ลูกรักเรียนรู้เพิ่มต้องเสริมจินตนาการ (Mother & Care)
Super brain มอร์นิ่งกลอรี่
คุณแม่ทราบดีว่าการเรียนรู้ของสมองลูกน้อย จะเกิดขึ้นได้อย่างเต็มศักยภาพ ก็ต่อเมื่อได้รับการส่งเสริมให้ลูกน้อยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการอย่างเต็มที่โดยไม่มีขีดจำกัด ไม่ควบคุมบังคับ หรือห้ามไม่ให้ได้เล่น ได้ทดลอง ได้สำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบข้างอย่างเข้มงวด แต่ต้องเปิดโอกาสให้ลูกน้อยได้ใช้ความคิดของสมองอย่างไม่หยุดยั้ง กับข้อแนะนำเหล่านี้ค่ะ
วัย 1-2 ปี เสริมจินตนาการ
หมั่นตั้งคำถาม โดยถามลูกว่า "นี่อะไร" ให้ลูกตอบบ่อย ๆ เพื่อกระตุ้นหรือฝึกการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของลูก ชวนลูกร้องเพลง โดยร่วมร้องไปกับลูก เพื่อสร้างอารมณ์สุนทรีย์ที่เป็นพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์ อ่านคำคล้องจอง โดยอ่านคำหรือบทกลอนให้ลูกฟังบ่อย ๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้คำและความหมายของคำ เล่านิทานก่อนนอน โดยหานิทานที่มีเนื้อหาสั้น ๆ มีคำน้อย ๆ มาอ่านให้ลูกฟัง พร้อมพูดคุยถึงเรื่องในนิทาน ชี้บอกอวัยวะ โดยสอนหรือแนะนำให้ลูกรู้จักอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เพื่อให้ลูกรู้จักหน้าที่ เช่น ปากมีไว้กินมือมีไว้จับ ขามีไว้เดิน หรืออื่น ๆ เล่นเกมฝึกความคิด โดยบอกให้หยิบของตามคำสั่ง เช่น "หยิบนมกล่องที่อยู่บนโต๊ะได้ไหมจ๊ะน้องโบ" "หนูคิดว่าต้นไม้มีสีอะไรได้บ้างจ๊ะ" เพื่อฝึกการใช้ภาษา และการใช้จินตนาการและความคิดที่เชื่อมโยงกับสิ่งของต่าง ๆ ทำท่าประกอบ โดยทำกิจกรรมร้องเพลงที่เกี่ยวกับร่างกาย แล้วทำท่าทางประกอบ เช่น "นิ้วโป้งอยู่ไหน...ๆ อยู่นี่จ๊ะ" เพื่อฝึกการใช้ภาและเรียนรู้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ฟังเสียงปริศนา โดยให้ลูกฟังเสียงนอกบ้าน แล้วเล่นทายกับลูกว่ามีเสียงอะไรบ้าง เช่น เสียงไก่ชัน เสียงรถยนต์เสียงเครื่องบิน ระฆังหรืออื่นๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ของเสียต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกวัย 2-3 ปี เสริมจินตนาการ
ศิลปะสร้างสรรค์ โดยสอนให้ลูกวาดวงกลม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หรืออื่น ๆ พร้อมให้วาดภาพระบายสี เมื่อลูกวาดเสร็จควรชมเชยให้กำลังใจ หรือแสดงความชื่นชม ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้รูปทรงเรขาคณิตแล้ว ยังช่วยให้ลูกรู้สึกภูมิใจด้วย แนะนำโลกรออบตัว โดยชี้ให้ลูกเห็นสิ่งต่าง ๆ แล้วเรียกชื่อสิ่งนั้นให้ฟัง เช่นสิ่งของในบ้าน สิ่งที่อยู่บนถนน สิ่งที่อยู่บนท้องฟ้า เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ รวมทั้งประสบการณ์ต่าง เกี่ยวกับสิ่งที่อยู่รอบตัว หมั่นตอบอย่างตั้งใจ โดยสนใจตอบคำถามลูกทุกครั้งที่ลูกถาม แม้จะถามซ้ำไปซ้ำมา ก็ควรตอบด้วยความใจเย็นอดทน ถ้าตอบไม่ได้ให้ชักชวนลูกไปห้องสมุดหรือไปร้านหนังสือ เพื่อค้นหาคำตอบด้วยกัน และเพื่อเป็นการฝึกการใช้ความคิดและการค้นหาคำตอบใหม่ ๆ ด้วยค่ะ เล่นสนุกกับลูกเสมอ โดยใช้โทศัพท์ของเล่นพูดจาโต้ตอบกัน เพื่อฝึกการใช้ภาษาพูด หรือเล่นจิ๊กซอว์กับลูกหรือให้ลูกปั้นดินน้ำมันตามจินตนาการ เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สร้างความภูมิใจให้ลูก โดยชื่นชมเมื่อลูกช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น ใส่เสื้อผ้า กลัดกระดุม อาบน้ำ แปรงฟัน หรืออื่น ๆ แม้จะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อลูกจะได้รู้สึกภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้ กระตุ้นความคิดด้วยเสียง โดยให้ลูกฟังเสียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้าน แล้วถามเพื่อกระตุ้นให้ลูกตอบว่าได้ยินเสียงอะไรบ้าง เช่น เสียงน้ำไหล เสียงนาฬิกา เสียงประตูเปิด-ปิด เสียสะบัดเสื้อ หรือจะให้ลูกเล่นหนังสือที่มีปุ่มเมื่อกดแล้วเกิดเสียง มีเสียงบอกคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ เพื่อฝึกให้ลูกรู้จักใช้ภาษา รู้จักแยะแยะเสียงต่าง ๆ ฝึกลูกช่วยเหลือตัวเอง โดยไม่จัดเตรียมทุกอย่างให้ลูกทั้งหมด เพื่อไม่ให้ลูกทำสิ่งใดที่เป็นการช่วยเหลือตัวเอง จะทำให้ลูกไม่ได้พบเจอปัญหา ไม่ได้เรียนรู้ที่จะใช้จินตนาการความคิดสร้างสรรค์ เพราะมีคนคอยแก้ไขให้ทุกอย่างแล้ว มีการศึกษาพบว่า เด็กที่ไม่ได้ถูกฝึกให้ช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน มีแนวโน้มว่าเมื่อโตขึ้นมาจะแก้ไขปัญหาได้ช้า และมีจินตนาการความคิดสร้างสรรค์น้อยลงไปด้วยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.7 No.77 พฤษภาคม 2554
