แพ้ท้อง เหม็นสามี เกิดจากอะไร มีอาการแบบไหน ควรรับมือยังไงดี ?

          แพ้ท้อง เหม็นสามี อาการแพ้ท้องสุดแปลกแต่เกิดขึ้นได้จริง ที่คุณภรรยาและคุณสามีควรทำความเข้าใจกันไว้ จะได้ไม่น้อยใจจนทะเลาะกันใหญ่โต !


แพ้ท้อง

          สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ คงเข้าใจว่าอาการแพ้ท้องนั้นมีแค่คลื่นไส้ อาเจียน หมกตัวอยู่ในห้องน้ำเหมือนอย่างที่เห็นกันทั่วไปในละคร แต่รู้หรือไม่ว่าความเป็นจริง สามารถเกิดอาการที่หลากหลายกว่านั้น ตั้งแต่อยากกินของแปลก ๆ อย่างทิชชู งู หรือดิน และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หงุดหงิดง่าย บางคนเข้าขั้นแพ้หนักมากคือเหม็นหน้าสามีไปเลย ><" อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่กระปุกดอทคอมขอยืนยันว่าอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งสาเหตุนั้นมาจากอะไร อาการหนักขนาดไหน แล้วควรรับมืออย่างไร วันนี้เรารวบรวมข้อมูลมาให้ทุกคนได้ไขข้อสงสัยกันแล้วค่ะ

แพ้ท้อง เหม็นสามี เกิดจากอะไร เริ่มเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

          โดยปกติแล้ว อาการแพ้ท้องเกิดขึ้นจากการที่รกในครรภ์เร่งสร้างฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) ให้สูงขึ้นเพื่อกระตุ้นการทำงานของรังไข่ ในขณะตั้งครรภ์ระยะแรก ส่งผลให้ช่วง 1-3 เดือนแรกคุณแม่จะมีอาการแพ้ท้องหนัก ระบบประสาทรับรส รับกลิ่นไวขึ้นมากกว่าปกติ ตามมาด้วยอาการแทรกซ้อนอย่าง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลียได้ง่าย กินอาหารไม่อร่อย ดมกลิ่นอะไรแรง ๆ ไม่ได้ ซึ่งจะบรรเทาและลดลงไปเองเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น

          แต่ทั้งนี้อาการแพ้ท้องก็มีโอกาสเกิดขึ้นตลอด 9 เดือน สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะการตั้งครรภ์ผิดปกติอย่าง การตั้งครรภ์แฝด เพราะรกจะสร้างฮอร์โมน HCG มากกว่าปกติ รวมถึงคุณแม่ที่เพิ่งเคยท้องครั้งแรก แล้วสภาพจิตใจย่ำแย่ รู้สึกวิตกกังวล กลัวการคลอดลูก กลัวลูกเป็นอันตราย ก็จะทำให้อาการแพ้ท้องหนักมากขึ้น ส่งผลให้อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ หงุดหงิดง่าย ร้องไห้ง่าย ไม่รู้วิธีจัดการกับตัวเอง จนพาลไปลงกับสามีหรือคนรอบข้างได้เช่นกัน

แพ้ท้อง เหม็นสามี อาการเป็นอย่างไร ?

          อย่างที่บอกไปว่า อาการแพ้ท้อง หลัก ๆ นั้นมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย นอกจากทำให้คลื่นไส้ อ่อนเพลีย รสชาติอาหารผิดเพี้ยนแล้ว จมูกก็จะรับกลิ่นได้ไวมากขึ้นกว่าเดิมด้วย โดยปกติคนท้องจะเหม็นผักกลิ่นแรง ๆ อย่างโหระพา กะเพรา ขึ้นฉ่าย หรือกระเทียม แต่บางรายนั้นดมอะไรก็เหม็นไปหมดทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่กลิ่นของสามีตัวเอง แถมยังแพ้หนักถึงขั้นอยากไล่ให้ไปอยู่ที่อื่น ไม่สามารถนอนร่วมเตียงเดียวกันได้ ขนาดสามีลงทุนขัดผิวให้สะอาดเอี่ยมแค่ไหน ยังไงก็ยังรู้สึกถึงกลิ่นเหงื่อ กลิ่นแปลก ๆ ตามตัว จนคลื่นไส้และอยากอาเจียนอยู่ดี


          แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีบางคนที่ไม่ได้เหม็นแค่กลิ่นตัว แต่พาลเกลียดขี้หน้าสามีไปด้วยดื้อ ๆ ประมาณว่าเห็นทีไรก็รู้สึกหงุดหงิด ถ้าสามีมาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ก็อยากจะไล่ไปไกล ๆ ไม่ต้องการให้มาดูแลประคบประหงม ได้ยินเสียงก็อารมณ์เสีย จะเล่นตลกใส่ยังไงก็ไม่ขำเหมือนแต่ก่อน ซึ่งอาการเหล่านี้มาจากอารมณ์ที่อ่อนไหวขณะตั้งครรภ์ เวลาเครียดแล้วอยากหาที่ระบาย ซึ่งแน่นอนว่าแจ็กพอตก็จะมาออกที่คุณสามีนั่นเอง ง่าย ๆ ก็คล้ายอารมณ์ของมนุษย์เมนส์ปกตินั่นแหละค่ะ

แพ้ท้อง

อาการแพ้ท้อง เหม็นสามี ทำยังไงให้หายดี ?

