ไกด์ไลน์ดี ๆ ให้คุณชวนลูกน้อยสำรวจโลกกว้างจากธรรมชาติรอบตัว



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หากลองสังเกตดูจะพบว่าคุณพ่อคุณแม่ในปัจจุบันนี้เริ่มเลี้ยงลูก ๆ ให้อยู่แต่ในบ้านมากขึ้น เด็ก ๆ สมัยเริ่มโตขึ้นมากับหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นจอโทรทัศน์ หรือจอแท็บเล็ต ที่คุณ ๆ อุตส่าห์หาการ์ตูนหรือแอพพลิเคชั่นส่งเสริมพัฒนาการมาให้ลูกสารพัด แต่การศึกษาจากสิ่งเสมือนจริงไม่ได้ออกไปไหน มีหรือจะสู้ให้เจ้าหนูได้ออกมาวิ่งเล่นนอกบ้านอันเปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นผืนกว้างที่เล่นสนุกได้ไม่รู้เบื่อ เจ้าตัวเล็กได้สำรวจธรรมชาติต่าง ๆ นานา ๆ รอบตัวแบบเล่นจริงเห็นจริงได้สัมผัสจริง ๆ ด้วยตัวเอง เป็นการส่งเสริมพัฒนาการรอบด้านของลูก และยังเป็นการใช้เวลาในครอบครัวร่วมกันด้วย ฟังแบบนี้แล้วคงมีคุณพ่อคุณแม่ชักอยากจูงมือเจ้าตัวน้อย พาสวมรองเท้าแล้วออกมาเดินเล่นสำรวจธรรมชาติข้างนอกกันแล้วใช่ไหมคะ ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะส่งเสริมลูกให้สนุกกับธรรมชาติรอบตัวอย่างไร กระปุกดอทคอมก็มีไกด์ไลน์ดี ๆ มาฝากกันตามนี้เลย

1. เตรียมข้าวของให้พร้อม

          หากว่าเจ้าตัวเล็กของคุณสามารถเดินได้แข็งแล้ว ก็ให้ทิ้งรถเข็นเด็กไว้ที่บ้านได้เลย ปล่อยให้เจ้าตัวเล็กของคุณได้เดินย่ำไปทุกที่ที่เขาอยากไปด้วยสองขาน้อย ๆ ของตัวเองดีกว่า

          อย่าลืมเตรียมถุงใบเล็ก ๆ อาจเป็นถุงกระดาษจากห้างร้านที่ได้มาเมื่อไปช้อปปิ้ง นำกลับมารียูสเป็นถุงเก็บสมบัติให้เจ้าตัวเล็กของคุณได้เก็บดอกไม้ ใบไม้ ก้อนหิน หรือสิ่งที่เขาคิดว่าน่าสนใจ กลับมาสำรวจต่อที่บ้านยังไงล่ะคะ

          พกกล้องถ่ายรูปไปด้วย หรือจะกล้องจากมือถือก็ไม่ผิดกติกา เอาไว้คอยถ่ายรูปสิ่งต่าง ๆ ที่เจ้าตัวเล็กของคุณสนใจ แต่ไม่สามารถเก็บกลับมาที่บ้านได้ ตัวอย่างเช่น นก หรือแมลงตัวเล็ก ๆ

          ระลึกหนึ่งคำไว้ในใจ "ปล่อยให้ลูกเลอะบ้างก็ได้ ไม่เป็นไรหรอกเนอะ" เพราะการสำรวจธรรมชาติของเจ้าหนูอาจทำให้เขาต้องเปราะเปื้อนขี้ฝุ่นขี้ดินบ้างเป็นธรรมดา ปล่อยให้เขาเล่นเปื้อนจนหนำใจแล้วค่อยกลับมาอาบน้ำก็แล้วกัน
 
2. วางแผนการเดินทางล่วงหน้า

          หากคุณตั้งเป้าว่าจะพาเจ้าตัวเล็กไปสำรวจโลกกว้างที่สวนสัตว์ หรือสวนพฤกษศาสตร์ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องวางแผนการเดินทาง และจัดเวลาการไปเที่ยวเล่นครั้งนี้ให้เหมาะสม เตรียมน้ำ นม ขนม และของว่างสำหรับเจ้าหนูไปให้พร้อม แต่ถ้าบังเอิญในละแวกบ้านที่คุณอยู่มีสวนสาธารณะ หรือบริเวณบ้านของคุณมีพื้นที่สีเขียวอยู่แล้ว ก็ลองมาสำรวจโลกกว้างจากสนามน้อย ๆ กันดีกว่า แค่มอบถุงเก็บสมบัติกับโจทย์ง่าย ๆ ว่าให้เก็บสิ่งที่หนูสนใจมาให้พ่อแม่ดู แล้วก็ปล่อยให้ความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติของเด็ก ๆ เป็นตัวดำเนินเกมไปได้เลยค่ะ

3. เปิดตาให้กว้าง ๆ สังเกตสิ่งมหัศจรรย์รอบตัวที่ปกติเคยมองผ่าน

          สายตาของเด็ก ๆ ละเอียดอ่อนกว่าผู้ใหญ่อย่างเรามากนัก สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นเรื่องสามัญธรรมดากลับกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นไปได้เสมอ ในเวลาแบบนี้คุณพ่อคุณแม่ก็เลยต้องทำตัวให้เด็กลง ด้วยการเปิดตากว้าง ๆ เพื่อเปิดรับความพิเศษที่เกิดขึ้นรอบตัวที่คุณอาจเคยมองข้ามไป อย่างเช่น สีสันที่ต่างกันของหินแต่ละก้อน รูปร่างของก้อนเมฆ เส้นใบของใบไม้แต่ละชนิด หรือใยแมงมุมบาง ๆ ที่แอบชักไว้เหนือพุ่มไม้ข้างบ้าน สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นของเด็ก ๆ ทั้งนั้น ถ้าสังเกตเห็นแล้วอย่าลืมชี้ชวนให้ลูกน้อยดู เก็บมันใส่ถุงสมบัติ หรือถ่ายรูปแล้วค่อยกลับมาค้นหาข้อมูบที่น่ารู้เกี่ยวกับมันกันต่อที่บ้าน

