คุณพ่อคุณแม่หลายคนกังวลและไม่กล้าพา เด็กทารกว่ายน้ำ เพราะคิดว่าตัวเล็กขนาดนี้ไม่น่าจะฝึกว่ายน้ำได้ แต่จริง ๆ แล้ว เด็กทารกสามารถฝึกว่ายน้ำได้ตั้งแต่อายุ 3 เดือนค่ะ เนื่องจากเขายังคุ้นชินกับการอยู่ในน้ำคร่ำเหมือนตอนที่อยู่ในท้องแม่ จึงทำให้เด็กวัยนี้เรียนรู้การลอยตัวในน้ำได้เร็ว ที่สำคัญยังเป็นการบริหารกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นฐานการเคลื่อนไหวร่างกายที่ดี และยังกระตุ้นให้สมองเกิดการพัฒนาที่ดีอีกด้วย
1. ไม่ควรให้ลูกเล่นน้ำช่วงเวลา 10.00 - 16.00 น. เพราะเป็นช่วงที่แดดร้อนจัด แสงสะท้อนจากแดดรุนแรง อาจทำให้ผิวลูกไหม้ได้
2. เด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน ไม่ควรลงสระคลอรีน เพราะจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง แพ้เป็นผื่นแดงได้ จึงควรเลือกที่เป็นสระน้ำเกลือ หรือสระโอโซนดีกว่า
3. ครั้งแรกที่พาลูกลงสระ ไม่ควรให้ลูกอยู่ในสระนานเกิน 10 นาที และเริ่มจากการเอาน้ำค่อย ๆ ลูบตัว เอาขาจุ่ม แล้วค่อย ๆ อุ้มพาลงทั้งตัว เพื่อให้เขาได้ปรับตัวกับการลงน้ำครั้งแรก และไม่ร้องไห้ตกใจกลัวเวลาสัมผัสน้ำ
4. ทาโลชั่นบำรุงผิวก่อนลงเล่นน้ำ เพราะการแช่ในน้ำจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ และทำให้ผิวลูกแห้งเป็นขุย เกิดผิวแห้งแตกและคัน กลายเป็นผื่นผิวหนังตามมาได้
5. ควรมีผู้เชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำ หรือคุณพ่อคุณแม่ต้องอยู่ใกล้ชิดลูกทุกครั้งเวลาลงเล่นน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกจมหรือสำลักน้ำได้
ถ้าระวังเรื่องเหล่านี้ครบแล้ว ก็พาลูกน้อยลงสระ ฝึกว่ายน้ำกันได้เลยค่ะ
ประโยชน์ ของการพาลูกวัยขวบปีแรกฝึกว่ายน้ำ
การพาลูกน้อยมาฝึกว่ายน้ำตั้งแต่อายุไม่กี่เดือน จะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
1. เพิ่มทักษะการทรงตัว
การว่ายน้ำจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแขน ขา ลำตัว และยังได้บริหารกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายด้วย ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการควบคุมการทรงตัว แล้วทักษะนี้มีประโยชน์อย่างไร ก็คือหากเด็ก ๆ มีทักษะการทรงตัวที่ดี จะช่วยให้สมองทำงานประสานกับการรับรู้ของร่างกายได้ดี มีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วว่องไว มีไหวพริบดี กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง ส่งผลให้ลูกน้อยมีพัฒนาการการเดินอย่างเหมาะสม ก้าวเดินได้อย่างมั่นคง และกล้าที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้
2. เสริมสร้างสมาธิ
การว่ายน้ำจะช่วยให้เด็ก ๆ มีสมาธิ จากการต้องตั้งใจฟังและปฏิบัติตามคำสั่ง ทำให้สมองถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลาและมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาและการจดจำได้อย่างดี เป็นพื้ฐานที่ทำให้ลูกน้อยเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่
3. กล้ามเนื้อแข็งแรง
การอยู่ในน้ำทำให้เด็ก ๆ ต้องออกแรงกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ มากกว่าเวลาอยู่บนบก จึงทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่แข็งแรง ส่งผลให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย นั่ง คลาน ยืน เดิน ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้ฝึกว่ายน้ำ
4. อารมณ์ดี นอนหลับสบาย
อากาศร้อน ๆ แบบนี้ การได้ไปว่ายน้ำจะช่วยปรับให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลง เด็ก ๆ จะรู้สึกเย็นสบาย ได้ผ่อนคลาย หัวเราะชอบใจอารมณ์ดี ช่วยในเรื่องของการปรับตัวกับสภาพอากาศได้ดี และส่งผลให้นอนหลับสบายตลอดคืน ทำให้โกรทว์ฮอร์โมนเกิดการหลั่งที่ดี ร่างกายจึงเจริญเติบโตสมวัย และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
การว่ายน้ำ ทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้การเข้าสังคมอย่างเหมาะสม เพราะต้องเจอทั้งครูสอน เพื่อน ๆ ที่มาเรียน คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อน ๆ ทำให้เกิดการปรับตัวได้ดี และเรียนรู้ทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดีด้วย
6. กระตุ้นจินตนาการ
เนื่องจากการว่ายน้ำ เด็ก ๆ ได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระ รู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้ ทำให้เกิดจินตนาการว่าตัวเองเป็นปลา เป็นหงือก ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้สมองเกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
7. ช่วยพัฒนาทักษะการเอาตัวรอด
เมื่อโตขึ้นแล้วเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ จะทำให้เด็ก ๆ มีทักษะการเอาตัวรอดจากการตกน้ำได้ ไม่กลัวน้ำ ทำให้มีสติ ไม่ตื่นตกใจ และสามารถแก้ปัญหาให้ตัวเองรอดจากการตกน้ำมาได้
8. เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว
การพาเด็ก ๆ มาฝึกว่ายน้ำ เป็นการที่ครอบครัวได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่มีส่วนร่วมในการช่วยลูกฝึกว่ายน้ำ ได้พูดคุยกัน เกิดความไว้วางใจ ทำให้เกิดความรักความผูกพันธ์ในครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม
ข้อมูลจาก : healthline.com, taamkru.com, familypoolday.lnwshop.com
