15 ความเชื่อของลูกเบบี๋ (Mother & Care)
ถ้าแม้การแพทย์จะก้าวหน้าไปแค่ไหน แต่วิธีการเลี้ยงลูกที่สืบทอดกันมา ตั้งแต่ปู่ย่าตายายบางอย่างก็ยังคงอยู่ ซึ่งความเชื่อเรื่องการเลี้ยงลูกเหล่านั้น บางเรื่องก็มีเหตุผลที่วิทยาศาสตร์อธิบายได้ แต่บางเรื่องก็ยังเป็นแค่ความเชื่อเท่านั้น
1.การโกนผมไฟ
เชื่อว่า การโกนผมไฟหรือการทำขวัญเดือน จะทำขึ้นเมื่อเด็กอายุครบ 1 เดือน กับ 1 วัน ซึ่งจัดให้มีการทำขวัญ โกนผม ตั้งชื่อ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เด็ก ซึ่งหากโกนผมไฟช้าเชื่อกันว่าจะทำให้เด็กดื้อและเลี้ยงยาก
คุณหมอบอก สมัยก่อนนั้นเราเชื่อว่าผมของเด็กที่ติดมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ไม่สะอาดนัก และเป็นผมที่บอบบางหลุดร่วงง่าย จึงโกนทิ้ง ซึ่งในสมัยก่อนไม่มีแชมพูสระทำความสะอาดผม หรือน้ำอุ่นอาบน้ำลูก การโกนผมทิ้งจึงมุ่งประโยชน์ไปที่เรื่องของความสะอาดเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันหลายครอบครัวก็ยังนิยมทำ เพราะคิดว่าจะทำให้เส้นผมที่ขึ้นใหม่ดกดำขึ้น ซึ่งไม่มีผลเสียแต่อย่างใด
ข้อควรระวัง การโกนผมไฟเด็กจะต้องระมัดระวังอย่างมาก ควรให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญโกนผมให้
2.ดอกอัญชัน กานพลู น้ำนมแม่ หรือขี้เทาของเด็กทาผมทาคิ้วให้ดกดำ
เชื่อว่า นำดอกอัญชันมาบดแล้วทาผมทาคิ้วให้เด็กแรกเกิดหรือกานพลูมาจุ่มขี้เทา หรือใช้น้ำนมแม่ทาจะทำให้คิ้วดกดำเรียงตัวสวย
คุณหมอบอก มีเฉพาะดอกอัญชันที่มีสารกลุ่มแอนโธไซยานินที่มีคำกล่าวอ้างว่าหากนำมาหมักผมจะช่วยกระตุ้นหนักศีรษะทำให้ผมดกดำขึ้น ส่วนกานพลู น้ำนมแม่หรือขี้เทาของเด็กยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าช่วยได้แต่อย่างใด
ข้อควรระวัง อาจก่อให้เกิดอาการผื่นแพ้กับผิวที่บอบบางของลูกน้อย
3.น้ำนมแม่รักษาตาแดง
เชื่อว่า เมื่อลูกเป็นตาแดงให้ใช้น้ำนมแม่หยอดตาสามารถรักษาให้หายได้
คุณหมอบอก น้ำนมไม่สามารถฆ่าเชื้อโรค หรือรักษาอาการตาแดงได้ เพราะในน้ำนมแม่นั้นมีเชื้ออยู่ ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่เกี่ยวกับลำไส้ฝ่ายดีที่ป้องกันการท้องเสียให้กับลูกน้อย ซึ่งถ้านำมาหยอดตาอาจเกิดการอักเสบติดเชื้อ ไม่แนะนำให้ทำเด็ดขาด
4.ท้องเสียบ่อยเพราะเด็กกำลังยืดตัว
เชื่อว่า อาการท้องเสียของเด็กวัย 4-6 เดือนคือ "โรคยืดตัว"
คุณหมอบอก สำหรับอาการท้องเสียในเด็กเล็กอายุ 4-6 เดือนขึ้นไป มักเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อโรค เพราะเด็กในวัยนี้มีความสนใจหยิบจับสิ่งต่างๆ เข้าปากหรือชอบดูดนิ้วมือ เนื่องจากเป็นในช่วงที่เด็กมีพัฒนาการของกล้ามเนื้อและมีการเจริญโตเป็นปกติอยู่แล้ว
ข้อควรระวัง หากคิดว่าเป็นอาการปกติของเด็กวัยนี้ ก็อาจจะทำให้เกิดความชะล่าใจ ส่งผลให้การรักษาล่าช้าออกไป
5.บิดเรียกเนื้อ
เชื่อว่า เด็กที่บิดขี้เกียจอยู่เรื่อย ๆ หรือบิดขี้เกียจบ่อย ๆ จะทำให้เด็กโตเร็วมีเนื้อเยอะขึ้น
