ดูดนิ้ว นิสัยนี้หนูเลิกได้



ดูดนิ้ว นิสัยนี้หนูเลิกได้
(รักลูก)
โดย: บุษกร

          นิสัยดูดนิ้วนี้เลิกไม่ยาก เรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่ช่วยหนูได้ค่ะ

          การดูดนิ้วทำให้หนูเพลินใจดีนี่คะ หนู ๆ บางคนเลยไม่ค่อยอยากเลิกเท่าไหร่ ยังดูดนิ้วมาจนถึงวัยเตาะแตะ แต่รู้ไหมคะว่าดูดนิ้วไปนาน ๆ จนติดเป็นนิสัย จะทำให้ฟันของหนูเหยิน ห่าง และไม่สวยได้ ซึ่งเรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่ช่วยหนูได้ นิสัยดูดนิ้วนี้เลิกไม่ยาก และมีวิธีเลิกโดยไม่ทำให้หนู ๆ เจ็บช้ำน้ำใจ หรือขัดขวางพัฒนาการของหนูอีกด้วยล่ะ

          การดูดนิ้วถือว่าเป็นพฤติกรรมปกติที่พบได้ในเด็กเล็ก ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 2 ขวบ โดย

          ดูดนิ้ว นิสัยนี้หนูเลิกได้

          ดูดนิ้วใช่เรื่องใหญ่

          อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจก่อนว่าการดูดนิ้วของลูกไม่ใช่สิ่งผิดปกติ ตรงกันข้ามเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกมีความสุขเพลินใจ ดังนั้นถ้าจะให้ลูกเลิก ก็ต้องถนอมน้ำใจกันหน่อย และต้องมีวิธีที่แนบเนียน เพื่อไม่ให้หนูเกิดอาการต่อต้าน ขัดใจ หรือมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ตามมายิ่งกว่าดูดนิ้วเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นฉี่รดที่นอน หรือกัดเล็บ เป็นต้น

          ซึ่งวิธีปรับพฤติกรรมนี้ก่อนอื่นก็ต้องดูก่อนค่ะว่า การดูดนิ้วของลูกนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร หนูน้อยบางคนดูดนิ้วเพราะรู้สึกเพลิดเพลิน บางคนหงอยเหงาเลยปลอบตัวเอง บางคนต้องการทดแทนเมื่อพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูไม่ให้เด็กดูดนมจากขวดอีกต่อไป เพราะเห็นว่าโตพอจึงให้ลูกดื่มนมจากแก้วหรือจากกล่อง แต่เจ้าหนูยังไม่คุ้นรู้สึกคับข้องใจเลยดูดนิ้วแทนการที่ไม่ได้ดูดนมจากขวด

          สาเหตุอีกอย่างที่น่าสนใจก็คือ ดูดนิ้วเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่และผู้ที่อยู่โดยรอบของเขา เพราะเด็กจะสังเกตเห็นว่า พอเขาดูดนิ้วแล้วพ่อแม่จะเข้ามาเล่นด้วย มาห้ามปรามไม่ให้ดูดนิ้วทันทีก็เลยใช้พฤติกรรมเรียกพ่อแม่เข้ามาหาค่ะ

พ่อแม่นั่นล่ะที่ทำให้หนูอยากดูดนิ้ว

          สาเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เด็กดูดนิ้วไม่เลิกก็อยู่ที่พ่อแม่เองด้วยเหมือนกันค่ะ นั่นก็คือเด็กที่ดูดนิ้วจนโตนั้นมักเกิดจากการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมของผู้เลี้ยงดู เช่น การที่พ่อแม่กังวลมาก คอยสนใจกับการดูดนิ้วของลูก คอยตีเมื่อลูกเอามือเข้าปาก วิธีเหล่านี้จะทำให้เด็กกังวล หงุดหงิด โกรธ ซึ่งอารมณ์เหล่านี้กลับยิ่งกระตุ้นให้กลับมาดูดนิ้วมากขึ้น เพื่อทำให้เกิดความเพลิดเพลิน และมักจะแอบทำเพื่อไม่ให้ผู้ใหญ่เห็น

          สำหรับแนวทางแก้ไข ในเบื้องต้นนั้นพ่อแม่ควรเข้าใจว่าการดูดนิ้วนั้นไม่ได้เป็นเรื่องอันตรายหรือผิดปกติหรือร้ายแรงแต่อย่างใด แต่เป็นนิสัยซึ่งต้องการเวลาในการปรับ เลิก คุณพ่อคุณแม่ควรแนะนำและให้กำลังใจให้เด็กหยุดนิสัยนั้น การปฏิบัติที่เหมาะสมคือ ลดความกังวลลง เลิกสนใจกับการดูดนิ้วของเด็ก แต่พยายามสนใจตัวเด็กให้มากขึ้น พูดคุยทักทายหนูตามปกติ และเบนความสนใจของเด็กมาสู่กิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจแทน ให้ของเล่นที่ต้องใช้มือช่วยในการเล่น เช่น ลูกบอล ไม่นานนักหนูน้อยก็จะเลิกดูดนิ้วไปได้เองค่ะ

