17 วิธีทายเพศลูกในครรภ์ ท้องนี้ลูกสาวหรือลูกชาย มาดูกัน !

          ทายเพศลูก ท้องนี้จะได้ลูกสาวหรือลูกชาย มาลองทำนายเพศลูกน้อยด้วยวิธีง่าย ๆ กัน แค่ดูว่าคุณแม่ตั้งครรภ์มีสัญญาณบ่งบอกอะไรบ้าง ขอบอกว่าบางวิธีแม่นกันมาตั้งแต่โบราณเลยเชียวล่ะ


          วันนี้กระปุกดอทคอมเลยอยากชวนคุณมาลองทำนายเพศลูกน้อยในครรภ์กัน จะแม่นไม่แม่นไม่รู้ แต่รับรองว่าสนุกแน่นอน

1. ทายเพศลูกจากหน้าตาของแม่

          ตามความเชื่อของคนโบราณ ถ้าระหว่างตั้งท้อง คุณแม่ดูหน้าโทรม มีสิวขึ้น ผิวไม่เปล่งปลั่งสดใส แถมเส้นผมลีบแบนไปอีก แสดงว่าจะได้ลูกสาว เพราะลูกแย่งความสวยไปจากแม่ แต่ถ้าคุณแม่คนไหนยังหน้าใสสวยเด้ง ผิวพรรณมีน้ำมีนวล เส้นผมดูหนามันวาว ก็มักจะได้ลูกชาย

2. ทายเพศลูกจากรสชาติที่แม่ชอบ

          เราอาจจะเคยได้ยินมาว่าผู้หญิงท้องมักจะชอบกินของเปรี้ยว ๆ แต่ก็ไม่เสมอไปนะคะ เพราะถ้าคุณแม่ชอบอาหารหวาน ๆ เป็นพิเศษ อย่างพวกขนมเค้ก ทายได้เลยว่าคุณจะได้ลูกสาว แต่ถ้าช่วงนั้นชอบอาหารคาวที่มีรสเค็มละก็ มีแววว่าจะได้ลูกชายแล้วล่ะ

3. ทายเพศลูกจากการแพ้ท้อง

          วิธีนี้เขามีการวิจัยมาแล้วด้วยนะว่าสำหรับคุณแม่ที่แพ้ท้องหนักมาก บางรายแพ้ยาวจนเกือบคลอดเลย  เหล่านี้มักจะได้ลูกสาว ส่วนคุณแม่ที่ไม่ค่อยแพ้ท้องหรือไม่แพ้เลยมักจะได้ลูกชาย ซึ่ง Dr.Michael Swiet จากสถาบันสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาในกรุงลอนดอน อธิบายว่า การแพ้ท้องเกิดมาจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป หากคุณได้ลูกสาว ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนต่างชนิดออกไป จึงอาจเป็นสาเหตุให้แพ้ท้องอย่างรุนแรงนั่นเอง


          มาลองสังเกตรูปร่างท้องของคุณแม่กันดีกว่า เช็กว่าถ้าท้องมีลักษณะแหลมต่ำลงด้านล่าง ทายว่าอาจจะได้ลูกชาย แต่ถ้าท้องมีความกลมป้านขึ้นด้านบน อาจจะได้ลูกสาวค่ะ แต่ในทางหลักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าลักษณะของท้องคุณแม่ที่ปรากฏออกมา ขึ้นอยู่กับความตึงของกล้ามเนื้อของเด็ก ไม่เกี่ยวกับเพศ แต่ถึงอย่างนั้นก็ลองทายขำ ๆ กันได้

5. ทายเพศลูกจากขนาดหน้าอก

          การส่องกระจกดูขนาดหน้าอกก็ทำนายเพศลูกได้เหมือนกันนะ ถ้าคุณแม่คนไหนรู้สึกว่าหน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แปลว่ากำลังจะได้ลูกสาว แต่ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก รวมถึงหากหน้าอกข้างขวาใหญ่กว่าข้างซ้าย ก็แสดงว่าเบบี้ในท้องอาจจะเป็นผู้ชาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะทารกเพศชายทำให้ร่างกายคุณแม่มีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงขึ้น ซึ่งจะไปควบคุมฮอร์โมนของคุณแม่ ทำให้หน้าอกขยายได้ไม่เต็มที่

6. ทายเพศลูกจากฝ่ามือ

          คราวนี้ลองก้มดูมือตัวเองกันค่ะ ถ้าเห็นว่ามือแห้งกร้าน มีรอยแตก ก็มีโอกาสที่จะได้ลูกชายมากกว่า แต่ถ้ามือนุ่ม เชื่อว่าท้องนี้จะได้ลูกสาว

7. ทายเพศลูกจากท่านอนหลับของคุณแม่

          ข้อนี้อาจให้คุณพ่อช่วยสังเกตด้วย เพราะถ้าคุณแม่มักจะนอนหลับไปด้วยท่าตะแคงซ้าย ตามตำราบอกว่าน่าจะได้ลูกชาย แต่หากท่านอนสุดโปรดของคุณแม่คือตะแคงขวา คุณพ่อเตรียมไว้หนวดได้เลยค่ะ เพราะอาจจะเป็นลูกสาว

8. ทายเพศลูกจากความฝัน

          คุณแม่หลาย ๆ คน ก่อนจะตั้งท้องอาจเคยฝันว่าได้ของมีค่า เวลาฝันแบบนี้ โบราณเขาว่าถ้าได้ครอบครองแก้วแหวนเงินทองหรือเครื่องประดับ มักจะได้ลูกสาว ส่วนถ้าฝันว่าได้ของที่เป็นสิริมงคล เช่น พระ จะได้ลูกชายค่ะ

9. ทายเพศลูกจากเมล็ดข้าวสาร

          วิธีนี้เขาว่าแม่นนะ ว่าไป ! แค่ให้คุณแม่ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้หยิบเมล็ดข้าวสารขึ้นมาจำนวนหนึ่งแล้วลองนับดู ถ้านับได้เลขคู่ แปลว่าจะได้ลูกสาว แต่ถ้าได้เลขคี่ก็จะได้ลูกชาย ง่าย ๆ แบบนี้เลย

10. ทายเพศลูกจากอาการป่วยของสัตว์เลี้ยง

          บ้านไหนมีสัตว์เลี้ยงอยู่ ลองวิธีนี้ก็ได้นะคะ ในช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ ถ้ามีสัตว์เลี้ยงในบ้านป่วย แสดงว่าจะได้ลูกสาว แต่ถ้าสัตว์เลี้ยงในบ้านไม่มีอาการป่วยให้เห็น ก็เตรียมตัวต้อนรับเบบี้บอยได้เลย

11. ทายเพศลูกจากการแกว่งเข็ม

          อีกวิธีแบบโบราณที่น่าลอง ให้คุณแม่ร้อยเข็มโดยใช้ด้ายยาวพอประมาณ แล้วถือส่วนปลายสุดของด้ายไว้เหนือชีพจร ถ้าเข็มหมุนเป็นวงกลมจะได้ลูกชาย แต่ถ้าแกว่งขึ้น-ลง จะได้ลูกสาวค่ะ

12. ทายเพศลูกจากการโยนแหวน

          ลองโยนแหวนเบา ๆ ให้ตกลงบนท้องดู ถ้าแหวนกลิ้งลงด้านข้างแสดงว่าจะได้ลูกสาว แต่ถ้าท้องลูกผู้ชาย แหวนจะตกลงบนหน้าท้องแล้วไม่กลิ้งออกไปไหน ข้อนี้อาจเชื่อมกับรูปร่างของท้องด้วยค่ะ แต่ระวังนิดนึง อย่าโยนแหวนสูงเกินไป เดี๋ยวแหวนหายไม่รู้ด้วยนะ

13. ทายเพศลูกจากอัตราการเต้นของหัวใจ

          ถ้าวันไหนได้ไปหาคุณหมอ ลองถามดูสิว่าอัตราการเต้นของหัวใจลูกเป็นอย่างไรบ้าง เพราะถ้าอัตราการเต้นของหัวใจเด็กต่ำกว่า 140 ครั้งต่อนาที แสดงว่าคุณอาจอุ้มท้องเด็กชายอยู่ แต่ถ้ามีอัตราการเต้นของหัวใจเร็วกว่า 140 ครั้งต่อนาทีละก็ อาจจะเป็นลูกสาวก็เป็นได้

