ภูมิแพ้ขึ้นตาเด็ก (รักลูก)
เรื่อง : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์ รศ.พญ.สุดารัตน์ ใหญ่สว่าง จักษุแพทย์โรคตาเด็ก โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
เด็ก ๆ มีพฤติกรรมขยี้ตา หยีตา หรือชอบกะพริบตาบ่อย ๆ หรือเปล่าคะ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ใช้สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตต่าง ๆ หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นพฤติกรรมดังกล่าวล่ะก็ ให้สมมติฐานไว้เลยค่ะว่าลูกอาจจะเป็นโรคภูมิแพ้ขึ้นตา
ภูมิแพ้ขึ้นตาเพราะสิ่งแวดล้อม
เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากค่ะ เพราะคุณพ่อคุณแม่มักไม่ทราบว่าลูกแพ้อะไรจนกว่าอาการแพ้จะเกิดขึ้น ซึ่งโรคภูมิแพ้นั้นจะแฝงกายอยู่รอบตัวเราทั้งในและนอกบ้าน อยู่ในทุกกิจกรรมที่ลูกทำ อยู่ทุกที่ที่เราเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ใบไม้ ขนของสัตว์เลี้ยง สระว่ายน้ำ อาหารการกินก็พร้อมที่จะทำให้ลูกมีอาการแพ้ได้
รวมทั้งเรื่องการใช้สายตาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีส่วนทำให้ลูกเกิดมีอาการภูมิแพ้ขึ้นตา เพราะจากการที่ไม่ทราบว่าลูกมีอาการภูมิแพ้ หรือเป็นโรคภูมแพ้ทางเดินหายใจอยู่แล้ว เช่น มีน้ำมูกไหล หรือมีผื่นขึ้นบริเวณผิวหนัง เนื่องจากเนื้อเยื่อจมูกและตาเป็นผืนเดียวกัน หากมีอาการที่จมูกก็จะเกิดที่ตาด้วย อาการแพ้เดิมที่มีอยู่ของลูก บวกกับองค์ประกอบด้านการใช้สายตาด้วยยิ่งจะทำให้โรคภูมิแพ้ขึ้นตามีอาการรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้อาการแพ้ดังกล่าว อาจจะมาจากการที่คุณพ่อคุณแม่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งจะทำให้เด็กสามารถเป็นโรคภูมิแพ้ขึ้นตาได้เช่นกัน
สัญญาณบอกโรค
ภูมิแพ้ขึ้นตาเด็ก มีชื่อทางการแพทย์ว่า เยื่อบุตาอักเสบ ซึ่งอาการที่บ่งบอกว่า "แพ้" เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะแพ้บริเวณส่วนไหนของร่างกายคือ "อาการคัน" หากคันแสดงว่ามีอาการแพ้ นั่นหมายถึง เมื่อเด็กคันที่ตา เขาก็จะขยี้ตา และขยี้อยู่อย่างนั้นบ่อย ๆ กะพริบตาบ่อย ๆ มีอาการตาแดงเรื่อ ๆ แต่ไม่ถึงขนาดแดงแบบโรคติดต่ออย่างโรคตาแดง รวมทั้งอาจจะมีน้ำตาไหล เด็กบางคนตอนตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ เปลือกตาจะบวม ซึ่งอาการบวมนี้ มันบวมอยู่ด้านในเยื่อบุตา เวลาที่คุณหมอตรวจนั้น หากเป็นภูมิแพ้ขึ้นตา ก็จะพบตุ่มภูมิแพ้เล็ก ๆ บริเวณเยื่อบุตาด้านในบริเวณด้านบน และด้านล่างได้ ทำให้ขอบตาล่างคล้ำ เพราะขยี้ตาแรง ๆ และขยี้ตาบ่อย ๆ นั่นเอง
ภูมิแพ้ขึ้นตาดูแลได้
คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันอาการแพ้ในขั้นพื้นฐานได้เท่านั้นค่ะ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือการสังเกตลูก ว่าลูกแพ้อะไร สิ่งใดที่ทำให้อาการของลูกแย่ลง เช่น ลูกไปว่ายน้ำ ในสระน้ำมีสารเคมี เมื่อลูกขึ้นมาจากสระว่ายน้ำ แล้วลูกตาแดงมากยิ่งขึ้นอาจต้องให้ลดการว่ายน้ำลง
หรือหากลูกใช้คอมพิวเตอร์แล้วชอบกะพริบตาบ่อยขึ้น ขยี้ตามากขึ้น หยีตามองจอ เพราะสู้แสงมากไม่ได้ ก็ต้องลดการใช้คอมพิวเตอร์ลง ให้พักสายตาทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง ด้วยการมองไปไกล ๆ หรือเปลี่ยนให้ทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน รวมทั้งกำหนดเวลาใช้คอมพิวเตอร์สำหรับเรียนรู้แทนที่จะปล่อยให้เล่นจนกระทั่งอาการภูมิแพ้ขึ้นตารุนแรงขึ้น
สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่แต้องพยายามดูไม่ให้ลูกขยี้ตา เพราะยิ่งลูกขยี้ตา อาการแพ้ก็จะยิ่งมากขึ้น เพราะเวลาขยี้ตา เซลล์ภูมิแพ้มันจะแตกตัว และปล่อยสารทำให้แพ้ หรือ "ฮีสตามีน" ออกมากยิ่งขึ้น
ภูมิแพ้ขึ้นตาเรื้อรังแต่หายได้
โรคภูมิแพ้ขึ้นตาเด็กสามารถหายเองได้เมื่ออายุเข้าสู่วัย Teenage (13-19 ปี) ไม่ส่งผลเสียต่อดวงตา และไม่ทำให้ตาบอด
ส่วนการรักษานั้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรหาซื้อยามาหยอดตาลูกเอง และขั้นตอนเบื้องต้นที่สามารถช่วยบรรเทาอาการคันตา หรือเปลือกตาบวมได้ คือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น หรือน้ำเย็น ประคบบริเวณเปลือกตาลูกในช่วงสั้น ๆ แต่ทางที่ดีควรพาลูกไปพบจักษุแพทย์ เพื่อวินิจฉัยถึงระดับขั้นความรุนแรงของอาการแพ้ ซึ่งมีตั้งแต่ขั้นเบา ๆ ไม่นานก็หายเอง หรือสั่งหยอดน้ำตาเทียม หยอดยาแก้แพ้ จนกระทั่งต้องกินยาแก้อักเสบร่วมกับการใช้ยาหยอดตาที่คุณหมอสั่ง และต้องรักษาต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ
ส่วนระยะเวลารักษา จะกินเวลานาน เด็กบางรายรักษากันหลายปี เพราะมีอาการตั้งแต่อายุน้อย ๆ ในเด็กที่เป็นไม่มากคุณหมออาจสั่งยาให้กลับไปหยอดที่บ้าน 3 เดือนครั้งและต่อเนื่องหยอดทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง แล้วค่อยกลับมาให้คุณหมอดูอาการเพิ่มเติม และหากช่วงไหนอาการดีขึ้นมาก ก็สามารถเว้นยาได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ปีที่ 31 ฉบับที่ 376 พฤษภาคม 2557