เด็กวัยเรียนเป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตและสามารถซื้ออาหารกินเองได้ ดังนั้นจึงมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้องก่อให้เกิดฟันผุ วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีเกร็ดความรู้การดูแลสุขภาพอนามัยทางช่องปากและฟันจากนิตยสาร Mother&Care สำหรับลูกในวัยเรียนมาแนะนำ รวมทั้งการดูแลและป้องกันปัญหาฟันผุ พร้อมแล้วไปดูคำแนะนำดี ๆ กันเลย ^^
ตามข้อมูลกรมอนามัย พบว่าเด็กไทยในวัยเรียนช่วงอายุระหว่าง 5-12 ปี มีปัญหาฟันผุกว่าครึ่ง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเด็กในวัยนี้ชอบกินขนมขบเคี้ยวและดื่มน้ำอัดลม เป็นสาเหตุของปัญหาฟันผุ เพราะมีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาลสูงรู้ถึงสาเหตุกันแล้วมาเรียนรู้วิธีปกป้องดูสุขภาพฟันลูกน้อย ก่อนจะสายเกินแก้กันดีกว่า
รู้ทันสื่อ
การบริโภคอาหารแป้งและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงนี้ นอกจากจะมีกลิ่น รสชาติ และสีสันที่ชวนกินแล้ว การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งในการสร้างความนิยมให้แก่ผู้บริโภคที่เป็นเด็กวัยเรียนอย่างมาก เพราะเด็กในช่วงวัยดังกล่าว สามารถรับสื่อโฆษณาเหล่านี้ได้ง่าย เนื่องจากโฆษณาจะทำมาเพื่อเด็กโดยตรงแล้วยังมีช่วงเวลาออกอากาศที่ตรงกับเวลาว่างของเด็ก พฤติกรรมการบริโภคเช่นนี้ นอกจากจะก่อให้เกิดฟันผุแล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคอ้วนปัญหาสำคัญของเด็กในปัจจุบัน
ขณะที่มีเด็กจำนวนน้อยที่ผู้ปกครองให้ความสนใจในการรักษาความสะอาดในช่องปากและสอนเด็กให้สามารถแปรงฟันได้อย่างถูกวิธี เนื่องจากไม่ได้เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากในเด็ก เพราะมักมีความเข้าใจว่าสามารถรอให้โตก่อนจึงค่อยให้ความสำคัญ
ป้องกันปัญหาฟันผุ
นอกจากเรื่องฝันผุแล้ว ยังเกิดโรคทางช่องปากอื่น ๆ ได้ ดังนั้น การดูแลสุขภาพฟันของเด็กในวัยนี้ต้องอาศัยความเอาใจใส่อย่างมากจากพ่อแม่ และผู้ปกครอง เช่น
ดูแลสุขภาพปากและฟันของคุณพ่อคุณแม่เองอย่างดี ให้ลูกเห็นว่า สุขภาพปากและฟันเป็นสิ่งที่มีค่า
อะไรก็ตามที่ช่วยให้ลูกรู้สึกว่า การดูแลสุขภาพปากและฟันเป็นเรื่องสนุก เช่น การแปรงฟันไปด้วยกัน การให้ลูกเลือกแปรงสีฟันด้วยตนเอง ก็เป็นการสนับสนุนการดูแลสุขภาพปากและฟันอย่างเหมาะสม
โดยเฉพาะแปรงสีฟันสำหรับเด็ก ๆ นั้น ควรมีขนที่อ่อนนุ่มและใช้ร่วมกับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และที่สำคัญควรคอยดูแลไม่ให้กลืนยาสีฟัน
หมอฟัน ก็สำคัญนะ
การไปพบทันตแพทย์ เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใหญ่มักจะมองข้าม ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วควรฝึกให้เด็กมีความคุ้นเคยกับการไปพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด และทันตแพทย์จะสามารถประเมินสภาพช่องปากและฟันได้ว่า ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ เช่น ทันตแพทย์จะประเมินว่าเด็กคนนั้น ๆ จะต้องได้รับการเคลือบร่องฟันเพื่อป้องกันฟันผุ โดยวัสดุเคลือบร่องฟันเป็นพลาสติกเคลือบบาง ๆ ที่จะนำไปเคลือบฟันที่ใช้บดเคี้ยวอาหาร ซึ่งจะเป็นบริเวณที่เกิดฟันผุได้บ่อย การเคลือบร่องฟันเป็นขั้นตอนที่ไม่เจ็บ และทำเสร็จได้ในครั้งเดียวที่พบทันตแพทย์
นอกจากนี้ การไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ เป็นการสร้างสุขภาพอนามัยทางช่องปากที่ดีให้กับเด็ก ๆ ช่วยลดปัญหาในช่องปากที่จะนำไปสู่โรคอื่น ๆ ที่จะตามมาภายหลังด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก