เลือกนมให้ลูกทารกวัย 0-1 ปี (modernmom)
โดย : นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี
รู้จักประเภทของนม ก่อนเลือกให้เหมาะสมกับลูกวัยขวบปีแรก
ทารกแรกเกิดถึง 1 ปี นั้น โดยปกติมีนมแม่เป็นอาหารหลัก แต่หากไม่สามารถให้นมแม่ได้ด้วยเหตุใดก็ตาม จำเป็นต้องให้นมอื่นแทน ซึ่งในท้องตลาดบ้านเรามีนมหลายหลากชนิดจนตัดสินใจเลือกซื้อไม่ถูก คุณแม่จึงจำเป็นต้องมีความรู้เบื้องต้น เพื่อที่จะได้เลือกซื้อนมที่เหมาะสมกับเจ้าตัวเล็กครับ
การเลือกนมนั้นก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าลูกอยู่ในวัยไหนแล้ว เพื่อจะได้เลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของลูก ถ้าลูกอยู่ในวัยทารก (ที่ปกติต้องดื่มนมแม่เป็นอาหารหลัก) ก็ ควรจะเลือกนมที่ดัดแปลงให้คล้ายนมแม่ที่สุด เพื่อตรงต่อความต้องการของลูกน้อย
แต่ถ้าลูกอยู่ในภาวะที่มีปัญหาเรื่องของสุขภาพ คุณแม่ก็เลือกใช้นมตามคำแนะนำของแพทย์จะปลอดภัยที่สุด เพราะได้ผ่านการวินิจฉัยหาสาเหตุก่อนจึงจะเลือกนมได้ถูกต้อง
นมชนิดปกติ
คือนมวัวที่นำมาดัดแปลงให้มีสารอาหารในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อเป็นอาหารของทารก ที่พบเห็นได้ตามท้องตลาด และเป็นนมที่คุณแม่สามารถเลือกซื้อได้เอง
นมผงชนิดอาหารทารก
ผลิตมาจากนมวัวที่สกัดเอาสารอาหารที่เกินออกไปคือ และเติมสารอาหารที่ขาดให้มีครบถ้วนสมบูรณ์ หรือให้มีสารอาหารคล้ายคลึงน้ำนมแม่มากที่สุด เพื่อให้เหมาะแก่การเจริญเติบโตของลูกน้อยวัยขวบปีแรกที่มีนมแม่เป็นอาหารหลัก ซึ่งสารอาหารในนมวัวที่ต้องสกัดออกนั้นคือ สารอาหารประเภทโปรตีน โดยทั่วไปจะสกัดโปรตีนออกไปครึ่งหนึ่ง ส่วนสารอาหารที่ต้องเติมนั้นได้แก่
สารอาหารประเภทน้ำตาลนม (Lactose) ในนมวัวมีน้อยกว่าในนมแม่ ดังนั้นจึงต้องเติมน้ำตาลนมลงไปเพื่อให้มีสัดส่วนอาหารเช่นเดียวกับนมแม่
สารอาหารประเภทไขมัน แม้ว่าจะมีปริมาณเท่า ๆ กับนมแม่ คือประมาณครึ่งหนึ่งของพลังงาน แต่ปัจจุบันก็มีการดัดแปลงโดยมักจะใช้น้ำมันพืชเข้ามาช่วย เพื่อให้ได้กรดไขมันไม่อิ่มตัวโดยเฉพาะกรดไขมันจำเป็นที่เรียกว่า Linoleic Acid ในสัดส่วนที่สูงขึ้นเท่า ๆ กับนมแม่
วิตามินและเกลือแร่ มีการสกัดและการเติมเข้าไปให้มีเพียงพอและเหมาะสม เช่น วิตามินดี วิตามินอี และธาตุเหล็กให้มีเพียงพอ และยังมีการสกัดให้มีฟอสฟอรัสในรูปฟอสเฟตต่ำลง เพื่อให้สัดส่วนแคลเซียมต่อฟอสฟอรัสที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้การดูดซึมอาหารของทารกเป็นไปได้อย่างเหมาะสม และไม่เกิดปัญหาภาวะแคลเซียมต่ำ
เหมาะสำหรับ : ทารกทั่วไปสามารถให้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 1 ปี โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนม เช่นเดียวกับการให้นมแม่เป็นอาหารหลักวัยขวบปีแรกครับ
นมชนิดสูตรต่อเนื่อง
