เพื่อนในจินตนาการ ช่วยเด็กเจริญเติบโตได้ (M&C แม่และเด็ก)
เรื่อง : รศ.สุพัตรา สุภาพ อาจารย์อาวุโส จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คอลัมนิสต์ นสพ.และนิตยสาร วิทยากรในวิทยุโทรทัศน์
พ่อแม่หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ว่าเด็ก ๆ จะมีเพื่อนในจินตนาการ ซึ่ง รอน ฮอลลิดอย นักจิตวิทยาแห่งโคลัมเบีย วิจัยเรื่องคุณค่าของครอบครัวเตือนบรรดาพ่อแม่ทั้งหลายว่า
การมีเพื่อนจินตนาการที่ผิด ๆ อาจจะทำให้เด็กมีปัญหา เช่น ก้าวร้าว ต่อต้านสังคม กล่าวเท็จ ขี้ขโมย เป็นต้น ตัวอย่างในอเมริกาก็มีให้เห็น ที่มีเพื่อนจินตนาการผิด ๆ จนทำให้ก่ออาชญากรรม เช่น เทด บัน ดี และชาร์ลส แมนสัน
ขณะเดียวกัน การมีเพื่อนจินตนาการที่ดี จะช่วยสอนให้ลูกของเรามีความประพฤติที่ถูกต้องเหมาะสม ฮอลลิดอยยังเตือนใจต่อว่า ในชีวิตจริง ถ้าลูกเราคบเพื่อนไม่ดี ที่ชอบทำผิด ก็ต้องพูดจาแนะนำสั่งสอนไม่ให้ลูกเราหลงผิดไปกับเพื่อนที่ทำอะไรนอกลู่นอกทาง เพราะในบั้นปลายลูกเราก็คงจะเป็นคนดียาก หรือทำผิดไปด้วย
เทคนิคการคบเพื่อนดี
ปัจจุบัน วัยรุ่นไม่น้อยมีปัญหาให้พ่อแม่หนักใจ เช่น ไม่เรียนหนังสือ หนีเที่ยว ลักเล็กขโมยน้อย (หรือใหญ่) เป็นสเกาท์ หรือสก๊อยท์ ติดยา หรือขายยาเสพติด โกหก หนีออกจากบ้าน เป็นต้น
George Sanford เขียนเรื่อง How to Pick An Imaginationary Friend For Your Child บอกว่า การคบเพื่อนเป็นส่วนสำคัญของลูกเราที่จะเป็นคนดีหรือคนมีปัญหา เขาบอกว่ามีผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่นให้เคล็ดลับ คือ
1. สอนคุณค่าที่ดี เช่น ความซื่อสัตย์ เมตตา สุภาพ มีน้ำใจ ให้อภัย ขออภัย เป็นต้น รวมทั้งเป็นตัวอย่างในการทำดี มีคุณธรรมตามที่สอนเด็ก อย่าลืมว่าเด็กอยู่กับใคร ก็จะมีนิสัยใจคอเหมือนคนที่เลี้ยงดูเป็นส่วนใหญ่ ตัวอย่าง ที่เห็นในข่าวที่แม่พาลูกอายุประมาณ 7 ขวบ เข้าไปในร้านอาหารแถวพัทยา ซึ่งมีแขกฝรั่งทั้งชายหญิงนั่งกันเต็ม โดยแม่กับผู้หญิงอีกคนนั่งโต๊ะข้าง ๆ ฝรั่ง แล้วให้ลูกเดินเข้ามาในร้านอ้อมไปหลังผู้หญิงฝรั่งที่กำลังกินอาหาร แล้วเด็กเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าที่ผู้หญิงฝรั่งวางไว้หลังเธอ โดยผู้หญิงฝรั่งไม่รู้ตัว เนื่องจากเด็กตัวเล็กและเลยขอบเก้าอี้มานิดเดียว ทำอะไรจึงไม่มีใครเห็น ประกอบกับเด็กท่าทางชำนาญ มองซ้ายขวาก่อนล้วงกระเป๋าเงินเหยื่ออย่างรวดเร็ว แล้วเด็กก็เดินออกไปโดยมีแม่รีบเดินประกบลูกจนออกนอกร้าน เด็กคนนี้อาจทำเพราะถูกสอนหรือบังคับก็ตาม แต่เป็นการสอนเด็กให้เสียคน และถ้าไม่เปลี่ยนนิสัย โตขึ้นอาจมีโอกาสได้กินข้าวแดงในคุก
2. ใช้ชื่อเพื่อนจินตนาการง่าย ๆ เช่น เอ บี ซี ดาว เดือน เป็นต้น เด็กจะได้ไม่สับสน ถ้ามีเพื่อนจินตนาการเกินหนึ่งคน หรือแค่หนึ่งคนก็ควรมีชื่อ
3. พ่อแม่ช่วยแนะนำให้เด็กจินตนาการ ควรทำตั้งแต่เด็กยังเล็ก ๆ ดีกว่าให้เด็กหาเพื่อนในจินตนาการเอาเอง จนอาจได้เพื่อนน่ากลัว หรือผิด ๆ รอน ฮอลลิดอย ย้ำ ต่อให้เด็กเห็นตุ๊กตาสุนัข หมี ลิง เป็นเพื่อน ก็ต้องยอมรับแบบไปตามน้ำ พอแกโตขึ้นหน่อยแกคบเพื่อนจริง ๆ ก็จะรู้ว่าเพื่อนในจินตนาการไม่ใช่ของจริง
