เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
โพลอังกฤษเผยผลน่าตกใจ เมื่อเด็กสมัยใหม่เริ่มแคร์ในรูปลักษณ์ตัวเองตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 5 ขวบ เมื่อยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งใส่ใจรูปกายภายนอกของตัวเองมากขึ้น บางคนถึงขนาดเครียดจัดจนร้องไห้เพราะรู้สึกหน้าตาตัวเองน่าเกลียดดูไม่ได้
ผลการสำรวจจากเว็บไซต์ netmums สังคมออนไลน์สำหรับคุณแม่ ได้ทำการสำรวจคุณแม่ 1,107 ราย ที่มีลูกอายุต่ำกว่า 18 ปี เกี่ยวกับพฤติกรรมและการรับรู้ถึงรูปร่างหน้าตาของลูก ๆ ซึ่งผลสำรวจเผยออกมาว่า เด็ก ๆ 1 ใน 3 เริ่มรับรู้ถึงความสำคัญของหน้าตาตัวเองตั้งแต่ก่อนอายุ 5 ขวบด้วยซ้ำ จากนั้นก่อนที่จะอายุครบ 8 ขวบดี เด็ก ๆ ก็เริ่มตระหนักและวิตกกับเรื่องหน้าตาของตัวเองมาก และมักพบปรากฏการณ์นี้ในเด็กหญิงมากกว่าเด็กชาย
เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็คงจะโทษอะไรไม่ได้ นอกจากสื่อ และสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัวเด็ก ซึ่งค่อย ๆ ปลูกฝังค่านิยมว่ามีหน้าตาสวยย่อมดีกว่า จะเห็นได้จากเด็กน่ารัก ๆ มักได้รับความเอ็นดูมากกว่า เป็นที่นิยมชมชอบจากเพื่อน ๆ มากกว่า เด็ก ๆ อายุไม่ถึง 18 ปี มากกว่า 80% เริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อน ในขณะที่ 39% ถึงกับร้องไห้ เพราะรู้สึกว่าหน้าตาตัวเองน่าเกลียดดูไม่ได้จริง ๆ
ทางด้านผู้ปกครอง พ่อแม่กลุ่มที่ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ดีมีอยู่ 69% ซึ่งบอกว่า เขาพยายามสอนลูกอยู่เสมอว่าสิ่งที่อยู่ข้างในตัวลูกสำคัญกว่าหน้าตามาก แต่ก็มีอยู่ 2% ซึ่งเป็นพ่อแม่กลุ่มที่อยากเชื่อว่าจะมีอยู่จริง ๆ เพราะพวกเขาสอนลูกว่า รูปร่างหน้าตานั้นสำคัญและต้องตัวทำให้ดูดีที่สุดเสมอ
นางซิโอบาน ฟรีการ์ด ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ netmums กล่าวว่า แม้การมีหน้าตาน่ารักจะเหมือนกับได้พรวิเศษติดตัวมาแต่เกิด แต่กลับกลายเป็นว่าเด็ก ๆ ยุคนี้เริ่มให้ค่ากับคุณสมบัติประการนี้มากยิ่งกว่าข้อไหน ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะชีวิตที่จะมีค่าและประสบความสำเร็จได้ ไม่ได้อาศัยแค่เรื่องหน้าตาอย่างเดียว แต่ยังต้องอาศัยทั้งเรื่องความรู้ความสามารถ และที่สำคัญคือเรื่องของจิตใจด้วย
