ของใช้เด็กแรกเกิด กับ 12 วิธีเซฟเงินในกระเป๋า จากค่าใช้จ่ายของลูกน้อย

          ของใช้เด็กแรกเกิด ทุกวันนี้บอกเลยว่าค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังกลุ้มใจกับค่าใช้จ่ายของลูกน้อย ลองมาดูวิธีช่วยประหยัดเงินที่เรานำมาฝากกันเลย

          การเลี้ยงเด็กสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะนอกจากจะต้องดูแลเอาใจใส่ให้เขาเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง ยังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการเลี้ยงดูเจ้าตัวเล็กด้วย โดยเฉพาะช่วงก่อนคลอดที่ต้องซื้อของใช้เด็กอ่อนมาเตรียมไว้ ไหนจะค่านม ผ้าอ้อม เสื้อผ้า ของใช้ อาหารเสริม และอีกมากมายจนบรรยายไม่หมด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของคุณพ่อ คุณแม่ที่อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อย แต่จะดีกว่าไหมถ้าจ่ายน้อยกว่า และสามารถซื้อของได้ครบหมดทุกอย่าง

          ถ้าอยากรู้ก็ลองมาดู สารพัดวิธีช่วยเซฟเงินจากค่าใช้จ่ายกองโตเท่าภูเขาของเจ้าตัวเล็ก ที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันดูนะคะ

1. ใจเย็นสักนิด ก่อนเตรียมของล่วงหน้าให้เจ้าตัวน้อย

          เริ่มกันตั้งแต่เจ้าหนูยังอยู่ในท้องกันเลยดีกว่า หลาย ๆ ครอบครัวคิดว่าน่าจะเป็นการดีถ้าได้ซื้อหาอะไรสำหรับเจ้าตัวเล็กไว้ให้พร้อมก่อนที่เขาจะลืมตาออกมาดูโลก ความคิดนี้เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็อาจทำให้คุณใช้เงินเกินความจำเป็นได้ กับสิ่งที่คิดว่าน่าจะได้ใช้ แต่พอถึงเวลาจริง ๆ กลับไม่ได้ใช้ อย่างซื้อเสื้อผ้าสำหรับเด็กแรกคลอดเตรียมไว้ตั้งหลายชุด แต่เจ้าหนูของคุณกลับคลอดออกมาอย่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ ทำให้เสื้อที่เตรียมไว้ก็มีอันต้องกินแห้วไปตามระเบียบ กรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้บ่อยมาก ๆ สำหรับครอบครัวที่ซื้อของเตรียมให้ลูกล่วงหน้า ใจเย็นรอจนลูกคลอดจริง ๆ แล้วดีกว่า ถึงตอนนั้นรับรองว่าคุณจะมองเห็นอย่างชัดเจนว่าอะไรที่คุณต้องการและ "จำเป็น" ที่จะต้องใช้

2. ไปช้อปปิ้งกับคุณแม่ผู้มีประสบการณ์

          คุณพ่อคุณแม่ที่เพิ่งหัดช้อปของใช้สำหรับลูกน้อยลองพาเพื่อนที่เคยเลี้ยงลูกอ่อน หรือพาคุณป้าคุณน้าที่มีลูกแล้วไปช่วยเลือกสินค้าดูก็ดีนะคะ เพราะคุณแม่ผู้มีประสบการณ์จะสามารถแนะนำได้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี ยี่ห้อไหนน่าใช้ แบบไหนเหมาะกับลูก และของอะไรไม่จำเป็น แบบนี้จะดีกว่าเดินเข้าไปยืนงงกับชั้นสินค้าเด็กสูงท่วมหัวที่เต็มไปด้วยของหลากแบบหลากยี่ห้อละลานตา และคุณเองก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี

3. เช็กลิสต์ของใช้จำเป็นสำหรับเจ้าตัวเล็ก

          อย่างที่รู้กันดีว่าของใช้เด็กแรกเกิดนั้นมีมากมาย จนบางทีคุณพ่อคุณแม่ก็จำไม่ได้ว่าซื้ออะไรมาบ้าง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดปัญหาซื้อของซ้ำกันหลายชิ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ทำให้คุณพ่อ คุณแม่มือใหม่กระเป๋าเบามานักต่อนักแล้ว โดยแนะนำให้จดรายการของใช้จำเป็นทั้งหมดลงในสมุดเล็ก ๆ ไว้ หากซื้อชิ้นไหนมาแล้วก็แค่ขีดออก คราวนี้ก็หมดปัญหาซื้อของซ้ำกัน แถมยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย

4. ยอมจ่ายแพงสำหรับของบางสิ่ง เพื่อประหยัดกว่าในระยะยาว

          ของใช้บางอย่าง เช่น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเด็ก คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินมากนักกับส่วนนี้ เพราะเด็ก ๆ โตไว้ ใส่ได้ไม่ทันไรก็จะคับเกินไปเสียแล้ว แต่สำหรับของใช้บางสิ่ง อย่างรถเข็นเด็ก คาร์ซีทแบบปรับระดับได้ เครื่องปั๊มน้ำนม ฯลฯ ก็ต้องการความแข็งแรง และคุณภาพที่ดีมากกว่าจะใส่ใจเฉพาะเรื่องราคา รับประกันว่ายอมจ่ายแพงหนึ่งครั้งในคราวนี้แล้วจะคุ้มค่ากว่าในระยะที่ยาวนานกว่า ไม่ต้องอารมณ์เสียกับของราคาถูกแต่เสียไว สุดท้ายก็ต้องมาซื้ออันใหม่ไปเปลี่ยนบ่อย ๆ อยู่ดี


5. ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กให้เป็นประโยชน์

          เชื่อเลยว่าคุณแม่ยุคใหม่สมัยนี้ต้องเคยเข้าไปค้นหา และขอคำปรึกษาในการแก้ปัญหาเลี้ยงดูลูกน้อยในชุมชนออนไลน์เรื่องแม่และเด็ก หรือกดไลค์ให้แฟนเพจของบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอยู่แน่ ๆ สำหรับส่วนของสังคมออนไลน์ ขอบอกว่าสังคมคุณแม่ส่วนใหญ่จะเอื้อเฟื้อกันมาก นอกจากคำแนะนำแล้ว ยังมีการแลกเปลี่ยนและส่งต่อของใช้มือสองสภาพโอเค ที่ลูก ๆ ของพวกเธอโตเกินจะใช้ได้อีกให้กับคุณแม่คนอื่น ๆ ด้วย คุณจึงสามารถรับต่อของเหล่านี้ได้ อีกทั้งยังสามารถระบายข้าวของที่เหลือใช้ของเจ้าตัวเล็กให้คนอื่นได้อีกด้วย

6. ช้อปปิ้งออนไลน์อย่างมีลิมิต

          ต้องยอมรับว่าการซื้อของผ่านออนไลน์นั้นสะดวกสบาย แต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่บานปลาย เพราะมีของล่อตาล่อใจมากมายที่ชวนให้คุณแม่เกิดกิเลสจนเผลอกดสั่งไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งของบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ ดังนั้น จึงต้องใจแข็ง ไม่ตกเป็นเหยื่อการตลาดและซื้อแต่ของที่จำเป็นเท่านั้น โดยท่องไว้เสมอว่าเราต้องประหยัดเพื่อเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็นเท่านั้น

7. ซื้อของมือสองบ้างก็ไม่เป็นไร

          เจ้าหนูของคุณไม่รู้และไม่สนใจหรอกว่าเสื้อผ้าที่เขาใส่หรือของเล่นที่เขาเล่นอยู่ จะเป็นของที่ถูกส่งต่อมาจากใครหรือไม่เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรหากว่าคุณจะหาซื้อเสื้อผ้า ของเล่น และของใช้สำหรับเด็กแบบมือสองมา เพียงแต่ต้องคอยสังเกตและเลือกซื้อของที่ยังสภาพดีเท่านั้น สำหรับเสื้อผ้าเด็กส่วนใหญ่มักนำมาขายเพราะซื้อมาผิดไซซ์ หรือใส่แค่ไม่กี่ครั้งลูกก็โตเกินไป จึงทำให้สภาพไม่เก่ามากนัก ส่วนของเล่นหรือของใช้ก็อาจส่งต่อเพราะลูกมีอยู่เยอะแล้ว หรือโตเกินวัยที่จะเล่น ดังนั้นราคามือสองย่อมถูกกว่ามือหนึ่งขึ้นห้างแน่นอน แต่ก็ต้องเลือกซื้อจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ และอย่าลืมทำความสะอาดอย่างดีทุกครั้งก่อนนำมาใช้

8. ลูกดื่มนมแม่ได้ก็ยิ่งดี

          คุณแม่หลาย ๆ คนอาจมีปัญหาในการให้นมลูก ไม่ว่าจะเป็นเจ็บหัวนม หัวนมบอด หัวนมเป็นแผล ไม่มีน้ำนม ฯลฯ จึงต้องพึ่งนมผง ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่สามารถทดแทนกันได้ดี แต่สำหรับคุณแม่ที่โชคดีสามารถให้นมลูกได้โดยไม่มีปัญหา ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะนอกจากคุณจะประหยัดค่านมผงแล้ว ช่วงเวลาที่ให้นมยังทำให้ได้ใกล้ชิดผูกพันกับลูกน้อยมากขึ้นด้วย

9. นมผงบ้าน ๆ VS ยี่ห้อดัง

          คนที่เป็นพ่อแม่ย่อมต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก ยิ่งเป็นเรื่องการกินที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเขาโดยตรง หากคิดว่าอะไรดีกว่าแม้ราคาแพงกว่าก็พร้อมจะจ่าย และสำหรับนมผงที่จะซื้อให้ลูกน้อยก็คงจะเลือกยี่ห้อดี ๆ ตามที่มีโฆษณาบอกว่าให้คุณประโยชน์ที่ดีต่อลูกน้อยกันแน่นอน ซึ่งราคาก็มักจะสูงกว่ายี่ห้อบ้าน ๆ ด้วย สำหรับเรื่องของนมผงนี้ หากมีความสามารถจะจ่ายก็สามารถเลือกซื้อได้ตามที่ต้องการ เพียงแต่ข้อเท็จจริงของนมผงนั้นก็คือทุกยี่ห้อไม่ว่าแบรนด์ทั่วไป หรือแบรนด์ดัง ย่อมมีสารอาหารพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับเด็กครบถ้วนอยู่แล้ว ราคาที่แพงกว่าของยี่ห้อดังอาจเพราะมีสารบางตัว เช่น มี DHA สูงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ จึงกลายเป็นจุดขายให้ราคาสูงขึ้นนั่นเอง ดังนั้นหากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย เพียงแค่อ่านฉลากที่บ่งสารอาหารว่ามีครบตามวัยที่ลูกต้องการก็พอแล้ว

10. เปลี่ยนของใช้ใกล้มือให้เป็นของเล่นสำหรับลูก

          ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นของเล่นสำหรับเจ้าหนูน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็ราคาไม่น้อยเลยจริงไหม ? ถ้าอย่างนั้นคุณแม่ลองเปลี่ยนของใช้ในบ้านให้กลายเป็นของเล่นสำหรับเจ้าตัวน้อยดูบ้างดีกว่า อย่างหม้อกับกล่องทัปเปอร์แวร์ และช้อนไม้ด้ามยาว ก็แปลงเป็นกลองและไม้กลองของเขาได้ หรือจะแปลงลังใส่ของหลาย ๆ ใบมาต่อกัน เจาะช่อง ติดสกอตเทปให้แน่นหนา ก็กลายเป็นป้อมปราการหลังน้อยของเจ้าหนูได้อีกด้วย เพียงแค่ใช้สองมือบวกกับไอเดียเจ๋ง ๆ ของคุณแม่ก็สามารถสร้างของเล่นที่มีชิ้นเดียวในโลกให้พวกเขาได้โดยไม่ต้องซื้อให้เปลืองเงินอีกต่อไป

11. เป็นเชฟส่วนตัวของเจ้าหนู ดีกว่าซื้ออาหารสำเร็จรูป

          อาหารเด็กอ่อนนั้นราคาสูงเอาการ แต่ก็ให้ความสะดวกสบายในการใช้ด้วย แต่หากว่าคุณแม่มีเวลาเข้าครัวเองคุณก็สามารถเตรียมอาหารสำหรับลูกน้อยได้เช่นกัน จะกล้วย ฟักทอง ผักผสม เนื้อไก่สับ ตับบด ฯลฯ ขอแค่มีเครื่องช่วยประกอบอาหาร (food processer) กับถาดทำน้ำแข็ง ปั่นส่วนผสมที่ต้องการลงไป ตักใส่หลุมถาดน้ำแข็ง แช่ช่องฟรีซ เสร็จแล้วก็แบ่งมากินได้เป็นมื้อ ๆ อุ่นกินได้เหมือนกับอาหารเด็กที่วางขายเป๊ะเลย และรับรองถ้าทำแบบนี้ได้จะทุ่นเงินส่วนอาหารของเจ้าตัวน้อยไปได้ครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว

12. เครื่องนอนเจ้าตัวน้อย ไม่ต้องซื้อยกชุดก็ได้

          เครื่องนอนของเด็กเล็กวัยไม่ถึง 12 เดือน ไม่จำเป็นต้องซื้อทีละยกชุดก็ได้ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตมักจัดเป็นชุดมาให้ ทั้งฟูก หมอน ผ้าห่ม และหมอนข้าง แต่ที่จริงแล้วเด็กแรกเกิดยังไม่มีท่านอนอะไรมากมาย แถมการมีเครื่องนอนหลาย ๆ อย่างยังเสี่ยงกับการไปอุดจมูกและปาก ทำให้เจ้าตัวเล็กหายใจไม่สะดวกและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นแนะนำให้ซื้อแยกชิ้นตามที่จำเป็นจะช่วยประหยัดเงินได้มากกว่า อีกทั้งยังสามารถเลือกของได้ตามคุณภาพที่ต้องการได้อีกด้วย

          วิธีเหล่านี้ได้มาจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเรื่องแม่และเด็ก รวมทั้งคุณแม่ผู้มีประสบการณ์หลายคน รับรองว่าใช้ได้ และถ้านำไปใช้จริง จะช่วยประหยัดเงินไปได้ไม่น้อยแน่นอนค่ะ