เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ลูกเปรียบเสมือนของขวัญล้ำค่าของครอบครัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำหน้าที่แม่ให้ลูกน้อยช่างเป็นภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ และเหน็ดเหนื่อยสุด ๆ เช่นกัน โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ก็คงจะจัดตารางเวลาและบริหารชีวิตของตัวเองอย่างทุลักทุเลอยู่พอสมควร กระปุกดอทคอมก็เลยนำเคล็ดลับการทำหน้าที่แม่มาฝากคุณแม่ทุกท่าน เพื่อให้ทำหน้าที่แม่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องและตัวคุณแม่เองก็ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป ส่วนเคล็ดลับที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. หาโอกาสนอนเท่าที่จะทำได้คุณแม่คนไหนที่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองคงจะรู้ดีว่าเวลาชีวิตในแต่ละวันนั้นแสนสั้น จนแทบจะทำอะไรไม่ทัน เรื่องนอนหลับพักผ่อนของตัวเองก็ไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่มีเวลาได้นอนหลับเป็นกิจลักษณะแน่นอน เพราะต้องคอยดูลูกน้อยอยู่ตลอดเวลา แต่อยากให้คุณแม่ห่วงตัวเองด้วย เหนื่อยทำนั่นนี่มาตั้งแต่เช้าก็ควรจะหาเวลานอนหลับพักผ่อนเอาแรงบ้าง อาจจะงีบเป็นพัก ๆ ในระหว่างที่ลูกน้อยนอนหลับ หรือจะหาใครสักคนที่ไว้ใจได้มาสับเปลี่ยนดูแลเขาสัก 2-3 ช่วงโมง เพื่อให้ตัวคุณแม่เองได้หลับเต็มตื่นสักนิด ไม่เช่นนั้นอาจจะกลายร่างเป็นซอมบี้ในเร็ววันก็ได้นะ
2. ลดภาระงานบ้านลำพังแค่ดูแลลูกน้อยก็หมดวันแล้ว ดังนั้นก็ลืมงานบ้านไปได้เลย ถ้ารู้ตัวว่าไม่สามารถแบ่งเวลาไปทำงานบ้านได้ทันอย่างนี้ ทางที่ดีคุณแม่ควรจะหาโอกาสลดภาระงานบ้านให้ได้มากที่สุด เช่น อาจจะเปลี่ยนมาใช้จานกระดาษใส่อาหารแทนการใช้จานปกติ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาล้างจาน ตุนอาหารแห้ง หรืออาหารสำเร็จรูปที่หยิบกินได้สะดวกเอาไว้บ้าง หรือถ้ามีกำลังพอก็จ้างแม่บ้านสักตำแหน่ง แล้วมอบหมายหน้าที่งานบ้านทั้งหมดให้เขาดูแลในช่วงที่คุณต้องทำหน้าที่แม่อย่างเต็มตัวก็ได้ค่ะ
3. ยอมรับความช่วยเหลือบ้างเข้าใจว่าอยากจะเป็นซูเปอร์มัมผู้เก่งกาจกันทุกคน แต่ในช่วงระยะแรก ๆ ที่มีสมาชิกใหม่มาอยู่ในบ้าน จะเป็นช่วงเวลาสุดโหดของคุณแม่อย่างแน่นอน ดังนั้นหากมีใครยื่นมือหรือเสนอตัวมาช่วยเหลือก็อย่าทำเหนียมอายเลยดีกว่า รับน้ำใจของเขามาก็ไม่ได้เสียหน้าที่แม่ที่ดีเท่าไหร่นักหรอกค่ะ เขาจะได้มาช่วยแบ่งเบาภาระของคุณช่วงที่คุณจำเป็นต้องไปทำธุระส่วนตัว เช่น อาบน้ำ กินข้าว หรือนอนหลับพักผ่อน หรือหากมองไปไม่เห็นใคร ลองเลียบ ๆ เคียง ๆ ขอความช่วยเหลือจากคุณแม่ของคุณเอง หรือคุณแม่สามีดูก็ได้ รับรองว่าพวกเขาเก๋าพอที่จะดูแลลูกน้อยได้อย่างดีแน่ ๆ
4. พยายามทำงานบ้านด้วยในช่วงระยะแรก ๆ ที่เพิ่งคลอด คุณแม่อาจจะต้องพักฟื้นร่างกาย บวกกับภาระหน้าที่ของความเป็นแม่ซึ่งพรากเอาเวลาส่วนตัวของคุณแม่ไปจนหมด ก็อาจจะทำให้คุณร้างลากิจกรรมอื่น ๆ อย่างที่เคยเป็นกิจวัตรประจำวันไปบ้าง และนั่นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณแม่ขี้เกียจ จนไม่คิดอยากจะขยับตัวไปทำอะไรอีก นอกจากเลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียว ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือรูปร่างหลังคลอดที่กู่ไม่กลับ รวมถึงความกระฉับกระเฉงที่น่าจะต้องมีมากขึ้นก็จะหายไปด้วย ดังนั้นคงดีกว่าหากคุณแม่จะตั้งเป้าหมายเอาไว้ทุกวัน ว่าจะต้องทำกิจกรรมอะไรสักอย่างบ้าง เช่น วันนี้จะต้องซักรีดเสื้อผ้าให้เสร็จ หรืออย่างน้อย ๆ ก็จะต้องล้างจาน เป็นต้น เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เพิ่มความคล่องตัว และป้องกันความขี้เกียจด้วยนะจ๊ะ
