คุมกำเนิด ให้อยู่แบบไหนดี

คุมกำเนิด

คุม...ให้อยู่แบบไหนดี (Mother & Care)

          การคุมกำเนิดเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นการวางแผนครอบครัวที่มีเป้าหมายชัดเจนในแบบที่พร้อม เช่น สถานะทางการเงิน การดูแล เอาใจใส่เลี้ยงดูลูกมีคุณภาพ ที่สำคัญ คุณเองก็มีความสุขตรงกันข้าม ถ้าความพร้อมยังมาไม่ถึง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม การคุมกำเนิดเป็นแนวทางที่ดีกับครอบครัว ถ้ายังไม่รู้ว่าจะคุมกำเนิดแบบไหน แต่ละแบบเป็นอย่างไร มาดูข้อมูลวิธีการคุมกำเนิดในรูปแบบต่าง ๆ ที่คุณแม่สามารถเลือกและจัดสรรให้กับตัวเองค่ะ

แบบกิน

          คือยาเม็ดคุมกำเนิด ที่มีการใช้มากที่สุด รู้จักโดยทั่วไป มี 2 แบบ คือแบบ 21 เม็ด และแบบ 28 เม็ด การคุมกำเนิดวิธีนี้ จะช่วยยับยั้งการตกไข่ในผู้หญิง ขัดขวางน้ำเชื้ออสุจิที่จะเดินทางเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ แต่จะได้ผลในการคุมกำเนิดเต็มร้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับการใช้ที่ถูกวิธี ฉะนั้นคุณแม่ต้องไม่ลืมทำหน้าที่เตือนตัวเองกับการกินยา เพราะถ้าลืมกินกันบ่อย ก็มีโอกาสเสี่ยงที่ยากินไปไม่ได้ผล ท้องขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้

แบบฉีด

          เป็นยาที่มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับแบบกิน อาจเหมาะกับคุณแม่ที่ลืมกินยาเป็นประจำ เพราะการใช้วิธีฉีดยาคุม ส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาคุมกำเนิดได้ถึง 3 เดือน ทั้งนี้มีข้อด้อยอยู่ว่า รอบเดือนอาจมาช้าหรือมากะปริบกะปรอย อาจทำให้คุณกังวลใจได้บ้าง และอาจมีอาการข้างเคียงได้ในบางคนที่แพ้ยาฉีดคุมกำเนิด ส่วนเรื่องฉีดแล้วทำให้อ้วนหรือผอมนั้น อย่ายึดติดเกินไปค่ะ เพราะไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันถึงเรื่องนี้ว่า ฉีดแล้วมีผลต่อเรื่องของน้ำหนักตัวแต่อย่างใด

แบบใส่ห่วงอนามัย

          คือการใส่เครื่องมือเข้าไปในโพรงมดลูกเหมาะสำหรับการคุมกำเนิดนาน (ประมาณ 3 ปี) อาจใส่ช่วงหลังคลอดหรือช่วงประจำเดือนมา วิธีนี้ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคเบาหวาน มะเร็ง เพราะตรงบริเวณต่อจากห่วงจะมีเชือกต่อออกมาบริเวณปากมดลูก (ใช้เป็นตัวตรวจสอบว่าห่วงยังอยู่ในตำแหน่งปกติหรือไม่) เชือกนี้จะเป็นส่วนที่เชื้อโรคสามารถเข้าสู่มดลูกได้ง่าย ที่สำคัญ การใส่ห่วงต้องให้คุณหมอผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ใส่ หรือถอดให้เท่านั้นค่ะ

แบบฝัง

          เป็นยาคุมกำเนิดที่ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ลักษณะเป็นหลอดเล็ก ๆ ฝังที่บริเวณต้นแขนด้านใน ฮอร์โมนจะค่อย ๆ กระจายสู่ร่างกายอย่างช้า ๆ สามารถคุมกำเนิดได้ถึง 3-5 ปี เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการเว้นระยะการมีลูกที่ห่างกัน หรือมีลูกเพียงพอแล้ว วิธีนี้ก็สะดวกค่ะ

แบบสวมถุงยาง

          เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดที่สะดวกซื้อใช้ง่าย และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ทางหนึ่งด้วย แต่ก็มีข้อพึงระวังอยู่เล็กน้อย สำหรับคุณผู้หญิงบางคนที่อาจแพ้ผิววัสดุของถุงยาง ดังนั้นอาจมองหา หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากยางธรรมชาติค่ะ

แบบถาวร

          เรียกง่าย ๆ ว่า การทำหมันนั่นเอง สำหรับวิธีนี้ ต้องมั่นใจแล้วว่า ไม่ต้องการมีลูกอีก และสามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายค่ะ

แบบธรรมชาติ

          ที่นิยมคือ การนับวันปลอดภัยที่เรียกว่า "หน้า 7 หลัง 7" โดยนับจากวันที่มีประจำเดือน ในเดือนที่ผ่านมาแล้ว โดยคาดว่าประจำเดือนจะมาอีกครั้งในวันที่เท่าไร แล้วนับถอยหลังไปช่วงก่อนประจำเดือนรอบใหม่จะมา 7 วัน และบวกเพิ่มต่อไปอีก 7 วัน (รวมเป็น 14 วัน) ให้ถือเป็นช่วงที่ปลอดภัย เพราะเป็นช่วงที่ผนังมดลูกลอกออกมาเป็นประจำเดือน ทำให้ไข่ที่ผสมตัวแล้วไม่สามารถฝังตัว เพื่อเจริญเติบโตเป็นทารกได้

          ทั้งนี้ผลลัพธ์การคุมกำเนิดแบบหน้า 7 หลัง 7 จะชัวร์ ก็ต่อเมื่อรอบเดือนของคุณมาอย่างสม่ำเสมอ เพราะหมายถึงวันตกไข่ของคุณแม่ก็สม่ำเสมอด้วยเช่นกัน แต่ถ้าในแต่ละเดือนประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ วิธีนี้จะไม่เรียกว่าการคุมกำเนิดได้เลยค่ะ

          สิ่งที่คุณแม่ต้องเข้าใจ ก่อนตัดสินใจเลือกการคุมกำเนิดวิธีใดก็ตามให้ได้ผลนั้น การคุมกำเนิด แต่ละรูปแบบมีข้อดีข้อด้อยที่ต่างกัน ดังนั้น ควรปรึกษาหรือขอคำแนะนำถึงรายละเอียดปลีกย่อย ที่ต้องการรู้จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเป็นดีที่สุดค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.7 No.75 มีนาคม 2554

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คุมกำเนิด ให้อยู่แบบไหนดี อัปเดตล่าสุด 2 มิถุนายน 2554 เวลา 20:50:10 2,020 อ่าน
TOP
x close