เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงปิดเทอมของเด็ก ๆ ตลอดซัมเมอร์นี้ นอกจากทะเลแล้ว เห็นทีคงจะเป็นที่ใดไปไม่ได้ ยกเว้น สวนสนุก ที่รวบรวมเอาเครื่องเล่นมากมายเอาไว้ ซึ่งในเมืองไทยก็มีหลากหลายแห่งเช่นกัน หากตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่กำลังวางแผนจูงมือเด็ก ๆ ไปเที่ยวสวนสนุก ก็อย่าเพิ่งรีบร้อนออกเดินทาง มาดูกันก่อนดีกว่าว่าควรจะเตรียมตัวอย่างไรสำหรับทริปนี้กันบ้าง
1. สวมเสื้อผ้าให้เหมาะสม
เสื้อผ้าที่นำมาสวมใส่ให้กับเด็ก ๆ ควรเป็นแบบทะมัดทะแมงเคลื่อนไหวตัวง่าย หากเป็นไปได้ควรเลือกกางเกง หรือกระโปรงที่ไม่รุ่มร่ามจนเกินไป เพื่อความปลอดภัยของพวกเขาเอง และมีเนื้อผ้าที่บางเบา เพราะเป็นผ้าที่มีการระบายอากาศได้ดีช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกสบายตัว ไม่ร้อนหรืออึดอัดจนเกินไป พร้อมทั้งสามารถเพลินเพลิดกับเครื่องเล่นได้ตลอดทั้งวัน
2. แพ็กของใส่ถุงซิปล็อก
ในกรณีที่พาเด็ก ๆ ไปเล่นน้ำในสวนน้ำควรนำเสื้อผ้า และอุปกรณ์ที่จำเป็น แพ็กใส่ถุงพลาสติกชนิดที่มีซิปล็อกเอาไว้ให้เรียบร้อย โดยใช้ 1 ถุงต่อ 1 ประเภท อย่างเช่น ชุดว่ายน้ำ เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนหลังจากเล่นน้ำ โทรศัพท์มือถือ เพื่อไม่ให้สิ่งของในกระเป๋าปะปนกัน สะดวกต่อการค้นหาและหยิบขึ้นมาใช้
3. แขวนป้ายชื่อ
เนื่องจากคนที่เข้ามาเยี่ยมชมและเล่นเครื่องเล่นในแต่ละวันค่อนข้างเยอะ ซึ่งอาจทำให้พ่อแม่กับเด็ก ๆ พลัดหลงกันได้ง่าย เพราะฉะนั้นนอกจากเตรียมอุปกรณ์สิ่งของ และเสื้อผ้าแล้ว ควรจะทำป้ายชื่อที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับเด็กเอาไว้ด้วย ทั้งชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ หรืออะไรก็ตามที่สามารถติดต่อกับคุณพ่อคุณแม่ได้ เพื่อความสะดวกในการตามหาตัว
4. สวมเสื้อกันฝน
หากต้องการเล่นเครื่องเล่นที่เกี่ยวกับน้ำ ได้แก่ แกรนด์แคนยอน หรือซูเปอร์สแปลช ควรจะให้เด็ก ๆ สวมเสื้อกันฝนเอาไว้ด้วย ถึงแม้อาจจะดูแปลกไปนิด แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้พวกเขาเดินตัวเปียกพร้อมกับเสื้อผ้าที่อับชื้นไปทั้งวัน เพราะนอกจากจะทำให้เด็กเป็นหวัดแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดบวมด้วย หรืออาจจะใช้อีกหนึ่งวิธีก็คือ เตรียมเสื้อผ้าสำรองไปด้วยอีกหนึ่งชุด เผื่อใช้ในกรณีจำเป็น
5. รวมของทุกอย่างไว้ด้วยกัน
สำหรับพ่อแม่ที่มีเด็กเล็กอาจจะต้องพกพาอุปกรณ์และของใช้มากกว่าคนอื่น ๆ ตั้งแต่แพมเพิส ผ้าอ้อม ขวดนม ไปจนถึงรถเข็น ดังนั้นควรจะรวบรวมของเอาไว้ในกระเป๋าเดียวกันทั้งหมด เพื่อความสะดวกในการถือและหยิบใช้ นอกจากนี้หากเป็นไปได้ควรจะสะพายติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา ไม่ควรจะแขวนหรือวางด้านล่างของรถเข็น เพราะทำให้เกิดการสูญหายได้ง่าย หรืออาจตกหล่นไปโดยไม่รู้ตัว
