เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ของว่างมื้อบ่ายเป็นมื้อที่เด็ก ๆ หลายคนตั้งตารอ เพราะจะได้กินของอร่อย ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่เตรียมไว้ให้ แถมยังเป็นการเติมพลังหลังจากวิ่งเล่นหรือเลิกเรียนมาใหม่ ๆ ด้วย คุณพ่อคุณแม่ที่มีเวลาอาจเตรียมอาหารว่างที่ต้องใช้การปรุงซับซ้อนให้ลูกได้ แต่สำหรับท่านที่ไม่มีเวลาก็มักจะเลือกของที่กินง่าย เตรียมง่าย รสชาติดี และเด็ก ๆ ก็ชอบเอาไว้ให้แทน แต่การเตรียมอาหารว่างยังต้องนึกถึงมากกว่าแค่เรื่องอร่อยและอิ่มท้อง อาหารมื้อย่อย ๆ นี้ควรมีคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์กับลูกด้วย มีของกินหลายอย่างที่คุณพ่อคุณแม่อาจเผลอจัดไว้ให้โดยคิดแค่ว่าลูกชอบกิน แต่อาจลืมนึกไปว่าแท้จริงมันไม่ได้ให้คุณค่าทางอาหารอย่างที่คิด ลองมาดู 5 อาหารน่าอร่อยที่เตรียมง่าย กินง่าย แต่ไม่เหมาะสำหรับเป็นของว่างให้คุณหนู ๆ กันดูนะคะ
1.ขนมเคี้ยวหนึบจากน้ำผลไม้
ขนมเคี้ยวหนึบจากน้ำผลไม้มีรสชาติถูกปากเด็ก ๆ แถมแพ็กมาเป็นห่อสวยงามอย่างดีดูน่ากิน แต่รู้ไหมขนมเคี้ยวหนึบที่แม้จะระบุหน้าซองว่า "มีส่วนผสมจากน้ำผลไม้แท้" เหล่านี้ เป็นสาเหตุตัวดีที่ทำให้เด็ก ๆ ฟันผุ เพราะยังมีการเติมน้ำตาลไปเพิ่ม รวมทั้งเติมสารกันเสีย แต่งกลิ่นและสีอีกต่างหาก แถมยังได้ไฟเบอร์และน้ำน้อยกว่าการกินผลไม้จริง ๆ หลายเท่า
ให้ลูกกินอันนี้แทนดีกว่า : ลองเปลี่ยนมาเป็นผลไม้สด ๆ อย่างองุ่น แอปเปิ้ลหั่นพอดีคำ ส้ม แก้วมังกร หรือผลไม้อื่น ๆ ตามฤดูกาลดีกว่า เพราะมีรสชาติหวานเป็นธรรมชาติอย่างที่เด็ก ๆ ชอบอยู่แล้ว หั่นแล้วแช่เย็นทิ้งไว้ยังไงก็กินอร่อยแน่นอนจ้า
2.น้ำผลไม้กล่อง
น้ำผลไม้กล่องเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มยอดนิยมที่คุณพ่อคุณแม่ไม่พลาดจะหยิบให้ลูก ๆ แต่หากคุณคิดว่าลูกจะได้รับวิตามินที่มีประโยชน์จากผลไม้อย่างเต็มเปี่ยมแล้วล่ะก็ อาจจะไม่ใช่แล้วค่ะ เพราะแม้มันจะมีส่วนผสมของน้ำผลไม้แท้ ๆ หรือเนื้อผลไม้แท้ ๆ ผสมอยู่ด้วย แต่ก็มีน้ำตาลผสมมาให้อีกจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ถ้าเด็กดื่มเข้าไปมาก ๆ ก็ไม่ดีต่อสุขภาพเขาแน่ ๆ นอกจากนี้การดื่มน้ำผลไม้ยังไม่ได้ไฟเบอร์เต็ม ๆ เหมือนที่ได้จากผลไม้สดด้วย
ให้ลูกกินอันนี้แทนดีกว่า : ความจริงแล้วคุณก็ยังสามารถให้ลูกดื่มน้ำผลไม้กล่องได้เป็นครั้งคราว ที่นอกเหนือจากนั้นก็ควรให้เขาได้รับประโยชน์จากผลไม้สด ๆ ดีกว่าค่ะ แต่ถ้าเด็ก ๆ มีปัญหากับเนื้อสัมผัสของผลไม้ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเปลี่ยนเป็นคั้นน้ำผลไม้สด ๆ ให้ หรือจะปรับไปเป็นเมนูสมูธตี้ก็น่าอร่อยไม่เบานะ
3.แครกเกอร์
