อ้วนมากไปไขมันพอกตับ (รักลูก)
เรื่อง : ก้านแก้ว เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์ รศ.พญ.วรนุช จงศรีสวัสดิ์ กุมารเวชศาสตร์โรคทางเดินอาหารและตับ
ความอ้วนไม่ได้ทำให้เด็ก ๆ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจอย่างที่พ่อแม่หลายคนกังวลเท่านั้นนะคะ แต่ยังนำไปสู่โรคไขมันพอกตับ ที่อาจร้ายแรงจนกลายเป็นตับอักเสบ หรือตับแข็งได้ค่ะ
ไขมันพอกตับจากการกินผิด ๆ
ตับเป็นอวัยวะสำคัญในร่างกาย ทำหน้าที่รับเลือดจากลำไส้ ซึ่งมีสารอาหารจำนวนมากและส่งผ่านสารอาหารเหล่านั้นไปทั่วร่างกาย ตับจะคอยทำลายสารพิษในเลือดที่มาจากลำไส้ และยังต้องผลิตน้ำดี เพื่อเก็บในถุงน้ำดี เวลาที่เรากินอาหารที่มีไขมัน ถุงน้ำดีจะหดตัวทำให้น้ำดีไหลผ่านท่อน้ำดีมาที่ลำไส้เล็ก เพื่อช่วยย่อยและดูดซึมไขมันซึ่งตับก็เป็นเหมือนอวัยวะที่จะต้องรับของเสีย และกรองของดีเพื่อประโยชน์ของร่างกาย ดังนั้น อาหารที่เรากินเข้าไป ก็จะส่งผลกับการทำงานของตับด้วยเช่นกัน
ถ้าเรากินอาหารที่มีไขมันปริมาณมาก ๆ จนทำให้มีไขมันเข้าไป อยู่ในเซลล์ตับมากเกินปกติหรือประมาณ 5-10 % ของตับ ส่วนใหญ่จะเป็นไขมันชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์ ทำให้เกิดโรคไขมัน พอกตับได้ในที่สุด ซึ่งโรคนี้เกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ
สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดมาจากการกินอาหารที่มีไขมันปริมาณมาก รวมทั้งอาจเกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่นำไขมันไปใช้ ได้น้อยลง ทำให้มีไขมันสะสมในตับเพิ่มมากขึ้น ซึ่งโรคไขมันพอกตับจะพบได้บ่อยในเด็กอ้วน แค่พ่อแม่ไม่ค่อยทราบและโรคนี้มักจะถูกมองข้ามเสมอ
เด็กที่เป็นโรคไขมันพอกตับและมีอาการเรื้อรัง มีโอกาสเกิดตับอักเสบเรื้อรัง และโรคตับแข็งได้เหมือนกับผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเลยนะคะ
ในอนาคตโรคไขมันพอกตับจะเป็นสาเหตุของโรคตับเรื้อรัง และตับแข็งในเด็กทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย โดยการศึกษาในต่างประเทศพบว่าเด็กวัยรุ่นที่อ้วน มีโรคไขมันพอกตับสูงกว่าเด็กวัยรุ่นที่ไม่อ้วนถึง 15-20 เท่า และพบเด็กอ้วนเป็นตับแข็งตั้งแต่อายุ 8 ขวบค่ะ
ตรวจสุขภาพตับของหนู
เนื่องจากโรคไขมันพอกตับมักไม่มีอาการของโรคที่เด่นชัดจะมีก็แต่อาการปวดท้องและอ่อนเพลีย ซึ่งก็เป็นแค่อาการทั่ว ๆ ไป วิธีที่ดีที่สุดในการตรวจหาโรคไขมันพอกตับนั่นก็คือ การพาลูก ไปตรวจอัลตราซาวด์ตับ โดยเฉพาะเด็กอ้วน หรือเด็กที่มีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานจะเป็นกลุ่มเสี่ยงของโรคนี้ ซึ่งคุณหมออาจใช้การตรวจเลือดเพื่อดูการทำงานของตับว่ามีอาการของตับอักเสบเพิ่มเติมด้วยค่ะ
เปลี่ยนพฤติกรรม หยุดไขมันพอกตับ
ไขมันพอกตับเกิดจากตับได้รับปริมาณไขมันมากเกินไป ดังนั้น วิธีที่จะช่วยหลีกเลี่ยงโรคไขมันพอกตับให้กับลูกก็คือ การเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตให้เหมาะสม ดังนี้
กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ และครบทั้ง 5 หมู่ ไม่เว้นมื้อใด มื้อหนึ่ง และมื้อเย็นให้ลดปริมาณแป้ง
งดอาหารที่มีรสหวาน ของทอด ของมัน และเครื่องดื่ม ที่มีน้ำตาล
งดขนมกรุบกรอบระหว่างมื้ออาหาร มากินผลไม้แทน
ควรออกกำลังกายเป็นประจำ วันละ 30-60 นาที
ไม่ควรให้ลูกดูทีวีหรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนาน 2 ชั่วโมงค่ะ
นอกจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตให้ลูกแล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นต้นแบบที่ดี ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปพร้อม ๆ กับลูกด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ปีที่ 31 ฉบับที่ 366 กรกฎาคม 2556