คุณหมอบอก อาการบิดตัวมากพร้อมกับร้องเสียงเอี๊ยดอ๊าดนั้นเป็นอาการปกติของเด็กวัยนี้ที่ยังไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ ก็อาจใช้อาการนี้สังเกตเด็กกลุ่มที่อ้วนมาก น้ำหนักขึ้นเร็วเกิน 35 กรัมต่อวันถึงการกินมากเกินไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า บิดเรียกเนื้อ
วิธีแก้ไข คืออย่าให้กินเยอะเกินไป ถ้าเห็นพุงลูกใหญ่แล้ว ให้เบี่ยงเบนความสนใจลูก เล่นกับลูก หรืออุ้มเดิน
6.น้ำปัสสาวะกวาดลิ้น
เชื่อว่า ใช้ผ้าอ้อมรองรับน้ำปัสสาวะของลูก แล้วนำไปกวาดลิ้นลูกกันลิ้นเป็นฝ้า
คุณหมอบอก เป็นเรื่องของการดูแลความสะอาดในช่องปากของเด็ก สมัยก่อนน้ำปัสสาวะเป็นของสะอาดที่สามารถหาได้ง่าย ปัสสาวะของเด็กไม่มีเชื้อโรคจึงไม่มีอันตรายต่อร่างกาย แต่ในปัจจุบันเรามีน้ำสะอาด คือน้ำต้มสุก จึงควรใช้น้ำต้มสุกที่เย็นแล้วมากกว่า
ข้อควรระวัง หากปัสสาวะติดเชื้อ จะเป็นการนำเอาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายลูกน้อย
7.นอนคว่ำจะหัวทุย
เชื่อว่า ให้เด็กทารกนอนคว่ำจะนอนสบายและหัวทุยกว่านอนหงาย
คุณหมอบอก เด็กแต่ละคนมีท่านอนที่ชอบไม่เหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่มีหน้าที่สังเกตลูกว่าการนอนในท่าไหนที่ลูกหลับสนิทและหลับได้นานส่วนการนอนคว่ำให้หัวทุยนั้น แนะนำว่าขณะที่ลูกน้อยนอนหงายเวลาหลับคุณพ่อคุณแม่อาจต้องคอยช่วยจับศีรษะลูก สลับด้านที่นอนกดทับพลิกไปมาเป็นระยะๆ สลับกันไป และต้องคอยจับลูกนอนคว่ำหน้าในขณะตื่นจะปลอดภัยว่า
ข้อควรระวัง การที่นอนคว่ำเสี่ยงต่อการหน้าจม ถ้าไม่มีคนอยู่เฝ้าเด็กไม่แนะนำเรื่องการนอนคว่ำ
8.กวาดคอเด็ก
เชื่อว่า เด็กไม่สบาย ไอค๊อกแค๊ก ไม่กินข้าว ตัวร้อนต้องกวาดยา เพื่อลดทรางในลำคอ
คุณหมอบอก การกวาดยา คือ การเอายาป้ายในลำคอโดยใช้นิ้วมือเป็นการรักษาแบบแผนโบราณ การกวาดคอจะใช้สมุนไพรไทยรักษาอาการ เช่น หวัดธรรมดา อาการไอ เจ็บคอ ลิ้นเป็นฝ้า เป็นไข้ เบื่ออาหาร ร้อนใน เป็นต้น ซึ่งต้องเป็นตำรับยาที่ใช้กับเด็กที่ทางกระทรวงสาธารณสุขประกาศให้ใช้อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดี แนะนำว่าให้ไปโรงพยาบาลเพื่อไปพบคุณหมอร่วมด้วย เพื่อการรักษาที่ตรงจุดมากขึ้น
ข้อควรระวัง ต้องศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับสมุนไพรชนิดนั้นๆ และที่มาของการผลิตยา รวมทั้งอาการของโรคและระดับความรุนแรงของโรค รวมทั้งบุคคลที่ทำการกวาดยาก็ต้องระวังเกี่ยวกับความสะอาด เล็บต้องตัดสั้น หรือมมีแผลบริเวณนิ้ว
9.ยกลูกแก้เคล็ด
เชื่อว่า เด็กป่วยบ่อยหรือเลี้ยงยาก ต้องยกให้เป็นลูกคนอื่นแล้วจะหาย
คุณหมอบอก การยกลูกให้คนที่มีจิตใจดีงาม และเคยเลี้ยงเด็กแล้ว เด็กเลี้ยงง่าย ร่าเริง สุขภาพร่างกายแข็งแรง เคล็ดนี้ทำกันแค่เป็นพิธี เท่านั้น ซึ่งเป็นการช่วยในเรื่องทางจิตใจของผู้เลี้ยงเอง ไม่เกี่ยวกับสุขภาพแต่อย่างใด
10.ห้ามตัดเล็บเด็กก่อน 1 เดือน
เชื่อว่า ห้ามตัดเล็บเด็กทารกจนกว่าจะอายุครบ 1 เดือน เพราะจะทำให้เด็กป่วยง่าย