5. ให้รางวัลตัวเองก่อนจะคลอดลูกผู้หญิงทุกคนมีความกังวลอยู่ลึก ๆ ว่าตัวเองจะโทรม ซึ่งก็อาจจะโทรมหมดสวยได้จริง ๆ ซะด้วยถ้าหากคุณไม่หาโอกาสทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง เช่น นอนให้พอ กินให้อิ่ม ออกกำลังกาย ไปนวดผ่อนคลาย และเสริมสวยเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยเฉพาะเดือนหลัง ๆ ที่เริ่มจัดสรรเวลาเลี้ยงลูกได้อย่างลงตัวดีแล้วก็ควรแบ่งเวลาที่เหลือไปหาความสุขใส่ตัวบ้าง เพื่อสร้างสีสันให้ชีวิต จะได้เป็นคุณแม่ลูกอ่อนที่สวยแซ่บสุด ๆ ยังไงล่ะ
6. ให้เวลากับตัวเองหลังจากเบ่งเจ้าตัวเล็กออกมาจากท้อง ทั้งรูปร่างและอารมณ์ของคุณแม่จะยังไม่เข้าที่เข้าทางในทันทีทันใด เพราะฮอร์โมนที่ปรวนแปร ซึ่งคุณก็ต้องใจเย็นและค่อย ๆ ฟื้นฟูร่างกายตัวเองตามที่หมอแนะนำอย่างเคร่งครัด หมั่นออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง และอย่าเครียด อีกไม่นานร่างกายและอารมณ์ทางเพศต่าง ๆ ก็จะกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง
7. หาพี่เลี้ยงเด็กที่ไว้ใจได้บางครั้งคุณแม่อาจจะมีธุระจำเป็นที่ต้องไปทำ หรืออาจจะอยากมีช่วงเวลาส่วนตัวกับคุณพ่อของลูกน้อยบ้าง ฉะนั้นก็ควรเฟ้นหาพี่เลี้ยงที่ไว้ใจได้เอาไว้สักคน เพื่อให้มาสับเปลี่ยนหรือช่วยคุณเลี้ยงเจ้าตัวเล็ก อาจจะหาพี่เลี้ยงเด็กจากบริษัทที่น่าเชื่อถือ หรือสอบถามจากโรงพยาบาลเอาก็ได้ แต่ถ้าได้คนคุ้นเคย หรือคนในครอบครัวช่วยเลี้ยงก็จะดีมาก ๆ นะคะ
8. เลี้ยงลูกด้วยสัญชาตญาณคำแนะนำในการเลี้ยงลูกมีอยู่มากมาย ไหนจะเทคนิคเคล็ดลับอีกสารพัด จนคุณแม่หลายท่านอาจจะสับสนไปหมด ไม่รู้จะเลี้ยงลูกตามคำแนะนำไหนดีเลย แต่ถ้างงขนาดนั้นก็เลี้ยงลูกตามสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่คุณมีอยู่ดีไหมคะ เพราะไม่มีกูรูคนไหนจะรู้จักลูกน้อยของคุณได้ดีไปกว่าแม่แท้ ๆ อย่างคุณเองหรอก ฉะนั้นตัดความกังวลทั้งหลายทิ้งไป และเลี้ยงดูเขาตามที่สัญชาตญาณคุณร้องบอกดีกว่า หรือถ้ามีอะไรสงสัยและไม่แน่ใจจริง ๆ ก็ควรสอบถามจากกุมารแพทย์โดยตรงเลย
9. กอดลูกบ่อย ๆความอบอุ่นและความรักมักจะส่งผ่านถึงกันและกันได้ดีผ่านการสัมผัสจับต้อง และในขณะที่เขายังเล็ก ๆ เช่นนี้ คุณแม่ก็ควรจะกกกอดแสดงความรักกับเขาอยู่บ่อย ๆ เพื่อให้เขารู้สึกและสัมผัสถึงความรักและความห่วงใยจากคุณแม่ได้ พอเติบโตขึ้นมาเขาก็จะเป็นเด็กที่มีเกราะความรักของพ่อแม่เป็นปราการป้องกันอันตราย และเป็นเด็กที่ไม่รู้สึกขาดอะไรสักอย่างในชีวิต
การตั้งครรภ์ที่คิดว่าเป็นเรื่องสุดวิเศษ ก็ยังไม่เท่าความมหัศจรรย์ของผู้หญิงที่เรียกว่าแม่นะคะ ดังนั้นหากคุณยังตั้งตัวไม่ทันกับการมีสมาชิกใหม่ในบ้าน ก็ลองนำเคล็ดลับทั้ง 9 ข้อนี้ไปดัดแปลงใช้ประโยชน์กันได้ คุณจะได้รู้ว่า การเป็นแม่คนก็ไม่ได้เหนื่อยยากหรือลำบากเท่าไหร่นักหรอกค่ะ
