ตัวเล็ก ๆ อย่างหนูก็เป็นความดันโลหิตสูงได้นะ (รักลูก)
เรื่อง : ก้านแก้ว
ความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่เรามักได้ยินว่าเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ แต่จริง ๆ แล้ว ลูกน้อยของเรา ก็อาจเป็นโรคนี้ได้เช่นกันนะคะ
Q : ความดันโลหิตสูงเกิดกับเด็ก ๆ ได้ไหมคะ
A : ความดันโลหิตสูงเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกวัย โดยในเด็กทั่ว ๆ ไปจะพบโรคนี้ได้ถึงประมาณ 10-20 % พบในเด็กน้อยกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งในวัยผู้ใหญ่มักจะหาสาเหตุไม่ได้ แต่ถ้าเป็นในวัยเด็กจะมีสาเหตุเฉพาะค่ะ
Q : สาเหตุเฉพาะที่เกิดในเด็กคืออะไร
A : ในเด็กเล็ก (อายุ 0-5 ปี) มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือมีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะตั้งแต่กำเนิด แต่ถ้าเป็นเด็กโต (อายุ 5 ปีขึ้นไป) จะมีสาเหตุมาจากภาวะไตอักเสบและโรคอ้วน
Q : แล้วปัจจัยเสี่ยงที่เกิดในเด็กคืออะไร
A : สามารถแบ่งได้เป็น 2 ปัจจัย คือ
ปัจจัยภายนอกมาจากโรคที่ป่วย เช่น โรคไตอักเสบ ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ มีความผิดปกติของต่อมไร้ท่อโรคหัวใจ โรคอ้วน หรือลามไปถึงจนเป็นโรคมะเร็ง และต้องได้รับยา ซึ่งอาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูงได้
ปัจจัยภายในเกิดจากพันธุกรรม โดยมีคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นความดันโลหิตสูง ลูกก็มีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูงถึง 50% หรือเด็กมีความพิการแต่กำเนิด เช่น มีช่องทางเดินปัสสาวะบวม ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าเป็นเด็กทั่ว ๆ ไป ที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยไม่เป็นโรคที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง ก็จะพบว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้น้อยค่ะ
Q : เวลาที่พาลูกน้อยมาตรวจสุขภาพ ควรวัดความดันโลหิตด้วยหรือไม่
A : สมาคมกุมารแพทย์ของไทยแนะนำว่าเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป ที่มารับวัคซีน ควรเช็กความดันโลหิตอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แต่ในประเทศญี่ปุ่นจะให้เด็ก ๆ วัดความดันโลหิตและตรวจปัสสาวะตั้งแต่อายุ 1 ปี หากเด็กที่ป่วยด้วยโรคทางไต หรือโรคทางต่อมไร้ท่อโรคหัวใจ หรือมีไข้ขึ้นสูง ก็จะเช็กความดันโลหิตทุกครั้ง ที่เด็กมาตรวจ เพราะในการวัดความดันโลหิตให้เด็ก เด็กจะไม่รู้สึกเจ็บ โดยจะมีสายวัดที่เป็นขนาดเหมาะสมสำหรับเด็กแต่ละวัย โดยขนาดของที่วัดความดันโลหิตจะเพิ่มขึ้นตามความกว้างของแขนเด็กค่ะ
Q : ค่าความดันโลหิตของเด็กกับผู้ใหญ่เหมือนหรือแตกต่างกันคะ
A : แตกต่างกันค่ะ โดยที่ค่าความดันโลหิตของเด็กจะต้องขึ้นอยู่กับเพศ อายุ ความสูง แต่สามารถติดคร่าว ๆ โดยคำนวณจากตัวเลข 100 + (อายุเด็ก/ปี x 2) เช่น เด็กอายุ 2 ขวบ สามารถคำนวณค่าความดันได้ดังนี้ 100 + (2x2) = 104 ถ้าลูกวัดความดันโลหิตแล้วค่าความดัน (ตัวที่มีค่าสูง) มีค่าเกินกว่า 104 มิลลิเมตรปรอท แสดงว่าเด็กคนนี้มีความดันโลหิตสูงค่ะ
