ทารกตาแฉะ มีขี้ตาเยอะและน้ำตาไหลบ่อย เกิดจากอะไร จะอันตรายไหมในระยะยาว คุณพ่อคุณแม่ควรทำอย่างไรบ้าง มาส่องวิธีดูแลตาแฉะในทารกกัน

ลูกตาแฉะ มีขี้ตาเยอะ ทั้งที่ไม่ได้เกิดจากการร้องไห้ พบได้ในทารกแรกเกิดประมาณ 1-3 เดือนแรก ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เกิดความกังวลใจเป็นอย่างมาก และอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพดวงตาในทารกอย่าง ภาวะท่อน้ำตาอุดตัน ที่ไม่ควรมองข้าม วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอพาไปรู้จักสาเหตุและอาการทารกตาแฉะ พร้อมมีวิธีดูแลลูกน้อยให้หายตาแฉะในเร็ววันมาแนะนำกัน
ทารกตาแฉะ เกิดจากอะไร
อาการทารกตาแฉะ อาจเกิดจากพังผืดบริเวณท่อน้ำตาไม่เปิด ซึ่งเรียกว่าภาวะท่อน้ำตาอุดตัน โดยมักเกิดกับทารกแรกเกิดอายุ 1-3 เดือน เนื่องจากในช่วงนี้ต่อมน้ำตาของทารกยังไม่สามารถสร้างน้ำตาเองได้ และอาจเกิดจากท่อน้ำตาที่เชื่อมกับบริเวณจมูกเกิดภาวะผิดปกติ ทำให้ต่อมน้ำตาที่สร้างออกมาไม่สามารถระบายสู่โพรงจมูกได้ จึงเกิดการสะสมในถุงน้ำตาจำนวนมากจนลูกน้อยเกิดอาการตาแฉะ
อาการตาแฉะในทารก
คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการตาแฉะ ขี้ตาเยอะ หรือภาวะท่อน้ำตาอุดตันในลูกน้อย ได้ดังนี้
- ขี้ตามีลักษณะเป็นสีเขียว
- มีขี้ตาเยอะผิดปกติ
- มีน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลาทั้งที่ไม่ได้ร้องไห้
- อาจพบอาการอักเสบ บวมแดง ร่วมด้วย
วิธีดูแลทารกเมื่อมีอาการตาแฉะ
หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าทารกมีอาการตาแฉะ สามารถดูแลลูกน้อยเบื้องต้นด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- หมั่นทำความสะอาดบริเวณดวงตาให้ลูก วันละ 2-3 ครั้ง หรือเวลาที่ทารกตาแฉะ มีขี้ตาเยอะ ด้วยการใช้สำลีชุบน้ำอุ่นหรือน้ำเกลือเช็ดบริเวณดวงตาที่มีขี้ตาเบา ๆ โดยเช็ดจากหัวตาไปหางตาแล้วทิ้ง และนำสำลีใหม่ชุบน้ำอุ่นหรือน้ำเกลือแล้วเช็ดอีกครั้ง จากนั้นใช้ผ้าสะอาดซับรอบดวงตาให้แห้ง
- นวดบริเวณหัวตาลูก โดยใช้นิ้วชี้กดที่หัวตาบริเวณระหว่างหัวตากับสันจมูก แล้ววนนิ้วลงเบา ๆ เพื่อสร้างแรงกดไปดันพังผืดที่ปิดรูทางออกของท่อน้ำตาให้เปิดออก นวดอย่างน้อยวันละ 3 รอบ รอบละ 20-30 ครั้ง

อาการเด็กตาแฉะ พบได้บ่อยในทารกแรกเกิด ซึ่งหากพบว่าลูกมีอาการตาแฉะ สามารถเช็ดทำความสะอาดและนวดเปิดท่อน้ำตาได้ตามคำแนะนำเบื้องต้น แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้นควรไปพบจักษุแพทย์ในทันที เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบจนถึงขั้นติดเชื้อรุนแรง
ขอบคุณข้อมูลจาก : phyathai.com, paolohospital.com