นมชนิดสูตรต่อเนื่อง เป็นนมที่เกิดจากทฤษฎีที่ว่า หากให้นมแม่และให้อาหารเสริมร่วมด้วย สัดส่วนของสารอาหารเปลี่ยนแปลงไป ก็ควรได้รับสารอาหารประเภทโปรตีนสูงกว่านมแม่ โดยนมสูตรนี้จะมีปริมาณโปรตีนในสัดส่วนครึ่งหนึ่งระหว่างนมแม่กับนมวัว
เหมาะสำหรับ : ทารกอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป แต่เนื่องจากหลัง 1 ปีก็ยังใช้เป็นอาหารเสริมได้ จึงให้ใช้ได้ถึงอายุ 3 ปี ในหลักการนี้อนาคตอาจไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะหากยึดทฤษฎีที่ว่านมแม่เป็นอาหารหลัก เป็นอาหารธรรมชาติ เมื่อให้แล้วได้อาหารเสริมตามวัย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้นมสูตรที่มีโปรตีนสูง แต่ในปัจจุบันก็ยังมีการเปลี่ยนชนิดอยู่เมื่อ 6 เดือนเป็นส่วนใหญ่ครับ
นมแพะ
นมแพะเป็นนมที่ได้มาจากแพะ แต่สำหรับเด็กทารกแรกเกิดจนถึงขวบปีแรกต้องผ่านกระบวนการปรับให้มีปริมาณโปรตีนและเกลือแร่ลดลงให้เท่า ๆ กับนมแม่ จึงจะสามารถนำมาเลี้ยงทารกได้ครับ โดยปกติแล้วมักจะพบมีการแพ้โปรตีนนมน้อยชนิดนี้ อาจจะเป็นเพราะคุณแม่ให้ลูกขวบปีแรกกินนมชนิดนี้น้อย และราคานมแพะก็ยังสูงกว่านมที่ผลิตจากนมวัว
เหมาะสำหรับ : เด็กทั่วไป และที่มีครอบครัวมีประวัติภูมิแพ้ หรือลูกเป็นภูมิแพ้เอง
นมชนิดพิเศษ
คือนมที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้เฉพาะในภาวะของโรคต่าง ๆ จะนำมาใช้ภายใต้การพิจารณาและการดูแลของแพทย์เท่านั้น และมักจะใช้เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อลูกหายจากอาการเจ็บป่วยก็สามารถกลับมาใช้นมปกติได้ นมชนิดพิเศษที่เป็นอาหารรักษานี้มีหลายชนิดหลายรูปแบบ แต่ที่ต้องรู้จักและอาจจะต้องใช้บ่อย ๆ คือ
นมสำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด
สำหรับทารกที่คลอดก่อนกำหนด โดยทั่วไปหากไม่สามารถกินนมแม่ได้ จะถูกเลี้ยงด้วยนมสูตรพิเศษ ซึ่งเป็นนมสำหรับทารกที่มีน้ำหนักแรกคลอดน้อย ที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะสำหรับทารกที่คลอดก่อนกำหนด โดยจะมีการเพิ่มสารอาหารโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุลงในนมสูตรนี้มากกว่านมสูตรธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันและคาร์โบไฮเดรต เพื่อให้ทารกที่คลอดก่อนกำหนดสามารถเพิ่มน้ำหนักตัวให้เร็วขึ้น
เหมาะสำหรับ : ทารกคลอดก่อนกำหนดจะถูกเลี้ยงด้วยนมสูตรพิเศษนี้จนกระทั่งน้ำหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม เมื่อน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้วก็สามารถให้ลูกกินนมผสมสูตรมาตรฐานทั่วได้
นมสำหรับเด็กแพ้นมวัว
