
ระวัง! ลูกเล็กหูชั้นกลางอักเสบ (modernmom)
โดย: พญ.ศิริเพ็ญ มุขบัณฑิตพงษ์
ช่องหูชั้นกลาง ซึ่งเป็นโพรงอากาศเล็ก ๆ ระหว่างเยื่อแก้วหูและช่องหูชั้นใน และท่อยูสเตเชี่ยน ท่อที่เชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลางกับจมูก ทำหน้าที่ในการปรับความดันหูนั้น การอักเสบของหูชั้นกลางพบได้ในเด็กอายุระหว่าง 3 เดือนถึง 11 ปี และพบมากในเด็กอายุระหว่าง 6 ถึง 11 เดือน
ต้นตอหูชั้นกลางอักเสบ




8 ปัจจัยเสี่ยงลูกเล็กหูชั้นกลางอักเสบ
มาดูกันค่ะว่า ปัจจัยชนิดใดบ้าง ที่ทำให้เด็กเสี่ยงต่อการเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบได้








หูชั้นกลางอักเสบชนิดต่าง ๆ


มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสจากทางเดินหายใจส่วนบน แต่ในเด็กมักพบมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนมากกว่าผู้ใหญ่ เชื้อที่พบบ่อยคือเชื้อ เบตาสเตรปโตค็อกคัส สแตฟฟีโลค็อกคัส นิวโมค็อกคัส และฮีโมฟิลุส อินฟลูเอนซา
เด็กที่หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน จากเชื่อเหล่านี้มักมีอาการปวดหูมาก ( อาการปวดจะลดลงเมื่อแก้วหูทะลุ มีหนองไหล ) ผู้ป่วยจะปวดลึก ๆ และปวดมากจนร้องหรือดิ้น มีไข้สูง ถ้าเป็นเด็กอาจชักได้ ร้องกวน งอแง โดยเฉพาะตอนกลางคืน มีน้ำหนองไหลจากหู มีปัญหาเรื่องการได้ยิน หูอื้อ หรือได้ยินเสียง "ป๊อป" ในหูเวลาเคี้ยว กลืน หรือหาว หากปล่อยทิ้งไว้หลายวันจะทำให้เยื่อแก้วหูทะลุได้

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอย่างเดียว เป็นภาวะที่มีน้ำอยู่หลังแก้วหู โดยที่แก้วหูไม่ทะลุ พบได้บ่อยในเด็กที่นอนให้นม เด็กในสถานรับเลี้ยงเด็ก เด็กที่พ่อหรือแม่สูบบุหรี่ หรือเด็กที่ไม่ได้รับนมแม่ เด็ก ๆ ที่มีน้ำในหูชั้นกลาง ส่วนใหญ่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้อาการไม่รุนแรง เช่น มีอาการหูอื้อ การได้ยินลดลง แต่มักไม่มีอาการปวด

ชื่อที่รู้จักกันโดยทั่วไปคือ โรคหูน้ำหนวก เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากที่สุด ทำให้หูพิการได้มาก และเกิดอาการแทรกซ้อนทางสมองถึงแก่ความตายได้ โรคนี้เกิดตามหลังหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน ที่ไม่ได้รับการรักษาหรือรักษา ไม่เพียงพอ เกิดจากการติดเชื้อต่อเนื่องมาเป็นนานกว่า 12 สัปดาห์ เด็กในกลุ่มนี้มักพบมีเยื่อแก้วหูทะลุร่วมด้วย
เด็กจะมีอาการหูอื้อ บางรายอาจพบมีน้ำหนองไหลออกจากหูตลอดเวลา เชื้อจะเปลี่ยนไปเป็นเชื้อแบคทีเรียกรัมลบ และเชื้อก่อโรคที่ไม่ต้องการออกซิเจน ตรวจดูจะพบแก้วหูทะลุ มีหนองเหม็น อาจมองเห็นทะลุไปถึงกระดูกในหู การรักษา นอกจากยาปฏิชีวนะแล้วต้องดูดเอาหนองออก และอาจพิจารณาผ่าตัดในบางราย ที่ให้การรักษาแล้วไม่ดีขึ้น หรือเป็นรุนแรง

การรักษาหูชั้นกลางอักเสบ คือ การให้กินยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซีซิลลิน โคไตรม็อกซาโซล อีริโทรไมซิน เป็นต้น ซึ่งมักจะให้ติดต่อกันนานอย่างน้อย 10-14 วัน ร่วมกับยาแก้ปวด ลดบวม และรักษาโรคอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุของหูอักเสบร่วมไปด้วย เช่น จมูกหรือไซนัสอักเสบ หากรักษาแล้วไม่ดีขึ้น หรือมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ แพทย์อาจแนะนำให้รักษาโดยการผ่าตัดเจาะเยื่อแก้วหู ผ่านทางรูหู เพื่อดูดน้ำในหูชั้นกลางออกและใส่ท่อปรับความดันไว้ในแก้วหู







สัญญาณที่ควรพบแพทย์


เด็กจะไม่มีบาดแผลใด ๆ ในบริเวณใบหู ใบหน้าและศีรษะ หลังการผ่าตัดต้องระวังไม่ให้น้ำเข้าหู อาบน้ำสระผมได้เป็นปกติด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรเป่าลูกโป่ง ไม่เล่นเครื่องดนตรีชนิดเป่า ไม่ควรไอ เบ่ง หรือสั่งน้ำมูกแรง ๆ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด เพราะจะทำให้ท่อหลุดก่อนเวลาได้
ควรมาพบแพทย์เป็นระยะ ๆ เพื่อตรวจสภาพแก้วหู ตรวจดูท่อปรับความดัน และตรวจการได้ยิน ท่อปรับความดันจะหลุดออกมาได้เอง ซึ่งแตกต่างกันไปตามชนิดของท่อที่ใช้ แพทย์สามารถหยิบท่อจากช่องหูออกได้เลยโดยไม่ทำให้เจ็บปวด
ฟังดูชื่อโรคอาจน่ากลัว แต่การที่คุณมีข้อมูลและหมั่นสังเกตลูกอยู่เสมอ ก็ช่วยให้ลูกห่างไกลจากโรคนี้ได้ค่ะ
สังเกตอาการหูชั้นกลางอักเสบ







ขอขอบคุณข้อมูลจาก
