เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เพิ่งจะผ่านมาไม่นานเท่าไหร่ที่ได้เห็นว่ามีข่าวเด็กทารกเสียชีวิตคาเตียงหลังคุณแม่นอนให้น้องดูดนมแล้วเผลอหลับไป ฟังดูแล้วช่างเป็นข่าวที่น่าเศร้าสลดมากสำหรับพ่อแม่ทุกคนที่มีลูกเล็ก วันนี้กระปุกดอทคอมจึงอยากจะขอเสริมข้อมูลให้คุณแม่ ๆ ได้ทราบกันเกี่ยวกับการนอนร่วมเตียงเดียวกับลูกน้อย โดยเฉพาะในวัยที่อายุยังไม่ครบ 1 ปี ว่าทารกที่นอนร่วมเตียงเดียวกับพ่อแม่นั้นมีโอกาสเสี่ยงชีวิตขณะหลับมากกว่าทารกที่นอนแยกเตียงถึง 5 เท่าเลยทีเดียวค่ะ
จากการศึกษาเกี่ยวกับกรณีทารกเสียชีวิตขณะนอนหลับกว่า 1,500 เคส ของอลิสัน เอ็ดวาร์ด อาจารย์ประจำวิชาผดุงครรภ์ มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมซิตี้ ยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศอังกฤษ ผนวกกับการเปรียบเทียบผลงานศึกษาเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเด็กทารกขณะนอนหลับ หรือ ที่เรียกว่า SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) อีก 5 ชิ้น พบว่า 88% ของความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะหลีกเลี่ยงได้หากพ่อแม่ไม่นำลูกนอนร่วมเตียงเดียวกัน
สาเหตุหลัก ๆ ที่คุณแม่หลายบ้านในอังกฤษหันมานิยมวิธีการพาลูกน้อยนอนร่วมเตียงด้วย ประการแรกคือความสะดวกในการให้นมจากเต้าของคุณแม่ เพราะน้ำนมแม่ย่อยง่ายกว่านมชง เด็กจึงหิวไว ทำให้มักตื่นมากลางดึกและงอแงร้องกินนมบ่อย ๆ แต่หากลูกได้นอนร่วมเตียงเดียวกันแล้ว เจ้าตัวเล็กตื่นมาเมื่อไหร่ก็สามารถคลำหาเต้าแล้วดูดกินได้เลย โดยที่คุณแม่ไม่ต้องลุกไปอุ้มมาดูดนมกลางดึก ส่วนเหตุผลประการที่สองคือความนิยมในการเลี้ยงลูกแบบผูกพัน (Attachment Parenting) คืออยู่กับลูกไม่ห่างตัวแทบตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่เวลานอน
ในส่วนของกลุ่มที่สนับสนุนการให้ทารกน้อยนอนร่วมเตียงกับคุณแม่ได้ให้เหตุผลว่า ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่คุณแม่จะระมัดระวังท่านอนของตัวเองมากขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่มีทางที่จะนอนทับลูกได้ (โดยสัญชาตญาณประการนี้พบในตัวของผู้เป็นแม่สูงกว่าผู้เป็นพ่อมาก) แต่เมื่อมองในมุมกลับกันถึงสาเหตุการเสียชีวิตโดยส่วนใหญ่ของทารกจากอาการ SIDS ก็ได้พบว่าไม่ได้เกิดจากการที่ทารกถูกนอนทับ หากแต่เป็นเพราะถูกพ่อแม่เผลอนอนเบียดหรือลูกนอนดิ้นจนผ้าห่มคลุมทับทำให้อุณหภูมิในตัวสูงขึ้นและหายใจไม่ออก ทำให้เสียชีวิตในที่สุดต่างหาก
เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือการให้ลูกน้อยนอนในเตียงสำหรับเด็กของเขาที่แยกไว้ต่างหาก และอาจวางไว้ในห้องนอนเดียวกับคุณก็ได้ เมื่อโตขึ้นแล้วจึงแยกห้องนอนส่วนตัวให้เจ้าตัวเล็กอีกที สอดคล้องกับกรมอนามัยของประเทศอังกฤษที่แนะนำให้คุณแม่นำทารกน้อยนอนในเตียงแยกสำหรับเด็กจนถึงถึงอายุ 6 เดือนเป็นอย่างน้อย ด้วยวิธีนี้นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตของทารกขณะนอนหลับได้แล้ว ยังนับว่าดีต่อความสัมพันธ์บนเตียงของคุณพ่อคุณแม่ที่จะได้มีเวลาใกล้ชิดแนบแน่นเป็นส่วนตัวกันบ้าง เพราะในช่วงที่ลูกยังเล็กแบบนี้ คุณพ่อหลาย ๆ คนก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าค่อนข้างจะห่างเหินกับภรรยาไป เนื่องจากอีกฝ่ายต้องทุ่มเทให้กับการเลี้ยงลูกที่ยังเล็กอยู่และค่อนข้างติดแม่นั่นเอง
แม้ว่าภาพพ่อแม่และลูกน้อยนอนหลับพริ้มบนเตียงไปพร้อม ๆ กันดูแล้วออกจะเป็นภาพของครอบครัวอบอุ่น หากแต่มันก็แฝงภัยเงียบมาด้วยพร้อม ๆ กัน เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่ยังมีลูกเล็ก ๆ เห็นทีจะต้องระมัดระวังในการจัดที่นอนให้ลูกมากขึ้น เล็งเห็นความสำคัญของการให้ลูกนอนแยกในเตียงสำหรับเด็ก ซึ่งคุณแม่เองอาจจะวางไว้ใกล้ ๆ กับเตียงนอนตัวเองเลยก็ได้ แม้จะไม่ได้นอนกอดลูก แต่ลูกก็ยังอยู่ใกล้ ๆ จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถลุกไปให้นมหรือดูแลลูกได้ทันท่วงทีหากว่าเจ้าตัวน้อยตื่นมางอแงตอนกลางคืนนะคะ