          ต้องเข้าใจก่อนว่า อาการแพ้ท้องนั้นเป็นอาการที่ต้องรอให้หายเองโดยธรรมชาติ และยังไม่มีวิธีการแก้ไขให้หายขาดทันที แต่ถ้าหากแพ้ท้องหนักมาก จนกระทบสุขภาพร่างกายของคุณแม่ หรือสามีไม่เข้าใจจนทะเลาะกันใหญ่โต เราขอแนะนำให้ทำตามวิธีบรรเทาอาการแพ้ท้องและวิธีรับมือเหล่านี้ดูค่ะ

          - ปรับความเข้าใจกับสามี เป็นวิธีแรกที่คุณภรรยาควรทำมากที่สุด จะได้ไม่เกิดอาการน้อยใจจนเครียดกันทั้งคู่ โดยอธิบายให้สามีเข้าใจไปตรง ๆ ว่าตัวเองรู้สึกยังไง หงุดหงิด อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากให้ใครมายุ่งวุ่นวาย ซึ่งเป็นอาการปกติจากฮอร์โมนที่แปรปรวนเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกเกลียดกันจริง ๆ จัง ๆ ถึงขั้นอยากตัดความสัมพันธ์อะไร

          - กินผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว น้ำตาลสูง น้ำเยอะ อย่างพวกสับปะรด ส้ม แตงโม หรือกล้วย เพื่อช่วยย่อยอาหารในท้อง เติมสารอาหารทดแทนอาหารที่อาเจียนออก เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้เพลีย และรักษาสมดุลร่างกายทำให้อาการแพ้ท้องลดลง รวมถึงทำให้ร่างกายของคุณแม่ไม่ขาดน้ำอีกด้วย แต่ถ้ากินไม่ไหว ให้หาน้ำผลไม้ (ไม่มีน้ำตาล) มาดื่มแทน

แพ้ท้อง

          - กินอาหารที่มีสังกะสีสูง อาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี หรือซิงก์ (Zinc) จำพวกปลา นมสด ถั่ว ข้าวโพด ตับ หรือผักสีเขียวเข้ม จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ดี และช่วยให้คุณแม่ฟื้นตัวจากอาการอ่อนเพลียได้ไวขึ้น หากรู้สึกว่ากินยาก กินไม่ไหว ให้ใช้วิธีบดวัตถุดิบทั้งหมดรวมกัน แล้วแบ่งทานทีละน้อยพร้อมกับอาหารมื้อหลักดู

          - หาของกินก่อนนอน คุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ท้องหิว หรืออดอาหารเพราะกลัวตัวเองอาเจียนออกเด็ดขาด เนื่องจากน้ำย่อยมีส่วนทำให้แสบท้องและทำให้แพ้ท้องหนักมากขึ้น ไม่ว่าจะแพ้ท้องหนักขนาดไหน ก็ควรอาหารที่พอจะกินได้ลงท้องไว้บ้าง โดยเฉพาะเวลาก่อนนอน เตรียมดื่มนมอุ่น ๆ สักแก้ว หรือโยเกิร์ตสักถ้วย จะช่วยลดอาการคลื่นไส้ในตอนเช้าได้

          - ดื่มน้ำขิง นอกจากขิงจะมีสรรพคุณช่วยขับลม ไม่ให้คุณแม่ท้องอืดแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียนได้ดี แถมยังมีกลิ่นหอม ช่วยผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย

แพ้ท้อง

          - หากิจกรรมทำ หากการเลือกกินอาหารไม่ช่วยอะไร เปลี่ยนไปหากิจกรรมโปรดทำแทนอย่าง อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ทำสมาธิ เพื่อเบี่ยงความสนใจไปโฟกัสในเรื่องอื่น ไม่คิดแต่เรื่องแพ้ท้องจนรู้สึกเครียดและกังวล พยายามทำให้จิตใจแจ่มใสเบิกบาน จะได้ไม่พาลอารมณ์เสียใส่คนรอบข้าง


          - นอนพักผ่อนให้มาก เมื่อเห็นอะไรก็หงุดหงิด ไม่มีอารมณ์ทำอะไร การนอนอยู่นิ่ง ๆ ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะช่วยให้คุณแม่มีเวลาให้กับตัวเอง ได้ฟื้นฟูร่างกายไม่ให้อ่อนเพลีย ไม่ต้องออกแรงพรวดพราดจนเกิดวิงเวียนศีรษะ แล้วแพ้ท้องหนักขึ้นได้

          ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ความเข้าใจและความใส่ใจ” อย่าให้อารมณ์แปรปรวนและอ่อนไหวได้ง่ายของคนท้อง ทำลายความสัมพันธ์ดี ๆ ของคุณทั้งสองคนไปนะคะ เพราะอาการเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติ และจะหายไปเองเมื่อคลอดเจ้าตัวเล็กแล้วค่ะ ^^

ข้อมูลจาก : parents.com, pregnancybirthbaby.org.au


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แพ้ท้อง เหม็นสามี เกิดจากอะไร มีอาการแบบไหน ควรรับมือยังไงดี ? อัปเดตล่าสุด 10 ตุลาคม 2561 เวลา 15:33:59 71,612 อ่าน
TOP
x close