เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ก่อนจะตัดสินใจมีลูก เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนคงคิดกันมาหลายตลบ เรามีความพร้อมมากพอหรือยัง ชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน และในระหว่างท้องคนเป็นแม่ก็ยังคงกังวลอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องรูปร่างของตัวเอง เรื่องความปกติของลูกในท้อง และอีกร้อยแปดพันเก้าความกลัว และวันนี้เราก็มีความกลัว 10 ข้อของคนท้องมาบอกต่อ เผื่อคนที่อยากมีลูกจะได้เตรียมตัวรับมือกับความกลัวที่ว่านี้ทัน หรือคนที่กำลังท้องอยู่จะได้มาสำรวจว่า 10 ความกลัวนี้ตรงกับสิ่งที่เรากลัวบ้างไหม และจริง ๆ แล้ว สิ่งที่เรากลัว มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรือเปล่านะ
1. กลัวแท้ง
ความกลัวอันดับแรกของคนที่ตั้งครรภ์ก็คือกลัวว่าจะแท้งลูก ซึ่งโดยสถิติแล้ว คนที่ตั้งครรภ์แล้วแท้งมีไม่ถึง 20% เลยด้วยซ้ำ และส่วนมากก็จะแท้งในช่วงระยะ 2-3 สัปดาห์ที่ตั้งครรภ์ และคนเป็นแม่ไม่รู้ตัว จึงไม่ได้ระวังตัวเองเท่าที่ควร แต่ถ้าหากผ่านช่วง 6-8 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์มาได้ ก็เบาใจได้เลยว่าโอกาสแท้งลูกก็เริ่มจะริบหรี่ลงแล้ว ยิ่งถ้าตั้งครรภ์มาแล้ว 3 เดือน โอกาสแท้งก็แทบจะไม่มีเลยล่ะค่ะ
2. น้ำหนักตัว
แน่นอนว่าเมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตมาอยู่ในท้องเรา น้ำหนักตัวของเราก็จะเพิ่มขึ้นอีก 5-10 กิโลกรัม รูปร่างก็ไม่ได้ป่องแค่ท้อง แต่บวมลามไปทั้งหน้า แขน ขา ตลอดจนทุกส่วนของร่างกาย และโดยสถิติก็เผยว่า คนท้องกว่า 14-20% มีความกลัวและกังวลในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ถ้าหากในระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี หมั่นไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เล่นโยคะสำหรับคนท้อง และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะสามารถควบคุมน้ำหนักตัวและรูปร่างให้ไม่บวมมากจนเกินไปนัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องทำอย่างต่อเนื่องไปจนคลอดน้องออกมาด้วยนะคะ เพราะมันจะให้ผลดีกับคุณแม่ทั้งเรื่องรูปร่างและสุขภาพอย่างต่อเนื่องเลยล่ะ
3. สุขภาพของเด็ก
การตั้งครรภ์ก็ไม่ต่างจากการเสี่ยงและลุ้นผลรางวัลมากนัก เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกของเราจะมีความผิดปกติทางร่างกายบ้างหรือเปล่า ไหนจะต้องกังวลเรื่องกรรมพันธุ์ ยีนเด่นยีนด้อยที่ได้มาจากพ่อและแม่อีกล่ะ รวมไปถึงอาหารการกินและอารมณ์ของตัวคุณแม่เองด้วย ที่ล้วนแต่มีผลกระทบไปถึงลูกในท้องได้ทั้งนั้น แต่ถึงแม้ว่าความกลัวเหล่านี้จะดูเหนือการควบคุมของเรา ก็ไม่เห็นจะต้องกลัวหรือกังวลกับมันมากเกินไป เพราะอย่าลืมว่าสมัยนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ค่อนข้างจะพัฒนาก้าวไกลไปมาก และก็มีอาหารเสริม วิตามินบำรุงร่างกายคนท้องออกมาจำหน่ายให้เราได้เลือกรับประทานกันนับไม่ถ้วน อีกทั้งถ้าคุณแม่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อตัวเองและลูกน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องสุขภาพของเด็กในท้องอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ
4. ทักษะความเป็นพ่อแม่
เป็นเรื่องธรรมดาที่พ่อและแม่จะกังวลว่าตัวเองจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดีเท่าที่ควร และลูกจะโตขึ้นมาเป็นเด็กที่เกเร หรือเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหากับสังคม ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่เกิดในยุคสมัยที่โลกออนไลน์เป็นเรื่องที่เร็วยิ่งกว่าความไวของแสงเช่นนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็คงกังวลไปสารพัดว่าจะควบคุมดูแลลูกให้เสพสื่ออย่างถูกต้องได้ยังไง แต่ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำว่า อย่าเสียเวลากับความกลัวเหล่านี้เลยจะดีกว่า เพราะเมื่อลูกน้อยเติบโตขึ้นมา สัญชาตญาณความเป็นพ่อแม่จะสอนให้คุณดูแลเขาได้อย่างถูกวิธีในที่สุด
5. กลัวเจ็บ
เชื่อได้ว่าคุณแม่แทบจะทุกคนกลัวเจ็บเวลาคลอดลูก โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งจะท้องเป็นครั้งแรกในชีวิต และถ้าหากไปได้ยินเรื่องความเจ็บความทรมานของการคลอดลูกจากคนที่เคยมีประสบการณ์ด้วยแล้ว ก็คงเพิ่มความหลอนมากขึ้นไปอีกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในเมื่อยังไงก็หลีกไม่พ้นอยู่ดี ถ้าอย่างนั้นจะดีกว่าไหมหากเราจะเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับเรื่องนี้ให้พร้อม แต่ถ้าความกลัวยังไม่หายไป เดี๋ยวนี้เขาก็มีคอร์สอบรมคุณแม่มือใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเตรียมตัวสำหรับการคลอดได้ดีขึ้นด้วยนะ
6. กลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับลูก
เรามักจะได้ยินข่าวเด็กเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากความสะเพร่าของคนที่เป็นผู้ใหญ่กันหนาหู จึงอาจจะทำให้คนเป็นแม่อดเป็นกังวลไม่ได้ว่า กรณีน่าสลดใจแบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกของเราบ้างหรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่องหยูกยา และอาหารของเด็กเล็กที่คงต้องใส่ใจกันมากเป็นพิเศษ แต่ก็อย่าลืมนะว่า เรื่องเหล่านี้แพทย์และกุมารแพทย์ เขาจะต้องแนะนำอาหารและยาต้องห้ามสำหรับเด็กเล็ก รวมไปถึงวิธีดูแลลูกน้อยของคุณอย่างถูกต้องอยู่แล้ว
7. การลดน้ำหนัก
ก่อนและระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่จะกังวลเรื่องน้ำหนักตัวมาก ๆ อย่างที่บอกว่าเวลาที่มีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้องของเรา นอกจากเราต้องรับน้ำหนักตัวของเขากว่า 5 กิโลกรัมแล้ว อาหารที่เรากินเข้าไปก็ต้องกินเยอะขึ้น เพื่อให้เขาได้กินด้วยอีกต่างหาก ดังนั้นคุณแม่ทุกคนจึงอวบอิ่มมีน้ำมีนวลมากกว่าปกติขึ้นเยอะ และหลังจากที่คลอดลูกแล้ว ก็ยังไม่แน่ใจว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาอีกหลายกิโลนี้จะหายไปได้ยังไงหมด ซึ่งถ้าหากคุณแม่กำลังกลัวเรื่องนี้อยู่ ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำให้รับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ และหมั่นออกกำลังกายอย่างเหมาะสมควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้การเลี้ยงลูกด้วยตัวเองทั้งหมด จะช่วยให้คุณแม่ลดน้ำหนักได้เร็วทันใจแน่ ๆ เพราะแม่ที่มีประสบการณ์เลี้ยงลูกด้วยตัวเองเขากระซิบมาว่า มันเหนื่อยมาก ๆ เลยล่ะ
8. การผ่าคลอด
จะว่าไปแล้วไม่ว่าจะเป็นการเบ่งคลอดแบบธรรมชาติ หรือการผ่าคลอดก็ดูจะน่ากลัวทั้งนั้นจริงไหม คลอดแบบธรรมชาติก็กลัวเจ็บ ครั้นจะผ่าคลอดก็ไม่อยากมีรอยแผลเป็นติดตัวบริเวณหน้าท้องขึ้นมาอีก แต่ก็อยากให้คุณแม่เบาใจไปเปลาะหนึ่งก่อนว่า หากไม่เกิดกรณีฉุกเฉินอย่างเด็กไม่กลับหัว หรือตัวเด็กใหญ่เกินไป แพทย์เขาจะพูดคุยปรึกษากับคนเป็นแม่ก่อนว่าต้องการคลอดเด็กด้วยวิธีไหน
9. ความเครียด
นอกจากความเครียดในเรื่องต่าง ๆ ที่คนเป็นแม่ต้องกังวลแล้ว ตัวของแม่เองก็ยังต้องมาเครียดซ้ำซ้อนเพราะกลัวว่าความเครียดที่ตัวเองมีจะส่งผลกระทบไปถึงลูกน้อยด้วย แต่แพทย์กลับชี้ว่า ความเครียดที่แม่มีจะส่งผลดีต่อลูกน้อยได้ เพราะความเครียดจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ดีกับร่างกายของแม่และเด็ก แต่ถ้าหากคุณแม่เครียดบ่อย ๆ ก็อาจจะส่งผลกับน้ำหนักแรกเกิดของลูกน้อยได้นะคะ
10. เพศสัมพันธ์
เรื่องบนเตียงก็นับเป็นความกังวลอันดับต้น ๆ ของคนที่ตั้งครรภ์เช่นกัน เพราะกลัวว่าในระหว่างที่ท้อง จะไม่สามารถให้ความสุขกับสามีได้เต็มที่เหมือนอย่างที่เคย แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนท้องก็สามารถมีเพศสัมพันธ์กับสามีได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์ และหากแพทย์ไม่มีปัญหากับเรื่องบนเตียงของคุณและสามี ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลทั้งนั้น นอกจากนี้หากใครกำลังกลัวว่าหลังคลอดลูกร่างกายจะไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์อยู่ล่ะก็ เแพทย์ก็ได้บอกว่า ร่างกายของผู้หญิงที่เพิ่งคลอดลูก จะกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน หลังจากพักฟื้นและได้รับการดูแลที่ถูกต้อง และแม้การให้นมลูกจะส่งผลกระทบกับอารมณ์ทางเพศของคุณไปบ้าง แต่ในที่สุดแล้วร่างกายและสัญชาตญาณของเราก็จะทำให้คุณเป็นปกติได้ในที่สุดค่ะ
ไม่ว่าคุณจะกลัวหรือกังวลเรื่องอะไรอยู่ แต่ถ้าคุณคิดถึงลูกในท้องและความสุขที่จะได้รับเขามาเป็นสมาชิกคนใหม่ในบ้าน ก็เชื่อว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่นี้จะช่วยให้คุณฝ่าฝันความกลัวไปได้อย่างแน่นอน