คุณหมอบอก จริง ๆ แล้ว คือเรื่องความปลอดภัย ในสมัยก่อนไม่มีอุปกรณ์ตัดเล็บสำหรับเด็ก เสี่ยงต่อการพลาดไป โดนเนื้อบาง ๆ ของลูกเข้า การตัดเล็บเด็กนั้นสามารถตัดได้ตั้งแต่แรกเกิด หากเลือกใช้กรรไกรตัดเล็บสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากความคมน้อยกว่าแล้ว ยังเหมาะกับนิ้วน้อย ๆ ของลูกด้วย
11.แดดเช้าแก้ตัวเหลือง
เชื่อว่า เด็กตัวเหลืองต้องอุ้มออกมาตากแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าแล้วจะหาย
คุณหมอบอก เด็กทารกส่วนใหญ่จะมีอาการตัวเหลืองเล็กน้อยเมื่ออายุ 3-4 วัน และจะหายภายในอายุ 5-7 วัน ซึ่งความเชื่อเรื่องแสงแดดตามธรรมชาติ ช่วยลดเหลืองในเด็กนั้นช่วยได้น้อยมาก เพราะว่าแสงแดดมีความยาวคลื่นที่มีทั้งสีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง ซึ่งแสงที่จะช่วยเรื่องตัวเหลืองนั้น คือแสงสีน้ำเงินเท่านั้น ถ้าลูกตัวเหลืองผิดปกติควรนำลูกมาเข้ารับการตรวจกับคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาให้ทันท่วงที
12.ห้ามตากผ้าอ้อมตอนกลางคืน
เชื่อว่า ถ้าซักหรือตากผ้าอ้อมไว้จนถึงกลางคืน เชื่อว่านกเค้าแมวและผีจะมาเลียเอาขวัญของเด็กที่ติดและผูกพันอยู่กับผ้าอ้อม
คุณหมอบอก เป็นเรื่องของการตากผ้าไม่แห้งหรือโดนน้ำค้าง จะทำให้ผ้าอับชื้นและอาจมีเชื้อโรคเกิดขึ้น ควรซักและตากผ้าในเวลากลางวันป้องกันผ้ามีกลิ่นเหม็นอับและป้องกันเชื้อรา
13.น้ำลายบูดช่วยสะดือลูกหลุด
เชื่อว่า ให้แม่บ้วนน้ำลายเน่า (ตอนเช้าก่อนแปรงฟัน) ใส่สะดือลูกจะทำให้สะดือหลุดเร็ว
คุณหมอบอก สมัยก่อนจะคิดว่าสะดือลูกไม่ค่อยหลุด จึงอาศัยแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำลายแม่ ทำให้สายสะดือหลุดง่าย แต่การบ้วนน้ำลายใส่สะดือเด็กนั้น อาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ เป็นข้อที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
14.ดัดขาลูกหลังอาบน้ำ
เชื่อว่า ดัดขาให้ลูกหลังจากอาบน้ำ ขาจะสวยตรงเมื่อโตขึ้น
คุณหมอบอก การดัดหรือยืดขาของลูกเบา ๆ จะช่วยให้ลูกได้ยืดเส้นยืดสายบ้างเท่านั้น ไม่ใช่การดัดเพื่อเปลี่ยนรูปกระดูก เพราะการดัดประเดี๋ยวประด๋าวนั้น ไม่อาจช่วยให้รูปกระดูกเปลี่ยนแปลงได้
ข้อควรระวัง อาจจะเกิดการบาดเจ็บและเกิดการโค้งงอหรือการผิดรูปของกระดูกได้หากทำรุนแรง
15.ใส่กำไลข้อเท้าให้ลูกแข็งแรง
เชื่อว่า ให้เด็กใส่กำไลข้อเท้าหรือกระพรวนนั้นจะเกิดโชคลาภวาสนากับเด็กและครอบครัว
คุณหมอบอก ประโยชน์จริง ๆ ของการใส่กำไลหรือกระพรวนนั้น คือ การบอกว่าเด็กหลับอยู่หรือตื่นขึ้น หรือการบอกตำแหน่งของเด็ก เมื่อเด็กเคลื่อนที่ก็จะเกิดเสียงให้คุณพ่อคุณแม่ทราบว่าลูกอยู่ตรงไหน
ข้อควรระวัง หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุมีค่า เช่น ทองคำ เพราะอาจล่อตาล่อใจโจร และต้องคอยเปลี่ยนขนาดตามข้อเท้าเด็ก เพื่อไม่ให้เกิดการรัดข้อเท้าจนเกิดการบาดเจ็บ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.7 No.83 พฤศจิกายน 2554