สาว ๆ ที่อยากมีลูกแต่ทำยังไงก็ไม่ท้องสักที อย่างเพิ่งกังวลใจไป เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมี อาหาร 8 อย่างมาแนะนำที่กินแล้วช่วยกระตุ้นให้ไข่ตกและปลอดภัยต่อคุณสาว ๆ มาฝากกันค่ะ ว่าแต่จะมีอาหารอะไรบ้างที่ช่วยให้สาว ๆ มีลูกได้ไวขึ้นไปดูเคล็ดลับจากนิตยสาร Momypedia กันเลย ^^
1. ถั่ว ถั่วมีโปรตีนสูง ซึ่งจากงานวิจัยหลายงานพบว่าผู้หญิงที่มีลูกยากเพราะได้รับโปรตีนจากสัตว์มากเกินไป ดังนั้นควรเปลี่ยนมารับโปรตีนจากพืชอย่าง "ถั่ว" แทน
2. หอยนางรม หอยนางรมเป็นแหล่งธาตุอาหารสังกะสี (Zinc) สำคัญ การขาดธาตุสังกะสีจะทำให้ร่างกายผลิตไข่ที่มีคุณภาพได้ช้า และนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการคั้งครรภ์แล้ว หอยนางรมยังเชื่อกันว่าเป็นยาโด๊ปเพิ่มพลังทางเพศด้วย ไม่เชื่อลองดูกันเลยค่ะ !
3. ผักใบเขียว การกินผักใบเขียวเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงที่ต้องการเตรียมตัวตั้งครรภ์ ในผักใบเขียมีวิตามินอี ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการตกไข่ได้ ลองเพิ่มผักใบเขียวอย่าง คะน้า ผักโขม บรอกโคลี ฯลฯ ลงในเมนูมื้อถัดไปดูนะคะ
4. ธาตุเหล็กที่ได้จากพืช ธาตุเหล็กที่ได้จากพืชจะดูดซึมได้เร็วกว่าธาตุเหล็กจากสัตว์ ซึ่งเราจะพบได้มากจากเมล็ดฟักทอง หน่อไม้ฝรั่ง ถั่ว ฯลฯ โดยผู้หญิงหลายคนจะมีภาวะขาดธาตุเหล็ก ดังนั้นถ้ามีภาวะขาดธาตุเหล็กอาจจะต้องเสริมด้วยอาหารเสริมเพิ่มเติมบ้าง
5. นมสด 100% นมเป็นแหล่งเสริมแคลเซียมชั้นดี และเป็นผู้ช่วยสำหรับใครที่อยากตกไข่ ซึ่งถ้าอยากมีลูกแนะนำเป็นนมสด 100% ที่ไม่ใช่นมพร่องมันเนยค่ะ
6. ปลาไขมันสูง ปลาแซลมอน ปลาแฮรี่ และปลาทะเลไขมันสูงอื่น ๆ เป็นแหล่งของกรดโอเมก้า 3 ชั้นดี สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะสืบพันธุ์และช่วยให้ฮอร์โมนสมดุล แต่ถ้าไม่ชอบปลาอาจจะหาโอเมก้า 3 จากอัลมอนด์ วอลนัท หรือเมล็ดฟักทอง
7. คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน Complex carbs ปกติเรากินคาร์โบไฮเดรต พวกแป้ง ข้าวต่าง ๆ เป็นอาหารหลักกันอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากมีลูกควรเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตปกติที่กินเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ขนมปังโฮลวีต หรือ ผักผลไม้บางชนิด ซึ่งคาร์โบไฮเดรตประเภทนี้จะไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป เหมือนคาร์โบไฮเดรตปกติ ซึ่งการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกิน จะรบกวนการทำงานของฮอร์โมนสืบพันธุ์ และมีผลกับประจำเดือน
8. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ราสป์เบอร์รี และบลูเบอร์รี เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพภาวะเจริญพันธุ์ หรือสตรอว์เบอร์รีก็ใช้ได้เช่นกัน เพราะเบอร์รีพวกนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งจะช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย (รวมถึงเซลล์สืบพันธุ์เช่นไข่ด้วย)