แครกเกอร์กรอบ ๆ กินง่าย หอมเนยนม มักแบ่งมาเป็นห่อเล็ก ๆ กินพอดีอิ่ม เด็กชอบกิน คุณพ่อคุณแม่ก็ชอบเตรียมไว้ให้เสียด้วย แต่ฟังทางนี้สักนิดก่อนจะหยิบแครกเกอร์ห่อต่อไปให้เด็ก ๆ เอาไปกิน เพราะแครกเกอร์ทำมาจากแป้งสาลีขัดขาว ที่ขัดเอาสารอาหารดี ๆ ออกไปแล้วเหลือแต่แป้งล้วน ๆ กินมากไปก็ทำให้อ้วนได้ แถมยังมีสารกันเสีย และส่วนผสมของน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพอีกต่างหาก
ให้ลูกกินอันนี้แทนดีกว่า : ลองเปลี่ยนจากแครกเกอร์หอมมันน่าอร่อย มาเป็นแครกเกอร์ชนิดโฮลเกรน (whole grain) และอย่าลืมเลือกชนิดที่เป็นโฮลเกรน 100% ด้วยนะคะ นอกจากนี้ให้พลิกอ่านข้อมูลสารอาหารข้างกล่องด้วยว่า ต้องให้ไฟเบอร์อย่างต่ำ 3 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภคถึงจะเวิร์กที่สุดจ้า
4.อาหารประเภทเนื้อแปรรูป
บรรดาฮอทดอก นักเก็ต เนื้อแฮมเบอร์เกอร์ปรุงเสร็จพร้อมอุ่นทานได้เลย อาจเป็นทางเลือกที่เร็ว สะดวก และอร่อยถูกปากคุณหนู ๆ หรือแม้กระทั่งตัวคุณพ่อคุณแม่เอง แต่อย่าลืมนะว่าอาหารประเภทเนื้อผ่านการแปรรูปเหล่านี้ มักเคล้ามาด้วยสารไนเตรทซึ่งเป็นการกันบูดชั้นดี และมีโทษแก่ร่างกายมนุษย์เมื่อสะสมไปเป็นเวลานาน ๆ ได้เป็นอย่างดีด้วย มีงานวิจัยพบว่าผู้ที่ชอบรับประทานอาหารประเภทนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ หรือมะเร็งบางชนิดสูงขึ้นค่ะ
ให้ลูกกินอันนี้แทนดีกว่า : ทางที่ดีควรเลือกซื้อเนื้อมาปรุงอาหารเอง หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องมองหาอาหารประเภทเนื้อแปรรูปที่ไม่ใส่สารกันบูด แม้อายุการเก็บรักษาจะสั้นกว่ามาก และราคาก็ยังแพงกว่าด้วย แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับสุขภาพของเด็ก ๆ ในระยะยาวมากกว่าหลายเท่าแน่นอนค่ะ
5.ขนมหวานแบบบรรจุห่อเรียบร้อย
ช็อกโกแลตแท่ง ขนมปังเป็นห่อ ๆ เค้กโรลชิ้นกำลังพอกิน ฯลฯ ของเหล่านี้ยื่นให้ลูกทีไร เขาเป็นต้องตาลุกวาวทุกที เด็ก ๆ ชอบกิน แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็มักชอบเอาใจลูกเสียด้วยสิ แต่รู้ไหมว่าส่วนใหญ่ของกินพวกนี้มีน้ำตาลสูงมาก แถมพวกเค้กหรือขนมปังยังมีไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ดีเป็นส่วนผสมด้วย เพราะฉะนั้นขนมหวานตบท้ายมื้ออาหารแบบนี้ไม่เหมาะกับลูกเลยนะคะ
ให้ลูกกินอันนี้แทนดีกว่า : แข็งใจสวมบทคุณพ่อคุณแม่ใจร้ายดูบ้าง ด้วยการบอกว่า "ลูกไม่จำเป็นต้องมีของหวานหลังอาหารทุกมื้อก็ได้นะ" เพราะของหวานก็เป็นแค่ของหวาน หาใช่อาหารหลัก แน่นอนว่าเด็ก ๆ ยังคงกินมันได้ แต่ต้องเป็นครั้งคราวไปเท่านั้น นอกจากช่วยลดการกินของมีประโยชน์น้อยเข้าร่างกายได้แล้ว ยังช่วยให้ลูกไม่ติดรสหวานมากเกินไปด้วยนะคะ
อาหารมื้อเล็ก ๆ อย่างอาหารว่างใครว่าไม่สำคัญ ยิ่งเป็นอาหารว่างของลูก ๆ ที่รัก ยิ่งต้องใส่ใจ จริงไหมคะคุณพ่อคุณแม่ ^^