14. ทายเพศลูกจากปัสสาวะ

          ตอนคุณแม่เข้าห้องน้ำ สังเกตลักษณะของปัสสาวะดูก็ได้นะ ถ้าปัสสาวะของคุณมีลักษณะใส แสดงว่าอาจจะได้ลูกชาย แต่ถ้าปัสสาวะมีลักษณะสีเหลืองขุ่น ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นลูกสาวค่ะ แต่ทั้งนี้สีของปัสสาวะก็ขึ้นอยู่กับระดับน้ำในร่างกาย และขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารบางชนิดของคุณแม่ด้วย

15. ทายเพศลูกจากกระหล่ำปลีสีม่วง

          มาถึงวิธีทดสอบแบบง่าย ๆ กันแล้วค่ะ ซึ่งการทดลองนี้ก็ฮิตในหมู่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เช่นกัน โดยอาศัยการแปลผลจากสารแอนโทไซยานินในกะหล่ำปลีสีม่วง ซึ่งจะทำปฏิกิริยากรดด่างกับปัสสาวะของแม่ตั้งครรภ์ แต่ว่าจะสามารถทำได้เมื่ออายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และมีความแม่นยำถึง 70% เลยล่ะ มาดูวิธีทำกันค่ะ

          - นำกะหล่ำปลีม่วงมาลอกเอาเปลือกชั้นนอกออก ใช้แต่ช่วงที่สีม่วงเข้ม ๆ ประมาณ 10 ใบ หั่นแบบหยาบ ๆ ใส่หม้อเติมน้ำลงไปให้ท่วม แล้วตั้งไฟกลางจนเดือด ต้มประมาณ 10 นาที ปิดไฟแล้วทิ้งไว้ให้หายร้อน

          - ให้คุณแม่ไปเก็บปัสสาวะ แยกเป็น 2 ถ้วย โดยใช้ปริมาณเท่ากันทั้ง 2 ถ้วย จากนั้นนำน้ำกระหล่ำปลีที่เย็นแล้ว ใส่ลงไปในถ้วยปัสสาวะ

ผลการทดสอบ

          - ถ้าน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือชมพู ทำนายว่าจะได้ "ลูกชาย"

          - ถ้าน้ำมีสีคงเดิมไม่เปลี่ยน ทำนายว่าจะได้ "ลูกสาว"

16. ทายเพศลูกจากการทดสอบเบกกิ้งโซดา

          เริ่มทดลองกันสนุกแล้ว มาดูอีกวิธีกันเลย วิธีทดสอบมีดังนี้

          - ใช้เบกกิ้งโซดา 1-2 ช้อนโต๊ะ ใส่แก้วหรือภาชนะที่เตรียมไว้

          - นำปัสสาวะของคุณเทลงไป (แนะนำให้ใช้ปัสสาวะในตอนเช้า) แล้วรอสักพัก

ผลการทดสอบ

          หากมีฟองฟู่พุ่งขึ้นมา แสดงว่าคุณได้ลูกชาย แต่ถ้าไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแสดงว่าได้ลูกสาว

17. ทายเพศลูกจากโปรแกรมทํานายตามตำราจีน

          วิธีทำนายเพศลูกในท้องจากตำราจีนโบราณ ซึ่งคุณแม่หลาย ๆ คนที่เคยทดสอบยังบอกว่าแม่นยำมาก ๆ ประมาณ 90% เลยทีเดียว ซึ่งวิธีการก็ไม่ยากเลย เพราะตอนนี้มีโปรแกรมสำเร็จรูปมาให้ลองทำ แค่คลิกไปที่เว็บนี้ โปรแกรมทำนายเพศลูกในครรภ์

          - ใส่อายุของคุณแม่ตอนตั้งครรภ์

          - เลือกเดือนที่เริ่มปฏิสนธิ (เดือนที่มีเพศสัมพันธ์และอยู่ในช่วงวันตกไข่)

          - กดปุ่มทำนาย รอลุ้นผลได้เลย

          ถ้าอยากรู้เพศลูกน้อยในท้องแบบชัวร์ ๆ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถพึ่งวิทยาการทางการแพทย์อย่างตรวจโครโมโซม เจาะน้ำคร่ำ ตลอดจนการอัลตราซาวด์ ซึ่งจะแม่นยำกว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าใครลองทายเพศเจ้าตัวน้อยจากวิธีที่เรานำมาฝากแล้ว อย่าลืมมาแชร์กันด้วยนะคะว่าวิธีไหนได้ผลตรงเผงที่สุด


ขอบคุณข้อมูลจาก : maerakluke.com, healthymummy.com