เมื่อลูกโมโหร้าย (รักลูก)
โดย : คลินิกจิตวิทยา
Q : เรียนคุณหมอ ลูกสาวอายุ 1 ขวบ 9 เดือน มีนิสัยโมโหร้าย ถ้ากำลังถือของก็จะขว้างของทันที ถ้าไม่มีของก็จะเอาหัวโขกพื้น หรือนอนดิ้นไถกับพื้น ดิฉันไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดี เพราะดุก็แล้ว ตีก็แล้ว อธิบายให้ฟังก็แล้ว ยังไม่ดีขึ้นเลยค่ะ
คุณพนิดา / สุราษฎร์ธานี
A : พฤติกรรมที่คุณแม่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยในเด็กวัยนี้ค่ะ ซึ่งเกิดจากการที่เด็ก ๆ สามารถระบุได้ว่าตนเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร (ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ดีนะคะ) แต่เนื่องจากพัฒนาการด้านภาษา และความสามารถในการควบคุมอารมณ์ยังพัฒนาตามไม่ทัน จึงทำให้เมื่อเขาเกิดความผิดหวังจากการไม่ได้ในสิ่งที่ตอนเองต้องการ เขาอาจจะแสดงความโกรธออกมาด้วยวิธีต่าง ๆ อย่างที่คุณแม่ได้กล่าวมาทั้งหมด
สิ่งสำคัญที่คุณแม่ต้องทำความเข้าใจคือ พฤติกรรมทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเกิดจากการที่ลูกเรานั้นยังจัดการกับความโกรธและความหงุดหงิดของตนเองไม่เป็นค่ะ ดังนั้น ไม่ว่าจะดุ ตี หรืออธิบายอย่างไร หากเขายังไม่รู้ว่าเวลาโกรธคนเราควรจะต้องทำอย่างไร เขาก็จะกลับมาใช้วิธีเดิมอย่างแน่นอนค่ะ
ซึ่งการจัดการมีขั้นตอนดังนี้
1.อย่าสอนตอนลูกกำลังโกรธ เพราะเวลาที่คนเราโกรธ มักจะไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น (ผู้ใหญ่หลายคนก็เป็นอย่างนี้) ดังนั้น หากลูกลงไปนอนดิ้นกับพื้น คุณแม่ควรปล่อยให้เขาแสดงความโกรธสักพักหนึ่งโดยยังไม่ต้องทำอะไร แต่หากเขาทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่นหรือพยายามที่จะทำลายข้าวของให้เสียหาย คุณแม่ควรล็อกตัวไม่ให้เขาทำและบอกด้วยเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่นว่า "หนูโกรธได้ค่ะ แต่ว่าหนูทำแบบนี้ (ระบุการกระทำไปเลยค่ะ) ไม่ได้นะคะ" โดยอาจจะให้คุณพ่อหรือคนอื่น ๆ มาช่วยก็ได้ ถ้าหากเขาอารมณ์สงบลงแล้วก็ให้ทำตามข้อต่อไปค่ะ
2.บอกลูกว่าขณะนี้เขากำลังรู้สึกอย่างไร อย่างที่บอกไปแล้วค่ะว่าคนเราเวลาโกรธมักไม่ค่อยรู้ตัว ดังนั้น การบอกลูกว่า "หนูโกรธใช่ไหมลูก ดูท่าทางหนูจะโกรธมากเลยนะเนี่ย" เป็นการเตือนให้เด็กรู้ว่าขณะนี้เขากำลังโกรธ และหากเรากำลังจะจัดการความโกรธ เขาก็ต้องรู้ตัวก่อนว่าเขากำลังโกรธอยู่ จริงไหมคะ
3.สอนว่าหากโกรธควรทำอย่างไร วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการความโกรธคือการพูดค่ะ เพราะฉะนั้น คุณแม่ควรบอกเขาว่า "ต่อไปนี้ถ้าโกรธ ให้มาบอกแม่ว่า... นะ" ที่เว้นว่างไว้เพื่อให้คุณแม่เติมข้อความที่เหมาะสมกับระดับภาษาของน้องค่ะ ซึ่งสาเหตุที่คุณแม่ควรจะหาคำพูดมาให้เขาด้วย เพราะว่ามีเด็กหลายคนที่ยังไม่สามารถคิดคำพูดได้ ดังนั้น หากคุณแม่บอกเขาเพียง ถ้าโกรธแล้วให้มาบอกแม่เขาอาจจะงงก็ได้ค่ะว่าจะให้บอกว่าอะไร
สิ่งสำคัญมากอีกข้อหนึ่ง คือ พฤติกรรมที่น่าปวดหัวเหล่านี้ ถ้าหากว่าเขาทำแล้ว มีสมาชิกในบ้านบางคนยอมตามเขาหรือหันมาตามใจเขา เด็กก็มักจะยิ่งทำต่อไปเรื่อย ๆ นะคะ ดังนั้นคุณแม่ควรบอกทุกคนในบ้านว่าห้ามตามใจเด็ก และควรให้คำชมทุกครั้งที่เขาสามารถมาบอกเราได้เวลาที่เขาโกรธหรือไม่พอใจเรื่องอะไร
ส่วนการตีหรือดุซ้ำในเวลาที่ลูกกำลังโกรธนั้น ก็เหมือนการราดน้ำมันลงบนกองไฟค่ะ นอกจากไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังทำให้เรื่องราวบานปลาย คือเด็กจะยิ่งโกรธมากขึ้น เพราะรู้สึกว่าไม่มีคนเข้าใจ ดังนั้น พยายามเลี่ยงการตีหรือดุในเวลาที่เด็กกำลังโกรธนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ปีที่ 29 ฉบับที่ 348 มกราคม 2555