อาการคัดจมูกในเด็กนั้นอาจเกิดจากสภาพอากาศที่แห้ง มีสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอยู่ในจมูก เช่น ฝุ่นควัน ขนสัตว์ ละอองเกสร น้ำหอม แป้งฝุ่น เป็นต้น เมื่อลูกน้อยเกิดอาการนี้แล้ว แน่นอนว่าคุณแม่มือใหม่อาจเกิดความกังวลใจไม่น้อย เมื่อเห็นเบบี๋มีอาการไม่สบายตัวเนื่องจากหายใจไม่ออก เพราะจมูกเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ของเบบี๋นี่แหละค่ะทำให้คุณแม่หลายคนเกิดอาการประหม่าทุกครั้งที่คิดจะทำความสะอาดจมูกลูกด้วยตัวเอง ทั้งกลัวลูกจะเจ็บ กลัวจะทำให้ลูกเลือดตกยางออก กลัวว่าจะทำไม่ถูกวิธี วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีการทำความสะอาดจมูกให้เจ้าตัวน้อยที่ถูกต้องมาฝากกันค่ะ รับรองทำตามนี้แล้วจะช่วยคลายความกังวลและสร้างความมั่นใจของคุณแม่ได้ด้วยค่ะ
ใช้คอตตอนบัดที่มีขนาดเล็กชุบน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ เช็ดทำความสะอาด ถ้าไม่มีคอตตอนบัดให้ใช้สำลีพันปลายไม้ที่ไม่แหลมแทน ระวังเวลาเช็ดทำความสะอาดอย่านำปลายคอตตอนบัดเข้าไปลึกมาก เพราะอาจจะทำลายเยื่อบุโพรงจมูก และเบบี๋จะรู้สึกเจ็บแน่นอนค่ะ
2. ลูกยางดูดน้ำมูก
อุปกรณ์ที่ใช้ก็มีแค่ลูกยางดูดน้ำมูกและน้ำเกลือซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไปค่ะ เพียงแค่จัดท่าให้เบบี๋นอนหงายโดยให้ศีรษะยกสูงเพื่อป้องกันการสำลัก หยดน้ำเกลือในรูจมูกข้างละ 2-3 หยด รอสักครู่ จากนั้นบีบลูกยางดูดน้ำมูกเพื่อให้ลมออก(อย่าเพิ่งปล่อยมือ) นำลูกยางใส่ในรูจมูกแล้วปล่อยมือเพื่อให้แรงลมดูดน้ำมูกออกมา บีบน้ำมูกในลูกยางทิ้งและทำซ้ำกันจนกว่าน้ำมูกจะหมด
หากลูกมีขี้มูกที่ค่อนข้างแห้ง ให้หยดน้ำเกลือในรูจมูกประมาณ 2-3 หยดก่อนนะคะ จากนั้นนำปลายหัวดูดใส่ในรูจมูก กดปุ่ม เครื่องก็ทำการดูดน้ำมูกออกมาค่ะ วิธีนี้ก็สะดวกและใช้งานง่ายค่ะ
4. ใช้ปากคุณแม่ดูดน้ำมูก
ไม่ต้องแปลกใจค่ะ วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้กันมาตั้งแต่รุ่นแม่รุ่นยายกันแล้วค่ะ คุณแม่เพียงแค่ใช้ปากดูดน้ำมูกออกมา แต่ต้องระวังเรื่องความสะอาดและเชื้อโรคกันเป็นพิเศษนะคะ
ทั้งนี้การหนุนหัวลูกให้สูงขึ้นเวลานอนก็เป็นอีกวิธีการนึงที่จะทำให้ลูกน้อยหายใจได้สะดวกขึ้น ไม่ควรนอนหงายในลักษณะที่ระดับศีรษะกับลำตัวเท่ากัน
เวลาผู้ใหญ่อย่างเราป่วยไม่สบาย คัดจมูกหรือมีขี้มูก เรายังสามารถสั่งน้ำมูกหรือทำความสะอาดจมูกเองได้ แต่เด็กแรกเกิดหรือเด็กอ่อนนั้นยังไม่สามารถทำได้ ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือหมั่นสังเกตอาการหรือสิ่งผิดปกติของลูกน้อยอยู่เสมอ และนำวิธีที่นำเสนอไปลองใช้กันนะคะ แค่นี้ก็จะช่วยให้คุณเป็นซุปเปอร์มัมเลี้ยงลูกได้อย่างมั่นใจหายห่วงแล้วค่ะ
ข้อมูลจาก : momjunction.com และ parents.com