวียนกันมาเยี่ยมเยือนมิได้ขาดสาย
"ทุกคนก็จะเห่อกันมากค่ะ ถึงตอนนี้เราจะแยกครอบครัวมาอยู่กันเอง แต่ทั้งบ้านตุ้ยและบ้านแอนนาก็จะคอยโทรมาถามถึงหลานอยู่ตลอด แล้วเวลาว่างเราก็จะนัดเจอกันกินข้าวกัน หรือบางทีคุณปู่คุณตา (คุณเกซา เปลี่ยนวิถี และบิ๊กหอยธวัชชัย สัจจกุล) ก็มาเยี่ยมที่บ้านเลย แต่คนที่เห่อที่สุดก็ตุ้ยแหละค่ะ (เล่ามาถึงตอนนี้คุณแอนนายิ้มด้วยแววตาขำ ๆ ปนเขิน ๆ ซะแล้ว) วันที่ไปคลอดเขาก็จะถ่ายวิธีโอไว้ตลอด ตั้งแต่นั่งรถไปโรงพยาบาล เดินเข้าโรงพยาบาล แอนนานอนเจ็บท้องก็ถ่ายอยู่นั่นแหละ ตอนคลอดก็ถ่าย พอหลังคลอดก็ช่วยเลี้ยง เป็นคนอุ้มลูกตั้งแต่คลอดออกมาเลย คือพอคลอดเสร็จแอนนาก็หลับไป พอตื่นมาถามหาลูก แม่ก็บอกว่าตุ้ยอุ้มอยู่ อุ้มตั้งแต่แอนนาหลับไปก็ประมาณ 2 ชั่วโมงตุ้ยก็ยังอุ้มอยู่ไม่วางเลย ตอนนี้ก็ยังเห่อ (ยิ้ม) แต่อยู่ในช่วงที่งานเยอะ แอนนาก็เลยจะเลี้ยงลูกเองให้เต็มที่ ให้เขาสบายใจและมีสมาธิกับงาน เพราะเห็นว่าแค่เวลาจะนอนของเขาก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว แต่เขาก็จะชอบให้แอนนาถ่ายรูปแล้วก็ส่งไปให้ดูว่าลูกทำอะไรอยู่ หลับอยู่ เล่นอยู่ นอนอยู่"
ฟังเธอเล่ามาถึงตรงนี้ เราไม่สงสัยเลยว่าทำไมน้องไตตั้นถึงได้เป็นเด็กฉลาด ร่าเริง เข้ากับคนได้ง่าย และพัฒนาการดีเกินวัยเหลือเกิน นั่นก็เพราะการทุ่มเททั้งความรัก เสียสละทั้งชีวิตเพื่อลูกของเธอนี่เอง
"ตอนนี้พอลูกไม่ต้องกินนมแม่ เราก็ไม่ได้เครียดกับการต้องกินอะไร เมื่อก่อนจะคิดเยอะมากว่าเราต้องกินอะไร เพราะเขาต้องรับสารอาหารผ่านจากเรา ตอนนี้พอเขากินนมน้อยลง ไปกินอาหารเสริมมากขึ้น ได้สารอาหารจากแหล่งอื่น ๆ ได้ เราก็เลยไม่ต้องดูแลมากเท่าไหร่ กลายเป็นว่าตอนนี้กินอะไรก็ได้ ขอแค่ให้เร็วที่สุด กินให้เสร็จ ๆ ไป เพื่อที่จะไปสรรหาอาหารเสริมให้ลูก ไตตั้นชอบกินผักบด อย่างพวกตำลึง กวางตุ้ง ผักโขม บล็อกโคลี่ แครอท ผักกาด เนื้อไก่ ตับ ก็จะสลับให้ลูกกินตลอด แล้วก็พยายามสอนให้กินปลา เขาเป็นเด็กที่ชอบกินอาหารเสริมมาก ชอบมากกว่านมด้วย บางทีกินนมนิดเดียวเพื่อรอกินอาหารเสริม พอเราทำแล้วเห็นเขากินได้ก็ชื่นใจ มีแรงทำให้ (ยิ้ม)
ส่วนเรื่องพัฒนาการดี แอนนาว่าน่าจะหลาย ๆ อย่างประกอบกันทั้งจากการที่แอนนาให้กินนมแม่ การสัมผัสกอดจูบและมอบความรักให้กับไตตั้น แอนนาจะอยู่กับเขาตลอด พูดคุยเหมือนเขาเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งเขาก็รู้เรื่องนะคะ (อันนี้ทีมงานการันตีค่ะ เพราะในระหว่างถ่ายทำน้องไตตั้นกินนมไปนิดเดียว คุณแอนนาก็หันไปถาม ทำไมไตตั้นกินนิดเดียวล่ะครับ แค่ 4 ออนซ์ยังกินไม่หมดเลย น้องไตตั้นมองหน้าคุณแม่แล้วก็พูดอ๊อแอ๊ะ อ้อแอ้ คุณแอนนาก็บอกว่ากินอีกนิดนะคับ แล้วน้องไตตั้นก็ดูดนมต่ออย่างว่าง่าย) จริง ๆ แอนนา จะคุยกับเขาตั้งแต่ในท้องแล้ว จะร้องเพลงให้ฟังด้วย แอนนาเป็นคนชอบเล่นเปียโน ร้องเพลง ก็จะมีเพลงที่แอนนาเล่นเปียโนให้ลูกฟังตั้งแต่ในท้อง ซึ่งพอเขาคลอดออกมาตัวแดง ๆ พอสระผมแล้วร้องไห้ พอแอนนาร้องเพลงนี้เขาก็จะหยุดร้องไห้ทันที เพลงนั้นก็คือ Close to You ตัวแอนนาไม่เคยเล่นเพลงนี้มาก่อน แต่พอมีเขาอยู่ในท้อง อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกนึกถึงเขาแล้วก็นึกถึงเพลงนี้ เลยไปเอาโน้ตเปียโนมาแล้วก็หัดเล่น พอคลอดมาพอเขาร้องไห้เราก็จะร้องเพลงนี้ ไตตั้นก็จะมอง จะเคลิ้ม แล้วก็หยุดร้องเลย"
แม้จะเป็นเพียงบทสนทนาสั้น ๆ แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความรัก ที่คุณแอนนามอบให้น้องไตตั้นแบบหมดหัวใจ และเชื่อแล้วว่า ลูกคือแก้วตาดวงใจ ของเธอจริง ๆ และสิ่งนี้เองแหละมั้ง ที่ทำให้น้องไตตั้นเป็นเด็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก จนเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่น ๆ ด้วย เพราะเพียงแรกพบ น้องไตตั้นก็ส่งยิ้มแบบเป็นมิตรมาให้เราก่อนทันที จนทำเราอึ้งและยังคงประทับใจกับรอยยิ้มนั้นมาจนถึงวันนี้...โตเร็ว ๆ เป็นเด็กดีนะครับน้องไตตั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.16 No.190 สิงหาคม 2554