4. สร้างเพื่อนในจินตนาการตามที่เด็กชอบ เช่น เด็กชอบสีฟ้า อาจให้เพื่อนในจินตนาการใส่เสื้อสีฟ้า หรือผมสีฟ้า
5. ให้นึกว่าเป็นเพื่อนจริง เปรียบเสมือนกำลังพูดกับคู่แฝด เพื่อให้แกอยากทำ เช่น แอลลี่กับบีจะดื่มนม, ไปอาบน้ำกันไหม, นอนกันดีกว่า รวมทั้งห้ามพี่ ๆ หรือญาติล้อเลียน เด็กเล็ก ๆ ว่ามีเพื่อนที่ไม่มีตัวตน
6. ใช้เพื่อนจินตนาการเป็นต้นแบบที่ดี เช่น ลูกเรากล่าวคำเท็จ เราต้องบอกเด็กว่า บียังไม่พูดโกหก บีพูดแต่ความจริงไม่หลอกใครใช่ไหม
7. ให้รางวัลเพื่อนจินตนาการที่ทำดี เช่น บีกินข้าวเองได้ต้องให้รางวัล, บีแปรงฟันก่อนนอก ดีมากจริง ๆ, บีไม่ฉีกหนังสือ แม่จะซื้อสมุดภาพให้
8. ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรหยุด รอน ฮอลลิดอย บอกว่า พอเด็กอายุ 11-12 เดือน ก็ควรสอนให้เด็กหยุด รวมทั้งอย่าได้ส่งเสริมเด็กให้มีเพื่อนจินตนาการต่อไป เพราะเท่ากับเป็นการดูถูกสติปัญญาเด็ก
9. เพื่อนจินตนาการที่ดีมีอิทธิพลต่อคุณค่าการดำรงชีวิตของเด็ก ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพ่อแม่ โดยเฉพาะแม่ที่ใกล้ชิดกับลูกได้วางรากฐานของการคบเพื่อนที่ดี ไม่ว่าในโลกแห่งจินตนาการหรือโลกแห่งความเป็นจริง เป็นการนำทางลูกด้วยความรัก ไม่ควรเอาแต่ตำหนิ แต่ให้กำลังใจ และควรสอนลูกโดยเฉาพะเล็ก ๆ ซึ่งแกอาจไม่เข้าใจเท่าเด็กโตเป็นการค่อย ๆ พูดจาทำความเข้าใจ พูดง่าย ๆ คือ ชมเชยส่วนดีของลูก ให้เกียรติลูกไม่ว่าจะยังเล็กหรือโตแล้ว เป็นเพื่อนแกและร่วมทุกข์ร่วมสุขกับลูกเสมอ
นี่คือข้อคิดของผู้เชี่ยวชาญที่น่าสนใจ เพราะเพื่อนคือบุคคลสำคัญในชีวิตของลูก โดยเฉพาะ Dr.Jacques Chevier ศึกษาเรื่องการมีเพื่อนของลูกว่า เพื่อนเล่นบางคน คือชาตานกลับชาติมาเกิด ในหนังสือ Apocalypse Now ! โดยเขาเชื่อว่า ควรระวังการมีเพื่อนเล่นของลูก เพื่อลูกจะได้ปลอดภัย Dr.Jacques Chevier ศึกษาจากประวัติความเป็นมาทางใต้ของอิตาลี และเตือนเรื่องเพื่อนว่า
1. ฟังภาษา ทารกมักจะพูดไม่เป็นภาษา แต่ถ้าพูดภาษาแปลก ๆ โบราณ ๆ หรือทำตาเหลือกไปข้างบน ก็อย่าให้ลูกไปเล่นด้วย
2. โกรธเกินปกติ และทำหน้าตาน่ากลัว เหมือนผีสิง ปีศาจ หรือซาตาน
3. วาดภาพน่ากลัว ภาพแบบนี้ไม่เกี่ยวกับพรสวรรค์หรือทักษะ แต่เป็นอาการของเด็กไม่น่าคบ ลูกเราจะได้ไม่ตกใจ
4. กลิ่นตัวเหม็น จนผ้าอ้อมเหม็นผิดปกติ ไม่ว่าจะมีฉี่อึหรือไม่ สิ่งที่ Dr.Jacques Chevier กล่าวมีมากกว่านี้ แต่คัดมาอ่านแค่ขำ ๆ ว่าฝรั่งก็เชื่อเรื่องผีสาง คนไทยเชื่อเรื่องผีสางไม่น้อยแต่คงไม่ถึงกับหาว่า ลูกมีเพื่อนเป็นซาตานหรือไม่ เขายังบอกอีกว่า ทางป้องกันที่ดี คือให้ลูกเพื่อนสาบานต่อหน้าคัมภีร์ไบเบิ้ล ถ้าเป็นคนไทย คงรดด้วยน้ำมนต์ หรือสาดด้วยข้าวสาร หรือผูกสายสินจญ์ที่ข้อมือ
อย่างไรก็ตาม ก็ยังดีที่ Dr.Jacques Chevier บอกว่า อย่าไปเหมาว่าเด็กคนนี้เป็นปีศาจกลับชาติมาเกิด เพราะไม่ยุติธรรม
อ่านแล้วจะเชื่อหรือไม่ก็ใช้วิจารณญาณกันเอง แต่พอสรุปได้ว่า คบเพื่อนดี เป็นศรีแก่ตัว, คบเพื่อนชั่ว อัปราชัย, คบกับใครต้องมีเหตุผลหน่อย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ปีที่ 37 ฉบับที่ 504 กุมภาพันธ์ 2557