คลอดลูกที่บ้าน โกลาหลแต่แสนสุข

คลอดลูกเองที่บ้าน
ประสบการณ์การตรง คลอดลูกที่บ้านอันแสนสุขพร้อมหน้าครอบครัว

คลอดลูกที่บ้านโกลาหลแต่แสนสุข (M&C แม่และเด็ก)
เรื่อง : โสภาพรรณ รัดนัย นักแปลดีเด่น รางวัล "สูรินทราชา" พ.ศ.2557

          เบธานี คุณแม่มือเก๋าวัย 30 แม่ลูกสาม วัย 7 ปี 4 ปีและวัย 9 เดือน เล่าขานประสบการณ์การคลอดลูกที่บ้านอันแสนสุขพร้อมหน้าครอบครัว

          ตอนก้าวลงไปในอ่างน้ำคลอดในห้องนั่งเล่นที่บ้านนั้น รู้สึกเหมือนน้ำหนักถูกยกออกไป อาการมดลูกบีบรัดตัวซึ่งเจ็บปวดอย่างแรงพลันกลายเป็นเรื่องรับได้ การได้อยู่ในบ้านท่ามกลางสิ่งปลอบใจและผู้คนที่ใส่ใจก็ช่วยได้ด้วย เป็นสามีฉันนั่งอยู่ข้าง ๆ อ่าง ชวนคุยและกระตุ้นให้หายใจตอนเจ็บท้อง รู้สึกเหมือนเราอยู่ในโลกเล็ก ๆ ของเราเอง

          ลูกสองคนแรกของฉันคลอดที่โรงพยาบาลและเป็นการคลอดแบบตรงไปตรงมา ตอนท้องที่สามฉันเชื่อมั่นมากพอจะพยายามคลอดที่บ้าน เบ็นเองก็ไม่ค่อยมั่นใจและกังวลว่าจะทำไงถ้าเกิดเรื่องแทรกซ้อน ดังนั้นฉันนั่งลงอธิบายประโยชน์ทั้งปวงกับการรายล้อมด้วยข้าวของเราเอง ใช้ห้องน้ำตัวเองหลังคลอด ไม่ต้องฝากลูกไว้กับญาติ ในที่สุดสามีก็ยอมตามใจ เรารู้ว่าความปลอดภัยของลูกเป็นสิ่งสำคัญสุด และฉันไม่มีวันยอมเสี่ยง เราเห็นพ้องกันว่าถ้ามีปัญหาใด ๆ เราก็จะรีบไปโรงพยาบาล

          ตัวช่วยฉันอีกแรงคือแครีเพื่อนฉัน ซึ่งเป็นพยาบาลผดุงครรภ์อิสระที่จะมาช่วยทำคลอดโดยมีนักศึกษาพยาบาลเป็นผู้ช่วย กำหนดคลอดฉันคือวันที่ 7 กันยายนซึ่งผันผ่านไป ฉันไม่อยากทำการเร่งคลอดจนกว่าครรภ์ 43 สัปดาห์และท้องนี้เป็นลูกคนที่สาม ซึ่งหมอก็เห็นพ้องด้วย กระนั้นแต่ละวันที่ผ่านไปฉันยิ่งสับสนมากขึ้น เนื้อตัวบวม ตัวใหญ่และหน่ายกับคำถามจากใคร ๆ ว่า "ยังไม่คลอดอีกเรอะ"

          วันที่ 15 กันยายน เวลาสามทุ่ม เก้าวันหลังครบกำหนดคลอด ฉันเริ่มรู้สึกปวดท้องและโทรตามแครีเพื่อแจ้งว่ากำลังเจ็บท้องคลอด ส่วนสามีงีบนอนเอาแรง เวลาเที่ยงคืนฉันเจ็บท้องถี่ทุกสี่นาที ฉันสูดลมหายใจแรง ๆ แล้วเกาะเก้าอี้ไว้ทนความเจ็บปวด

          ได้เวลาปลุกสามีและเริ่มเติมน้ำในอ่าง อาการเจ็บท้องคลอดเจ็บมาก แต่ฉันตื่นเต้น ตระหนักถึงประโยชน์การคลอดที่บ้านที่ไม่ต้องเดินพล่านไปทั่วแผนกคลอด หรือต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ฉันเดินพล่านไปมาอยู่ที่ห้องนั่งเล่นบ้านตัวเองตอนเจ็บท้องถี่ แครีมาถึงในชั่วโมงต่อมา ถึงตอนนี้ฉันอยากเบ่งและอยู่ไม่สุข ต้องโยกกายไปมา

          แม้เจ็บท้อง บรรยากาศสงบและผ่อนคลาย ฉันรู้สึกโชคดีที่ไม่ต้องทิ้งลูกเล็ก ๆ ไปโรงพยาบาล ซึ่งกำลังหลับอยู่ชั้นบนสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันมีแรงฮึตสู้ต่อไปได้ คือความคิดว่าจะได้อาบน้ำฝักบัวในห้องน้ำตัวเองทันทีที่คลอดเสร็จ

          ทุกอย่างรอบตัวล้วนคุ้นตา ทำให้ฉันรู้สึกควบคุมตัวเองได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงเครื่องตรวจประหลาดหรือผู้คนรุมล้อมรอบตัว บรรยากาศสงบช่วยให้ผ่อนคลายและมุ่งสมาธิไปที่การหายใจ แครีตรวจพบว่าฉันพร้อมจะคลอดแล้ว ฉันภูมิใจที่ก้าวมาไกลขนาดนี้ได้ด้วยตัวเอง แม้เรื่องยังไม่จบก็ตาม

