เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คุณแม่มะกันเริ่มนิยมคลอดลูกเองที่บ้านมากขึ้น เมินทำคลอดที่โรงพยาบาล เพราะไม่ต้องการผ่าตัด
เมื่อท้องแก่ใกล้คลอด คุณแม่หลาย ๆ คนก็เริ่มเตรียมตัวเตรียมของใช้แพ็กไว้ให้พร้อมหิ้วไปโรงพยาบาลได้ทันทีเมื่อเจ็บท้องคลอด แต่ในปัจจุบันคุณแม่หลาย ๆ คนกลับเมินการทำคลอดที่โรงพยาบาล และหันไปนิยมการคลอดลูกที่บ้าน หรือ home birthing กันมากขึ้น โดยในปัจจุบัน อเมริกามีสถิติคุณแม่เลือกคลอดลูกเองที่บ้านพุ่งขึ้นสูงที่สุดในรอบ 40 ปี ทีเดียว
วันที่ 3 มีนาคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยการสำรวจจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ว่าด้วยการคลอดลูกที่บ้าน ที่คุณแม่ชาวอเมริกันเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีสถิติสูงที่สุดในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา (คุณแม่ 35,000 รายคลอดลูกเองที่บ้าน และมีศูนย์ทำคลอดธรรมชาติเปิดขึ้นมาอีก 16,000 แห่ง) แม้ว่าจะนับเป็นแค่ 1% กว่า ๆ ของสัดส่วนคุณแม่ทั่วประเทศก็ตาม
ฟังดูแล้วออกจะขัดกับความคิดที่ว่า ประเทศที่มีความพร้อมทางการแพทย์และสูตินรีเวชขนาดนี้ บรรดาแม่ ๆ ไม่น่าจะลังเลเลยที่เลือกทำคลอดที่โรงพยาบาล เพราะคุณแม่จะได้อยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่กลับปรากฏว่า เริ่มมีคุณแม่แตกแถวไปหาวิธีดั้งเดิมอย่างการคลอดลูกที่บ้าน โดยมีแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล หรือคลอดตามศูนย์ทำคลอดมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า ต้องการคลอดลูกโดยเบ่งคลอดธรรมชาติ ไม่ใช่การผ่าคลอดอย่างที่สูตินรีแพทย์ในโรงพยาบาลนิยมทำกัน
ทั้งนี้ สัดส่วนของคุณแม่ในปัจจุบันที่หันไปหาวิธีคลอดลูกที่บ้าน คิดเป็น 1 ใน 29 คน สำหรับคุณแม่อเมริกันผิวขาว และ 1 ใน 200 คน สำหรับคุณแม่อเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิก ผิวสี และเอเชีย ดังจะเห็นได้ว่าชาวอเมริกันผิวขาวนิยมคลอดลูกเองที่บ้านมากกว่าเชื้อชาติอื่น ๆ เสียอีก
ทั้งนี้ การทำคลอดเองที่บ้านกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่คุณแม่ที่ให้ความสำคัญกับบรรยากาศในการคลอดลูก คือต้องการบรรยากาศการทำคลอดที่เป็นส่วนตัวและอบอุ่น ในสถานที่ที่คุ้นเคย นอกจากนี้สำหรับคุณแม่ที่สุขภาพครรภ์แข็งแรงดี การเบ่งคลอดทารกเองยังดีต่อสุขภาพของลูกน้อยมากกว่าด้วย