6. สอนวิธีการขอความช่วยเหลือ
ก่อนที่จะเข้าไปเล่นเครื่องเล่นควรจะสอนวิธีขอความช่วยเหลือเอาไว้ก่อน โดยการนัดแนะจุดนัดพบหากเกิดการพลัดหลง หรือบอกเส้นทางการเดินไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสวนสนุก พร้อมกับบอกวิธีแจ้งข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ของฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่คอยให้ความช่วยเหลือในการประกาศตามหาตัวด้วย
7. เตรียมอาหารรองท้อง
ในระหว่างวันหลังจากที่เล่นเครื่องเล่นเสร็จเด็ก ๆ อาจจะหิวข้าวหรือหิวน้ำ ฉะนั้นควรจะเตรียมอาหาร ของว่าง นม หรือน้ำเอาไว้ด้วย เพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าอาหารในมือถูกปากพวกเขาแน่นอน อีกทั้งยังช่วยประหยัดเงินให้กับคุณพ่อคุณแม่อีกทางหนึ่ง เนื่องจากราคาอาหารในสวนสนุกนั้นค่อนข้างแพงและสูงกว่าที่อื่นอยู่พอสมควร
8. พักเป็นช่วง ๆ
หลังจากที่เล่นเครื่องเล่นเสร็จแล้ว ควรจะให้เด็ก ๆ นั่งพักสักระยะพร้อมกับดื่มน้ำ และเช็ดหน้าเช็ดตาด้วยผ้าเย็น เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติ ก่อนที่จะพาไปยังเครื่องเล่นถัดไป ส่วนในกรณีที่พวกเขามีอาการวิงเวียนศีรษะ ให้ลองมองไปไกล ๆ หรือจุดที่มีสีเขียวเพื่อเป็นการพักสายตาสักครู่หนึ่ง และนั่งรอจนกว่าอาการของพวกเขาจะดีขึ้นแล้วค่อยออกเดินทางต่อไป
9. สอนให้รู้จักแบ่งกันรับประทาน
หากมีเด็ก ๆ ที่ต้องดูแลหลายคน ไม่จำเป็นต้องซื้อของหรืออาหารตามจำนวนคนทั้งหมด เพราะส่วนมากแล้วพวกเขามักจะรับประทานอย่างละนิดอย่างละหน่อย พอให้รู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรเท่านั้นเอง ดังนั้นซื้อมาแค่พอประมาณ แล้วสอนให้แบ่งกันรับประทาน เช่น ในกรณีที่มีเด็กเล็กอาจจะใช้วิธีแบ่งอาหารจากถ้วยใหญ่มาให้บางส่วน เป็นต้น
10. เพิ่มความสนุกด้วยเรื่องเล่า
ในสวนสนุกเต็มไปด้วยตัวละครและตัวการ์ตูนจากหลากหลายเรื่อง ฉะนั้นหากเป็นไปได้คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมเรื่องเล่าไปด้วยแบบคร่าว ๆ ได้แก่ ชื่อกับเรื่องย่อ เอาไว้เล่าระหว่างที่เดินทาง หรือคอยตอบคำถามของเด็ก ๆ เพื่อความสนุกสนานและเป็นการให้ความรู้ไปในตัว เพราะถ้าหากคุณพ่อคุณแม่เอาแต่ตอบว่าไม่รู้เพียงอย่างเดียวเด็ก ๆ ก็อาจจะรู้สึกเบื่อได้เช่นกัน
ถ้าจะให้ดีคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมของเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือหนึ่งคืนก่อนที่จะออกไปเที่ยวสวนสนุก เพื่อให้สามารถออกเดินทางในวันถัดไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะว่ายิ่งไปถึงเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ เวลาสำหรับการเล่นเครื่องเล่นก็ขึ้นมากเท่านั้น แถมยังไม่ต้องเบียดเสียดแย่งกันเล่นแย่งกันถ่ายรูปกับคนหมู่มากอีกด้วย