Q : ถ้าคุณพ่อคุณแม่เป็นความดันโลหิตสูง ลูกควรจะตรวจความดันโลหิตเลยหรือไม่
A : เนื่องจากโรคความดันโลหิตสูงสามารถเป็นได้จากพันธุกรรม 50% ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่เป็น ลูกก็ควรมาวัดความดันโลหิตด้วยนะคะ เพราะทั้งอาหาร การเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อมมีผลให้เกิดความดันโลหิตสูงได้ เนื่องจากเด็กกับคุณพ่อคุณแม่มีแนวโน้มที่จะกินอาหารรูปแบบคล้าย ๆ กัน ซึ่งมีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูงได้เช่นกัน
Q : อารมณ์ของเด็กในแต่ละช่วงมีผลกับค่าความดันโลหิตไหมคะ
A : มีผลค่ะ เพราะหากเด็กกำลังร้องไห้ หวาดกลัว หรือตื่นเต้น ความดันโลหิตก็จะสูงตาม ดังนั้นเวลาที่มาวัดความดันของลูกควรให้ลูกอยู่ในภาวะสงบ อาจจะต้องรอให้เด็กได้หลับก่อน หรือวัดความดันในช่วงที่เด็กกำลังกินนม เพราะจะเป็นช่วงที่ผ่อนคลาย เพื่อจะได้ค่าที่ถูกต้องค่ะ
Q : ถ้าลูกมีโอกาสเสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูงควรดูแลอย่างไร
A : ควรมาพบแพทย์ กินยาสม่ำเสมอตามที่แพทย์สั่ง และควรปฏิบัติตามคำแนะนำ เช่น ไม่กินอาหารที่มีรสเค็ม หรือมีโซเดียมสูง เพราะอาหารที่มีโซเดียมสูงจะส่งผลให้โต และหัวใจทำงานหนักมากขึ้น มีผลต่อความดันโลหิตสูงได้ค่ะ
ถ้าเด็กเป็นความดันโลหิตสูงแล้วไม่กินยาตามที่แพทย์สั่งจะทำให้เวลาที่ต้องทำกิจกรรมหนัก ๆ ความดันโลหิตจะขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีผลกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ เช่น เส้นเลือดในสมองแตก ตับ หรือภาวะหัวใจโตได้
Q : เด็กที่เป็นความดันโลหิตสูงมีโอกาสหายไหมคะ
A : กรณีที่เป็นเด็กอ้วน แล้วสามารถลดน้ำหนักได้ ในช่วงที่รักษาโรคความดันโลหิตสูงอยู่ มีโอกาสที่จะกินยาลดลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับตัวและการดูแลตัวเองของเด็ก ถ้าค่าความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ดี แพทย์ก็จะให้กินยาน้อยที่สุด ที่จะควบคุมความดันให้เป็นปกติได้ แต่ถ้าสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงมีสาเหตุมาจากโรคไต ไม่ควรหยุดยาเอง ควรไปพบแพทย์ และให้แพทย์ปรับยาให้
Q : ถ้าเป็นความดันโลหิตสูงตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ควรดูแลตัวเองอย่างไร
A : ถ้ารักษาความดันโลหิตสูงไม่หายตั้งแต่เด็ก ๆ ก็จะมีความดันโลหิตสูงไปจนเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งหากควบคุมความดันไม่ดี โอกาสที่จะมีปัญหาแทรกซ้อนจากภาวะความดันโลหิตสูงก็จะมีมากขึ้น และอาจมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจโต ไตเสื่อม และไตวายค่ะ
ถ้าลูกมีความเสี่ยงว่าจะมีความดันโลหิตสูง ควรพาลูกไปตรวจความดัน ดูแลเรื่องอาหารการกิน และการออกกำลังกายของลูกให้เหมาะสม เพื่อให้ลูกห่างไกลจากโรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่วัยเด็กค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ปีที่ 30 ฉบับที่ 353 มิถุนายน 2555