ยุทธวิธีรับมือเมื่อลูกดูดนิ้ว

          ควรตัดเล็บของน้องหนูให้สั้น ล้างมือลูกให้สะอาดอยู่เสมอ หมั่นสังเกตว่านิ้วมือของลูกมีอาการอักเสบ คัน หรือเป็นแผลจากการดูดนิ้วหรือไม่

          อย่าดุหรือว่าลูกต่อหน้าคนอื่นเวลาที่ลูกดูดนิ้ว เพราะจะทำให้หนูน้อยเกร็ง เครียด และยิ่งทำบ่อยกว่าเดิม ทางที่ดีควรดึงมือออกแล้วเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ชวนไปเล่นของเล่น หรือเล่านิทานให้ฟัง เป็นต้น

          อย่าตรงเข้าไปดุว่าลูกทันที เวลาที่ลูกดูดนิ้ว โดยเฉพาะในเด็กที่ดูดนิ้วเพื่อเรียกร้องความสนใจ เพราะถ้าเด็กจับสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่ดูดนิ้ว พ่อแม่จะต้องรีบวิ่งเข้ามาห้ามปรามและดูแล หนูน้อยจะเลิกไม่ได้ ดังนั้นเวลาที่เห็นลูกดูดนิ้ว พ่อแม่อาจรอสักพัก แล้วค่อย ๆ เข้าหาลูก ชวนไปเล่นอย่างอื่นอย่างแนบเนียน ไม่บุ่มบ่าม

          ฝึกให้เด็กหัดใช้มือ หาของเล่นที่ต้องมีการฝึกทักษะมือให้ลูกเล่น เช่น ลูกบอล พอใช้มือมาก ๆ สุดท้ายลูกก็จะลืมเรื่องเอานิ้วเข้าปากไปเอง เป็นการช่วยเบี่ยงเบนพฤติกรรมลูกได้ ไม่นานพฤติกรรมนี้ก็จะหายไปได้ในที่สุด

          หากิจกรรมอื่น ๆ ที่ลูกชอบให้ทำ อย่าปล่อยให้หนูว่าง ซึ่งจะทำให้หนูไม่มีเวลาว่างมานั่งดูดนิ้วได้ ให้เล่นในสิ่งที่ชอบจนกว่าลูกจะง่วงหลับไปเอง ในการเลิกระยะแรก ๆ หนูๆ อาจมีการดูดนิ้วอีกบ้างหากมีความวิตกกังวล แต่ในที่สุดก็จะเลิกดูดได้

เลิกนิสัยชอบดูดได้ ดีกับฟันหนู

          ดร.จอห์น เจ. วอร์เรน แห่งมหาวิทยาลัยไอโอวา ได้ศึกษาเด็ก 327 คนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 5 ปี โดยครอบคลุมทั้งการดูดนมแม่และดูดนิ้วกับหัวนมหลอก

          ดร.วอร์เรนรายงานในวารสาร American Journal of Orthodontics and Dentofacial Orthopedics ว่า โดยภาพรวมแล้วเด็กที่ดูดหัวนมหลอกจนอายุเกิน 2 ขวบมีโอกาสที่จะมีฟันล่างห่างมากกว่าเด็กที่ดูดนิ้ว และเด็กที่ดูดนิ้วนานเกิน 2 ปี ก็มีโอกาสเป็นเด็กฟันเหยิน คุณหมอบอกอีกว่า การดูดแรง ๆ โดยเฉพาะดูดนิ้วจะดันให้ซี่ฟันห่าง โดยเด็กที่เลิกดูดนิ้วหรือหัวนมหลอกตอนอายุ 2-3 ขวบก็ยังพบว่ามีฟันห่างได้

          ดร.รอเรน แนะนำว่า ช่วงเวลาที่ควรจะให้เด็กเลิกนิสัยชอบดูดได้แล้วก็คืออายุ 24 เดือน แต่ทางที่ดีไม่ควรปล่อยให้เด็กติดนิสัยดูดนิ้วมาตั้งแต่แรก ควรเบี่ยงเบนความสนใจลูกเวลาที่ลูกดูดนิ้ว ด้วยวิธีที่ค่อยเป็นค่อยไปมาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องดีกว่าจะมาให้เลิกทีเดียวตอน 2 ขวบ

 




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดูดนิ้ว นิสัยนี้หนูเลิกได้ อัปเดตล่าสุด 27 มีนาคม 2555 เวลา 16:04:08 18,198 อ่าน
TOP
x close