4. พูด "ได้เลยลูก" ให้มากขึ้น

          ด้วยความเป็นห่วงของคนเป็นพ่อแม่ จึงมักห้ามลูกทำนู่นทำนี่ที่ลูกอยากลองทำอยู่บ่อย ๆ แต่คราวนี้ลองเปลี่ยนมาเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ อนุญาตให้เจ้าตัวเล็กได้สำรวจและทำตามใจในแบบที่เขาอยากลองดูบ้างดีกว่า ลองตอบคำขอของเด็ก ๆ อย่าง "ผมหยิบหินก้อนนั้นได้ไหมครับ", "หนูอยากลองจับดูได้ไหมคะ", "ขอผมลองทำแบบนั้นบ้างนะ", "เดินไปตรงนั้นกันนะครับ" ฯลฯ ด้วยคำว่า "ได้เลยลูก" แล้วจะได้พบว่านักสำรวจตัวน้อยของคุณจะมีทั้งความสุข ความสนุก และความรู้ในประสบการณ์แปลกใหม่เพิ่มมาอีกเพียบ แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดจากคุณด้วยนะคะ

5. อย่าลืมกลับมาทำการบ้านต่อหลังออกสำรวจ

          อย่าเพิ่งลืมนะคะว่าเจ้าตัวน้อยของคุณกลับบ้านมาพร้อมกับสมบัติเต็มถุง ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ใบไม้ ก้อนหิน และอีกสารพัดสิ่งเท่าที่เจ้าตัวเล็กจะสนใจ กลับบ้านมาแล้วก็ให้หยิบข้าวของพวกนั้นออกมาดูทีละชิ้น ให้เจ้าหนูเล่าย้อนกลับไปว่าได้มันมาอย่างไร ชอบมันที่ตรงไหน เป็นการฝึกความจำนิด ๆ หน่อย ๆ และยังกระตุ้นการคิด เล่า และเรียงลำดับเรื่องราวให้ลูกน้อยด้วย

6. ต่อยอดความรู้ให้นักสำรวจ

          มาต่อยอดความรู้ให้นักสำรวจตัวจิ๋วของคุณ ด้วยการเลือกสมบัติชิ้นที่เขาโปรดปรานที่สุด (อาจมีได้มากกว่า 1 ชิ้น) แล้วมาหาข้อมูลเกี่ยวกับมันให้ลึกซึ้งกว่าเดิม อย่างชื่อของต้นไม้ ใบไม้ที่หยิบมา ปกติเป็นพรรณไม้แถบไหน ชอบอากาศอย่างไร ถ้าเอามาปลูกที่บ้านต้องดูแลยังไงบ้าง หรืออาจเป็นการสืบข้อมูลจากรูปถ่ายที่คุณช่วยถ่ายให้ อย่างแมลง นก หรือจะเป็นสัตว์ สิ่งของอื่น ๆ ก็ให้ใช้วิธีเดียวกันนี้ค่ะ แถมเคล็ดลับให้ว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่หาคำตอบไม่ได้ ลองเข้ากูเกิ้ลก็ช่วยได้นะจ๊ะ

7. ทริปนี้จบแล้ว อย่าลืมทริปหน้านะ

          ถ้าเด็ก ๆ ลองได้ออกทริปสำรวจธรรมชาติมาแล้วครั้งหนึ่ง รับรองว่าน้อง ๆ หนู ๆ จะต้องติดใจในความสนุกสนานที่ได้วิ่งเล่นนอกบ้าน ได้เรียนรู้ สัมผัส และลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ที่อยากทำด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็เตรียมตัวสำหรับทริปหน้าไว้ล่วงหน้าได้เลยค่ะ อาจเปลี่ยนจากสนามหน้าบ้านไปเป็นบ้านสวนของคุณตาคุณยาย หรือเปลี่ยนบรรยากาศเป็นจากสำรวจโลกยามแดดออก เป็นยามฝนตกพรำ ๆ ดูบ้างก็ดีนะคะ จะได้ดูว่าต้นไม้ใบหญ้า และสัตว์ต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างหรือเปล่าในยามที่ฝนตก แค่คิดก็น่าสนุกแล้วเนอะ

          เชื่อเถอะว่าเจ้าตัวน้อยของคุณพ่อคุณแม่ทุกคนมีความเป็นนักสำรวจจิ๋วอยู่ในตัว และมันก็เป็นคุณสมบัติที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยได้เป็นอย่างดีทีเดียว เจ้าหนูมีสิ่งที่จะกระตุ้นพัฒนาการตัวเองฝังอยู่ในตัวอยู่แล้ว รอก็แต่การสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่ช่วยเขาเปิดโลกกว้างสู่ธรรมชาติรอบตัวเท่านั้นเอง ถ้ารู้เทคนิคดี ๆ ตามนี้แล้วก็อย่ารอช้า จูงมือลูกน้อยของคุณมาสนุกกันในสนามเด็กเล่นผืนกว้างจากธรรมชาติกันเถอะค่ะ






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไกด์ไลน์ดี ๆ ให้คุณชวนลูกน้อยสำรวจโลกกว้างจากธรรมชาติรอบตัว อัปเดตล่าสุด 24 มีนาคม 2557 เวลา 14:56:42 1,150 อ่าน
TOP
x close