เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ความผิดปกติในเด็กที่เรียกว่าโรคออทิสติก หรือออทิสซึม หรือชื่อเต็มว่า ออทิสติก สเปคตรัม ดิสออร์เดอร์ (Autism Spectrum isorder) เกิดจากความผิดปกติในของการพัฒนาระบบประสาท ส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กที่แตกต่างไปจากปกติ โดยเป็นอาการที่ตรวจพบได้ยากเมื่อทารกยังอยู่ในครรภ์หรือยังเป็นเด็กเล็ก แต่จะเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติได้เมื่อเด็กอายุราว 18 เดือนขึ้นไป
อย่างไรก็ดี มีการตั้งข้อสังเกตไว้ว่า แม่ที่อ้วนขึ้นมากระหว่างตั้งครรภ์ เกินเกณฑ์ 8-13 กิโลกรัมสำหรับมาตรฐานแม่ท้องทั่วไป ลูกที่คลอดมามีโอกาสเป็นออทิสติกสูง จนเชื่อกันว่าความอ้วนระหว่างการตั้งครรภ์เป็นสาเหตุให้เกิดความผิดปกตินี้ และพยายามควบคุมการรับประทานอาหารไม่ให้หนักเกิน ซึ่งเป็นความเชื่อที่ถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
การวิจัยล่าสุดของดอกเตอร์เดโบราห์ ไบล์เดอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช จากมหาวิทยาลัยยูทาห์ พบความเชื่อมโยงเกี่ยวกับความผิดปกติประการนี้ว่า การอ้วนของแม่ท้องไม่ใช่สาเหตุของความผิดปกติออทิสซึมในเด็กโดยตรง แต่เป็นสัญญาณบ่งชี้หนึ่งที่บอกว่ามีอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายจนทำให้ลูกกลายเป็นออทิสซึมต่างหาก เช่น ระบบฮอรโมนแปรปรวน หรือเกิดการอักเสบขึ้นภายใน
ผลการวิจัยชิ้นนี้ได้รับการเผยแพร่ในวารสารกุมารเวชฉบับออนไลน์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยได้ศึกษาเปรียบเทียบจากกลุ่มตัวอย่าง 4 กลุ่ม แบ่งการสังเกตออกเป็นสองครั้ง บนข้อสงสัยที่ว่า น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นขณะตั้งครรภ์มีความเกี่ยวเนื่องกับโรคออทิสซึมในเด็กอย่างไร
การศึกษาครั้งแรก มาจากกลุ่มคุณแม่ที่มีลูกเป็นเด็กออสทิสติกในวัย 8 ขวบ จำนวน 128 ราย เปรียบเทียบคุณแม่อีกกลุ่มหนึ่งที่มีลูกเป็นเด็กปกติในวัยเท่า ๆ กัน พบว่า การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ของคุณแม่ทั้งสองกลุ่มนี้ ไม่ได้แตกต่างจนผิดสังเกตถึงขนาดจะสรุปตามที่เคยเชื่อกันมาได้ว่า น้ำหนักแม่ที่เพิ่มขึ้นมาทำให้ลูกเป็นออทิสติก ส่วนการศึกษาครั้งที่สอง มาจากแม่ซึ่งมีลูกเป็นด็กออทิสติกจำนวน 288 คน เทียบกับคุณแม่ที่มีบุตรสมบูรณ์ปกติดีอีกกลุ่ม และผลก็ยังคงเหมือนกับการศึกษาครั้งแรก คือไม่พบว่ากลุ่มเด็กที่เป็นออทิสติกจะมีแม่ที่อ้วนขึ้นมากจนแตกต่างจากคุณแม่ของเด็กกลุ่มปกติแต่อย่างใด
จากศึกษาทั้งสองครั้งนี้จึงสรุปได้ว่า "น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้ทารกเป็นออทิสติก แต่เป็นผลกระทบส่วนหนึ่งจากความผิดปกติภายในร่างกายที่ทำให้ลูกกลายเป็นเด็กออทิสติกได้" ต่างหาก ฉะนั้นคุณแม่ที่เชื่อว่าหากปล่อยตัวเองอ้วนระหว่างตั้งครรภ์แล้วลูกจะเป็นออทิสติก จึงเคร่งครัดกับการกินอาหารรักษาหุ่นระหว่างท้องมากเกินไป ก็ขอให้ลบความคิดเหล่านี้ออกไปได้เลย เพราะการกินอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ต่างหาก ที่จะสร้างสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ให้กับทารกได้
อย่างไรก็ดี แม้ความอ้วนไม่ใช่สาเหตุโดยตรง แต่การกล่าวว่าความอ้วนที่ผิดปกติของแม่ท้องเป็นสัญญาณเสี่ยงเตือนให้รู้ว่าลูกอาจเป็นออทิสซึมได้ ก็คงไม่ผิดนัก แม่ท้องที่ไม่แน่ใจว่าความอ้วนที่เป็นอยู่นี้จะเกิดเพราะลูกจะกลายเป็นออทิสติกหรือไม่ จึงควรปรึกษากับกุมารแพทย์เสียแต่เนิ่น ๆ เพราะแม้จะเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่หากตรวจพบตั้งแต่เล็ก ๆ เท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีโอกาสเสริมสร้างพัฒนาการด้านที่บกพร่องให้ใกล้เคียงปกติได้มากเท่านั้น ส่วนต้นตอทำแท้จริงที่เป็นสาเหตุของโรคออทิสซึมนั้นยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด แต่แพทย์มั่นใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับวิธีการเลี้ยงดูหรือสภาพแวดล้อมแน่นอน