          พลันมีเสียงเคาะประตูบ้าน ตำรวจมาบอกว่าแครีจอดรถเปิดไฟหน้าทิ้งไว้ให้ผู้ช่วยที่ตามมารู้ว่าเป็นบ้านหลังใด ตำรวจได้ยินเสียงร้องโอดโอยปวดท้องคลอด แล้วเข้าใจผิดว่าเป็นเสียงคนขอความช่วยเหลือ แต่พอรู้ว่าฉันกำลังเจ็บท้องคลอดก็กลับไป เรื่องทั้งหมดพิลึกจนเราหัวเราะขำกันแทบแย่

          แต่อาการเจ็บท้องเริ่มพุ่งปรูด ฉันขอแก๊สและอากาศ แต่แครีบอกว่า "ไม่ต้องใช้แล้ว ลูกกำลังคลอดในยี่สิบนาทีนี้" ถ้าเป็นคนอื่น ฉันคงยืนกรานให้ได้ดังใจ แต่กับแครีเพื่อนสนิทนั้น ฉันเชื่อเต็มร้อย

          แครีกับสามีประคองฉันลงอ่างน้ำซึ่งเหมือนขึ้นสวรรค์ เพราะน้ำช่วยรองรับอาการปวด ตอนนี้ฉันรู้สึกได้ถึงหัวลูกและอยากให้ลูกโต ๆ สองคนมาอยู่ด้วย จึงบอกให้เบ็นไปปลุกพวกแก

          เจและมิลีวิ่งปราดเข้ามาในห้อง แล้วพากันหัวเราะกับเสียงประหลาดที่แม่เปล่งออกมา แม้จะเจ็บท้องแต่เป็นความรู้สึกยอดเยี่ยมที่มีทุกคนรายรอบ ฉันต้องหว่านล้อมลูก ๆ ไม่ให้ก้มหน้าดำน้ำหรือโดดลงมาในอ่างด้วย แต่เจเฝ้าปลอบว่า "แม่คะ แม่ทำได้ยอดมากเลย" ขณะมิลีช่วยเอาผ้าเย็นประคบหน้าผาก

          ฉันอยู่ในอ่างแค่สิบนาทีก่อนอาการเจ็บท้องครั้งใหญ่ แล้วรู้สึกว่าหัวทารกโผล่ออกมา การเบ่งนั้นเจ็บมากแบบไม่เคยคาดคิดมาก่อน สองท้องแรกฉันรับยาบล็อกหลังจึงไม่เคยรับรู้ความเจ็บ ฉันเบ่งอีกครั้งแล้วน้ำคร่ำเดิน แล้วแม่หนูโฮปหลุดพรวดออกมาสู่ก้นอ่าง

          ฉันเอื้อมมือไปอุ้มแกขึ้นจากน้ำ แกส่งเสียงคราง เป็นร่ำไห้ตอนฉันอุ้มลูกไว้แทบอกด้วยอารมณ์อ่อนไหว โฮปตัวสีชมพูและมีปฏิกิริยาตอบสนองกระทั่งฉันตะโกนว่า "ฉันทำได้แล้ว" ด้วยความปลาบปลื้มซะไม่มี

ฉันอยู่ในอ่างอีกยี่สิบนาที แล้วเราจูบ กอดลูกกันมากมาย จากนั้นฉันลุกขึ้นมาอาบน้ำ ได้ใช้แชมพูและผ้าเช็ดตัวของฉันเอง จากนั้นก็สวมชุดนอน กินขนมปังปิ้งร่วมกันพร้อมหน้า นาทีอันผาสุกในวันนั้นตราตรึงอยู่ในความทรงจำฉันไปตลอดกาล

สัญญาณการคลอด

          คุณแม่ท้องแรก มักจะแยกไม่ค่อยออกว่าแบบไหน ปวดท้องคลอด หรือการเจ็บเตือน อาการปวดท้องคลอด จะมีอาการเกร็งมดลูกเป็นพัก ๆ พร้อมกับการปวดมดลูก จะปวดอยู่นานราว 10-20 นาทีในระยะต้น ๆ แล้วจะคลายตัวลงและอาการปวดมดลูกก็จะหาย หลังจากนั้นประมาณ 7-10 นาที ก็จะเริ่มปวดอีกครั้ง และปวดนานเท่า ๆ กัน คือ อาการปวดท้องคลอด จะมีระยะซึ่งเป็นระยะที่ค่อนข้างสม่ำเสมอภายใน 10 นาทีต่อครั้ง และอาการปวดจะเริ่มถี่ขึ้น ซึ่งถ้าเป็นท้องแรกอาจจะใช้เวลานานหน่อยค่ะ ถ้าเป็นท้องต่อ ๆ มา อาการปวดถี่จะเริ่มเร็วขึ้น คือภายใน 2-3 ชั่วโมงจะเริ่มทนไม่ได้ บางครั้งอาจมีน้ำเดิน ถ้าคุณแม่พบว่ามีอาการเหล่านี้แสดงว่ากำลังจะคลอดแล้วล่ะค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 37 ฉบับที่ 510 สิงหาคม 2557


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คลอดลูกที่บ้าน โกลาหลแต่แสนสุข อัปเดตล่าสุด 17 กันยายน 2557 เวลา 15:15:31 3,468 อ่าน
TOP
x close