นมสำหรับเด็กแพ้นมวัว มักใช้นมที่ผลิตจากถั่วเหลือง แต่บางครั้งก็พบว่ามีโอกาสแพ้โปรตีนนมถั่วร่วมด้วยได้ นอกจากนี้นมบางชนิดโปรตีนก็อาจอยู่ในรูปกรดอะมิโนที่สามารถดูดซึมได้เลยโดยไม่ต้องย่อยอีก เช่น Nutramigen, Pregestimil นมชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษคือมีโปรตีนที่ย่อยแล้วจนอยู่ในรูปที่เล็กที่สุดของโปรตีน คือเป็นกรดอะมิโน (Amino Acid) ไม่ได้อยู่ต่อกัน จนเป็นโค้ดให้เกิดอาการแพ้ได้ นมสองชนิดนั้นจะมีรสที่ไม่อร่อยเลยครับ ซึ่งนมที่ย่อยได้สมบูรณ์เป็นกรดอะมิโนจะมีรสที่แย่ที่สุด แต่เด็กอาจไม่รู้สึกอะไรเลยเพราะได้รับการฝึกให้ดื่มมาแต่ต้น โดยปกตินมชนิดนี้จะมีจำหน่ายในโรงพยาบาล และตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ
เหมาะสำหรับ : ทารกที่แพ้โปรตีนนมวัว ซึ่งใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด และใช้ในกรณีการย่อยโปรตีนบกพร่อง หรือแพ้โปรตีนต่าง ๆ
นมเนื้อไก่
นมเนื้อไก่นี้ผลิตจากเนื้อไก่โดยตรง ซึ่งปกติเนื้อไก่จัดว่าเป็นโปรตีนที่มีโอกาสแพ้น้อยที่สุด และมีส่วนผสมของสารอาหารที่สำคัญอื่น ๆ อย่างครบถ้วน จึงสามารถนำมาใช้ในเด็กที่แพ้นมวัวได้ครับ หากคุณแม่จะให้นมเนื้อไก่แก่ลูก ก็ควรจะเฝ้าสังเกตดูด้วยว่ามีอาการแพ้ใด ๆ หรือไม่ แต่นมจากเนื้อไก่นั้นแพ้น้อยอยู่แล้ว ส่วนการหาซื้อนั้นยังไม่มีขายทั่วไป เพราะเป็นนมที่ผลิดโดยแพทย์ไทยที่โรงพยาบาลศิริราช ใช้ภายในโรงพยาบาล ยังไม่ได้ผลิดเป็นรูปอุตสาหกรรม
เหมาะสำหรับ : เด็กที่แพ้นมวัวและสามารถให้ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป
นมถั่วเหลือง
การใช้นมถั่วเหลืองในทารกขวบปีแรกนั้น ควรใช้นมถั่วเหลืองสูตรสำหรับทารก เพราะจะมีการดัดแปลงและเติมสารอาหาร เช่นแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ ให้ครบถ้วนและเหมาะกับทารกวัยขวบปีแรก แต่ไม่ใช่ให้กินน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองสำหรับเด็กโตหรือผู้ใหญ่ครับ ในรายละเอียดคุณแม่อาจขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้ดูแลลูกเพิ่มเติมได้
เหมาะสำหรับ : ในกรณีลูกแพ้นมวัวสามารถนำมาใช้กับลูกได้ตั้งแต่แรกเกิด
นมสูตรหนืด
นมสูตรหนืดพิเศษนั้น เป็นนมที่เติมพวกแป้ง เช่น แป้งข้าวโพดเข้าไปในนม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความหนืด และทำให้นมไหลย้อนกลับขึ้นมายังช่องคอและปากได้ยากขึ้น แม้นมสูตรนี้จะมีการเติมแป้งลงไปแต่ก็ละลายง่ายที่อุณหภูมิห้อง สามารถผ่านจุกนมได้อย่างง่ายดาย แต่นมจะมีความข้นเมื่ออยู่ในสภาวะกรดเหมือนในสภาวะกรดในกระเพาะลูกครับ นมสูตรหนืดนี้มีจำหน่ายตามโรงพยาบาลและร้านค้าใหญ่บางร้านเท่านั้น
เหมาะสำหรับ : เด็กที่มีภาวะแหวะนม อาเจียน หรือโรคบางชนิดเช่น โรคกรดไหลย้อน เป็นต้น ได้ตั้งแต่แรกเกิด
แม้ว่านมผสมสำหรับลูกวัยขวบปีแรกในท้องตลาดจะมีให้เลือกมากมาย แต่หากคุณแม่รู้จักเลือกใช้ให้ถูกต้องตามความเหมาะสมแล้ว ลูกก็จะได้ประโยชน์จากนมครบถ้วนและปลอดภัย แถมคุณแม่ก็จะประหยัดอีกด้วยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก